ศูนย์ข่าวภูมิภาค - สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดยังน่าห่วง หลังยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง ขณะที่บางจังหวัดวิกฤตมากขึ้น โดยเฉพาะน้ำลำตะคองได้เอ่อท่วมตัวเมืองโคราชหลายจุดแล้ว ขณะที่ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงเขื่อนลำตะคอง ยัน เขื่อนลำตะคองยังรองรับน้ำได้อีกมาก ปชช.อย่ากังวล ด้านชลประทานระยองยันอ่างเก็บน้ำประแสร์ไม่มีร้อยร้าว
สถานการณ์น้ำท่วมในภาคกลางจังหวัดที่ถือว่าสาหัสที่สุด คือ จังหวัดลพบุรี กระแสน้ำไม่เพียงสร้างความเสียหายให้แก่ทรัพย์สินของชาวบ้าน นับหมื่นครัวเรือน ล่าสุดเริ่มมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างชุมชน จากปัญหาการระบายน้ำพื้นที่หนึ่งลงสู่อีกพื้นที่หนึ่ง
นายจารุพงศ์ พลเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดลพบุรีล่าสุดว่า ขณะนี้มี 2 อำเภอที่ยังอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลม ทั้งในเขตอำเภอเมือง และอำเภอบ้านหมี่ ส่วนที่อำเภอโคกสำโรง สถานการณ์เริ่มบรรเทาลง สำหรับสาเหตุหลักที่เกิดน้ำท่วมหนักในจังหวัดลพบุรีครั้งนี้ เกิดจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมามากเมื่อสัปดาห์ก่อน รวมทั้งปริมาณน้ำจากที่สูงไหลมารวมกัน โดยเบื้องต้นกรมชลประทานได้ประเมินปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่จังหวัดลพบุรีประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งทางจังหวัดได้ร่วมมือกับกรมชลประทานทำการเปิดทางระบายน้ำ จัดสรรน้ำลงคลองชลประทานชัยนาท
ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังมีพื้นที่รองรับปริมาณน้ำมากถึงร้อยละ 50 แต่ปัญหาหลักคือ เขื่อนป่าสักฯ ไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำในอำเภอที่น้ำกำลังท่วมอยู่ได้เพราะอยู่คนละฝั่งเขา อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกวัน เพื่อวางแผนในการรับมือ รวมทั้งแก้ไขปัญหาหลังปริมาณน้ำลด
สำหรับการเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี กล่าวว่า จากการสำรวจเบื้องต้นมีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 80,000 คนใน 23,565 หลังคาเรือน ขณะนี้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดสรรเรือท้องแบนจำนวน 72 ลำ เครื่องสูบน้ำจำนวน 47 เครื่อง กระสอบทราย 15,000 ถุง เวชภัณฑ์และยารักษาโรคที่จำเป็นกว่า 4,000 ชุด เครื่องทำน้ำดื่ม พร้อมตั้งเต็นท์สงเคราะห์ผู้ประสบภัย 13 หลัง และได้จ่ายถุงยังชีพไปแล้วครบทุกหลังคาเรือนหรือกว่า 20,000 ถุง
ส่วนที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านอำเภอผักไห่ เสนา และบางบาลเพิ่มสูงขึ้น จนเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่สวนกล้วยเสียหายจำนวนมาก เกษตรกรต้องเร่งขุดหน่อกล้วยขึ้นมาเพื่อลดความเสียหาย
ลำตะคองท่วมตัวเมืองโคราชหลายจุดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา ด้วยว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องหลายวัน ประกอบกับระดับน้ำในลำตะคอง ที่ไหลผ่านตัวเมือง จ.นครราชสีมา มีระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำเอ่อท้นท่วมถนนสายบ้านใหม่ ศรีษะละเล มะขามเฒ่า ในเขต อ.เมืองนครราชสีมา ส่วนในเขตเทศบาลมีน้ำท่วมขังหลายจุดเช่นกัน ขณะที่บริเวณสามแยกจักรัส หัวทะเล มีน้ำท่วมถนนสูง 50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ส่วนเขื่อนลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำมากจนเกือบวิกฤต พร้อมเตือนให้ชาวบ้านเตรียมอพยพแล้ว
