พิษณุโลก - เครือข่ายนิสิตเพื่อประชาธิปไตยมหาวิทยาลัยนเรศวร เชื่อ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์-ซูเปอร์นอมินี” นั่งนายกฯ ปัญหาการเมืองยังไม่สงบ หนุนการเมืองใหม่ ล้างระบบการเมืองเก่า
รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า เครือข่ายนิสิตเพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้จัดเวทีเสวนาประชาธิปไตย ขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 16 ก.ย.51 ที่ผ่านมา โดยเชิญ อาจารย์จักร พันธุ์ชูเพชร อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, นายนิวัฒน์ ปองแก้ว สหภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ-แกนนำพันธมิตรฯ พิษณุโลก, นายชลิต นักระนาด ทนายความ และนายประวิทย์ ทานามัย นศ.ชั้นปีที่ 2 คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขึ้นเสวนาในสถานการณ์การเมืองที่กำลังร้อนแรงในขณะนี้ โดยมีนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวรหลายคณะเข้าร่วมเสวนา ทั้งกลุ่มเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
นายนิวัฒน์ ปองแก้ว แกนนำพันธมิตรฯพิษณุโลก กล่าวว่า อยากให้นิสิตนักศึกษาสนใจการเมือง การเรียนรู้นอกตำราถือเป็นประโยชน์กับการเรียนวิชารัฐศาสตร์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ทำให้ความวุ่นวายจบลง เพราะระบบทักษิณยังเป็นแกนนำรัฐบาล ส่งที่น่าห่วง คือ การแก้รัฐธรรมนูญ จะทำให้วุ่นวายอีกครั้ง
อาจารย์จักร พันธุ์ชูเพชร อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ กล่าวว่า คนนิ่งเฉย เป็นสิ่งที่น่ากลัว การที่บอกว่า เป็นกลาง ไม่ประกาศตัวว่าอยู่ข้างใด จะถูกอีกฝ่ายดึงเข้าเป็นพวก วันนี้ รัฐบาลมองว่า หากนักศึกษาคือ พลังบริสุทธิ์หากอยู่ข้างใด ฝ่ายตรงข้ามมักพ่ายแพ้ ฉะนั้นรัฐบาลจะบอกว่า ห้ามนิสิตนักศึกษาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่พอฤดูเลือกตั้งกลับเชิญชวนนักศึกษาอายุเกิน 18 ปีไปเลือกตั้ง
อาจารย์จักร ย้ำอีกว่า รายการความจริงวันนี้ ที่ช่อง NBT ถือเป็นความเลวร้ายของรัฐบาลที่เติมเชื้อไฟอยู่ตลอดเวลา สร้างความแตกแยกในสังคม และที่สำคัญเอาภาษีประชาชนไปผูกขาดความคิดในระบบทักษิณ หากเป็นทีวีของเอกชนอย่าง ASTV คงไม่มีปัญหา แต่ “3 เกลอ” กลับเอาเงินภาษีของคนไทยไปจัดรายการ
นายชลิต นักระนาด ทนายความ กล่าวว่า อดีตที่ผ่านมานักปกครองบ้านเมืองเป็นฝ่ายทหาร จึงไม่ค่อยมีปัญหา แต่วันนี้ กลายเป็น นักธุรกิจการเมือง ทำให้ปัญหาเกิดขึ้น สาเหตุของปัญหาก็คือ รัฐบาลชุดนายสมัคร ที่ปากบอกว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญ จะแก้ก็ต่อเมื่อก่อน 3 เดือนจะหมดวาระ แต่เอาเข้าจริงๆ ทำงานเพียงแค่ 3 เดือนก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อล้มล้างความผิดให้เจ้านาย นำมาสู่ การเคลื่อนไหวที่ราชดำเนินและทำเนียบ
นายประวิทย์ ทานามัย นศ.ชั้นปีที่ 2 คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร กล่าวว่า กลุ่มเครือข่ายนิสิตเพื่อประชาธิปไตยมหาวิทยาลัยนเรศวร เห็นความผิดผลาดในการบริหารงานของรัฐบาล ที่ปล่อยให้มีการตีกันสร้างความแตกแยกในสังคม
“ผมอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล และคิดว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ปัญหาก็ยังไม่จบ และเครือข่ายนิสิตเพื่อประชาธิปไตยมหาวิทยาลัยนเรศวรก็ยังสู้ต่อไป ปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นจากคนคนเดียว คือ ทักษิณ ชินวัตร”
นายสาคร สงมา แกนนำพันธมิตรฯ พิษณุโลก กล่าวว่า การเมืองระบบเก่า ประเทศไทยจะเดินไปไม่รอด ฉะนั้นจะต้องให้มีการระดมแนวความคิดและสานต่อ หากความเป็นไปได้ในหลายภาคส่วน เพราะ การเมืองใหม่ คือ ระบบตัวแทนหลายภาคส่วน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารประเทศ เพื่อจะได้ปกป้องผลประโยชน์ในแต่ละภาคอุตสาหกรรม หรือ เกษตรกรรมในหลายหลายชนิด ประเด็นสำคัญ คือ จะได้คนรุ่นใหม่มีสัดส่วน ออกสิทธิ์ออกเสียง ไม่ใช่ผูกขาดกับตระกูลนักเมืองรุ่นเก่าๆ ที่วนเวียนอยู่กับ สามี ภรรยา ลูกนักการเมืองไม่กี่ตระกูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายของการเสวนาได้เปิดโอกาสซักถาม ทำให้นักศึกษา ปีที่ 2 คณะสังคมศาสตร์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้ลุกขึ้นประกาศว่า ตนของอยู่เป็นกลาง ไม่ใช่ว่า หากใครชนะ แล้วตนจะไปอยู่ข้างชนะ แต่เป็นเพราะตนไม่ทราบว่า จะอยู่ข้างรัฐบาลหรือพันธมิตรดี กรณีสร้างความรุนแรงและเกิดความแตกแยกระหว่างประชาชนคนในชาติด้วยกัน โดยไม่รู้ว่า ฝ่ายใดผิด ดังนั้นตนจะไม่เข้าร่วมกับฝ่ายใด เช่นเดียวกับนักศึกษาอีกหลายคนที่ตั้งคำถามว่า รัฐบาลของนายสมัครไม่ได้ทำประโยชน์ใดบ้างรึ และพันธมิตรฯ ไม่มีใครพูดถึงข้อเสียบ้าง แต่ก็ยังดีที่มีพันธมิตรกล้าเป็นโปงความเลวร้ายของรัฐบาลที่มีแต่ทุจริต คอรัปชั่น