นายสิทธิโรจน์ กองแก้ว ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงเขื่อนลำตะคอง เปิดเผยว่า หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน จนเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม อ.ปากช่อง นั้น ที่ผ่านมาระดับน้ำที่ไหลเข้าสู่เขื่อนมีระดับสูงที่สุด ในช่วงฝนตกหนัก คือ วัดปริมาณน้ำได้ถึง 18 ล้านลูกบาศก์เมตร วัดปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นได้ 12 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมปริมาณน้ำในเขื่อนลำตะคองปัจจุบันวัดได้ 193 ล้านลูกบาศก์เมตร หรืออยู่ที่ร้อยละ 61 ของความจุ ซึ่งเขื่อนลำตะคองสามารถรับน้ำได้ในระดับกักเก็บได้ถึง 323.95 ล้านลูกบาศก์เมตร ยังเหลืออีก 100 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ถึงจะได้ในระดับกักเก็บ ในส่วนของการเก็บน้ำระดับสูงสุด จะอยู่ที่ 445 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งทางเขื่อนลำตะคองยังรองรับน้ำได้อีกมาก และขอให้มั่นใจได้ว่าเขื่อนลำตะคองมีการตรวจเช็คสภาพเขื่อนอยู่เป็นประจำ ถึงจะมีอายุกว่า 30 ปีแล้วก็ตาม
ขณะเดียวกัน เขื่อนลำตะคอง ได้ปิดส่งน้ำตั้งแต่วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำจากเขื่อนจะเข้าหนุนกับน้ำฝน และจะทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วม เนื่องจากเมื่อทราบว่ามีฝนตก ทางเขื่อนได้สั่งปิดจ่ายน้ำทันที เพื่อเร่งกักเก็บน้ำในเขื่อน เพื่อใช้ในช่วงหน้าแล้งที่ฝนจะทิ้งช่วง และเพื่อให้เกษตรกรที่เพาะปลูกรวมถึงประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนที่ต้องพึงพาน้ำจากลำตะคองได้มีใช้กันในช่วงหน้าแล้ง
หลายพื้นที่ปราจีนบุรีท่วมหนัก-ถนนจมบาล
ด้านเจ้าหน้าที่ดูแลอ่างเก็บน้ำประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี ยืนยันว่า อ่างยังมีความแข็งแรง ไม่มีรอยร้าวอย่างที่มีข่าว และยังสามารถรองรับน้ำได้อีก อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้สั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวในอุทยานฯ รวมทั้งน้ำตกทุกแห่งในอำเภอประจันตคามแล้ว
นางพรรณี แก่นสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า จากที่ฝนตกติดต่อกันตลอดทั้งวัน น้ำได้เอ่อท่วมถนนสาย 304 (กบินทร์บุรี–นาดี) ตั้งแต่หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกี่ (อบต.) อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เป็นทางยาวกว่า 300 เมตรเศษ ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50 ซม. ได้ระดมเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เร่งระบายสูบน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำรวม 4 เครื่องตลอดทั้งวันไม่ให้น้ำไหลท่วมเขตอุตสาหกรรมและบ้านเรือนประชาชน พร้อมนำกระสอบทราบกั้นเป็นแนวกันน้ำอีกด้วย
นายสมหมาย วิเชียรฉันท์ นายอำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า น้ำจากแควพระปรงที่เอ่อท่วมถนนสายสุวรรณศร (33) ตั้งแต่ ต.เมืองเก่า – ต.บ้านนา อ. กบินทร์บุรีเป็นช่วงๆ ระดับน้ำได้ท่วมสูงเพิ่มกว่า 30 – 50 ซม.แต่รถยังวิ่งไปมาได้ พร้อมกับมีหน่วยทหาร เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี หน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรม คอยอำนวยการด้านการจราจรและแจ้งเตือนแก่ผู้เดินทางตลอด และสถานการณ์ทั่วไปนั้นยังไม่วิกฤต” นายสมหมายกล่าว
นายจำรูญ สวยดี อดีตคณะอนุกรรมการลุ่มน้ำปราจีนบุรีกล่าวว่า ในทุก ๆ ปีช่วงน้ำหลากท่วมทุ่งนาสมัยก่อนนี้ จะทำให้ศัตรูพืชหนูนา หนีตามน้ำ หลังต้นข้าวตั้งต้นจะงดงามดีแต่ให้สังเกตปัจจุบัน ช่วงน้ำหลากโรงงานอุตสาหกรรมจะมักง่ายแอบปล่อยน้ำเสียลงกับน้ำหลากทุ่งดังกล่าวจะทำให้ต้นข้าวยืนต้นตายหลังน้ำลดขอให้เกษตรกรสังเกตด้วย
นักท่องเที่ยวยกเลิกทัวร์ล่องแก่งเกือบ 2 พันคน
ขณะที่นายดำริห์ รัตนชินกร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และรองประธานชมรมผู้ประกอบการธุรกิจเรือยางล่องแก่งหินเพิง กล่าวว่า ข่าวน้ำท่วมกระทบการล่องแก่งหินเพิง อ.นาดี จงปราจีนบุรี สำรวจยอดนักท่องเที่ยว ยกเลิกการจองล่องแก่ง รวมกว่า 200 ลำ จำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 1,600 คน
“ในเบื้องต้นได้ประสานกับสำนักงานการท่องเที่ยวให้ช่วยลงเผยแพร่ในเวบไซด์แจ้งแก่นักท่องเที่ยวว่า สภาพจริงกับข่าวที่เห็นนั้นไม่ตรงกัน แก่งหินเพิงยังสามารถล่องแก่งได้ตคามปกติอย่างสนุกสนาน หากเกิดภาวะวิกฤต อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลกจะแจ้งห้ามเล่นโดยเด้ดขาดทุกกรณีทันที คาดจากข่าวนร้ำท่วมนี้ในวันหยุดเสาร์–อาทิตย์จะเหลือนักท่องเที่ยว ราว 300 คน/วัน จากแต่เดิมจะมีนักท่องเที่ยวกว่า 800–1,000 คน/วันในวันหยุดเสาร์–อาทิตย์” นายดำริห์กล่าว
ชลฯ ระยองยันอ่างเก็บน้ำประแสร์ไม่มีร้อยร้าว
ทางด้าน นายเนตร อัจฉริยะพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระยอง เปิดเผยว่า ฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้มีน้ำจำนวนมากไหลลงอ่างเก็บน้ำประแสร์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 223 ล้านลูกบาศก์เมตรและยังสามารถรองรับได้อีก 27 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งได้ทำการพร่องน้ำออกวันละ 2.8 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรองรับน้ำใหม่ ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่า อ่างเก็บน้ำประแสร์มีความปลอดภัย สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ในตัวอ่างยังแข็งแรง ไม่เกิดการแตกร้าวหรือยุบตัวตามที่เป็นข่าว และขอให้ประชาชนอย่าได้ตกใจ เพราะสถานการณ์น้ำในอ่างสามารถควบคุมได้
ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหลักของ จ.ระยอง เช่น อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำประแสร์ มีปริมาณน้ำเฉลี่ยร้อยละ 80 และสามารถรองรับน้ำได้อีก
ฝนกระหน่ำซ้ำวังทองน้ำขังยิ่งเพิ่มสูง
ส่วนที่จังหวัดพิษณุโลกฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและบนเทือกเขาเพชรบูรณ์ ส่งผลให้ระดับในแม่น้ำวังทองเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนกว่า 3,000 ครัวเรือน 60 หมู่บ้าน 9 ตำบลใน อ.วังทอง ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะหมู่ 7 บ้านวังพรหม ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ระดับน้ำขังยิ่งเพิ่มระดับสูงขึ้นตาม และขยายวงกว้างออกไปอีก สัตว์เลี้ยงเริ่มขาดแคลนอาหารและเจ็บป่วย