กาฬสินธุ์ - พบ 3 พี่น้องยอดกตัญญู ต้องผลัดเปลี่ยนกันขาดเรียน เพื่อกลับมาดูแลยายวัย 67 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัว เผยชีวิตสุดรันทดแม่เสียชีวิตพ่อทิ้งหนีไปแต่งงานใหม่ ต้องเผชิญกับความลำบากอดเมื้อ กินเมื้อวอนผู้ใจช่วยเหลือ
เรื่องราวของ 3 พี่น้องที่ต้องสูญเสียมารดาตั้งแต่ยังเด็กส่วนบิดากลับทิ้งหนีไปแต่งงานใหม่ จึงต้องทนทุกข์ลำบากอยู่กับยายวัย 67 ปี ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์ไตวาย ความดัน ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้ต้องหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันหยุดเรียนเพื่อที่จะกลับมาคอยดูแลยายที่บ้าน เปิดเผยขึ้น เมื่อวันที่ 13 กันยายน โดยนายเดชา ตันติยวรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นางพิไลลักษณ์ ตันติยวรงค์นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดตัวแทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ได้เดินทางเข้าเยี่ยมมอบถุงยังชีพ เครื่องนุ่งห่ม และทุนการศึกษาให้กับเด็กชายอนุวัฒน์ ศรีพราว อายุ 14 ปีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เด็กหญิงคณิตา ศรีพราว อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ เด็กชายทศพร ชูช้าง อายุ 8 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งทั้ง 3 คนเป็นพี่น้องกัน และกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนหนองฟ้าเลื่อนอำนวยวิทย์อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 9 ตำบลแจนแลน อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูนชั้นเดียว อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พบเด็กทั้ง 3 คนกำลังช่วยกันหุงหาอาหารอยู่ ส่วนนางบุญเลี้ยง ชูช้าง อายุ 67 ปี ผู้เป็นยายที่ป่วยอัมพฤกษ์ไตวาย ความดันไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มีอาการทรุดหนัก เพื่อนบ้านได้นำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้ว
นายเดชา กล่าวว่า หลังจากได้รับรายงานจากสำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดว่ามีเด็กนักเรียน 3 คนฐานะยากจน มารดาเสียชีวิต ส่วนบิดาหนีไปมีแฟนใหม่ ปล่อยให้ลูกทั้ง 3 คนต้องอาศัยอยู่กับยายที่เป็นอัมพฤกษ์ ความดัน ไตวายไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้ผู้เป็นพี่คนโต และคนกลางต้องผลัดเปลี่ยนกันขาดโรงเรียนบางวิชากลับมาดูแลยายที่บ้าน
นอกจากนี้ครอบครัวดังกล่าวยังมีฐานะยากจนจึงทำให้ต้องอดเมื้อกินเมื้อ เนื่องจากไม่มีเงินที่จะซื้อกับข้าว อาศัยเพื่อนบ้านและญาติๆแบ่งข้าวปลาอาหารให้ ดังนั้นเบื้องต้นทางจังหวัดกาฬสินธุ์จึงร่วมกับเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันนำเครื่องใช้ที่จำเป็น และมอบทุนการศึกษาให้กับครอบครัวดังกล่าว เพื่อที่จะนำไปเป็นทุนการศึกษาและเป็นเงินค่ารักษายายที่ป่วย จากนั้นจะประสานไปยังหน่วยงานราชการต่างๆและประชาชนที่มีจิตศรัทธาช่วยกันบริจาคเงิน เพื่อที่จะเป็นทุนการศึกษาและเป็นเงินสำรองไว้ให้เด็กทั้ง 3
คนใช้ประจำวัน เนื่องจากเด็กทั้ง 3 คนเรียนเก่ง และอายุยังน้อย คงไม่สามารถทำงานและมีรายได้มากนัก
ด้านนางสมร พุทธรัตน์ อายุ 36 ปี ผู้เป็นป้า กล่าวว่า นางจำเลือง ชูช้าง มารดาของเด็กทั้ง 3 คน เสียชีวิตหลายปีแล้ว ส่วนบิดาก็หนีไปมีแฟนใหม่ โดยไม่ยอมส่งเสียและติดต่อกลับมาแต่อย่างใด ปล่อยให้เด็กทั้ง 3 คน ต้องอยู่กับยายที่ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือเองได้ แถมยังมีฐานะยากจน โดยบางวันตนก็แบ่งอาหารให้ทั้ง 4 คน กิน บางวันเด็กทั้ง 3 คนก็ต้องออกไปเก็บผักตามไร่นา เพื่อนำมารับประทาน
ขณะที่นายอดิศักดิ์ ตั้งวงษ์เจริญสุข ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองฟ้าเลื่อนอำนวยวิทย์ กล่าวว่า ทางโรงเรียนทราบดีว่าเด็กทั้ง 3 คน มีฐานะยากจน ส่วนผู้เป็นพี่คนโตและพี่สาวคนกลางต้องผลัดกันขาดเรียนเป็นบางวิชา เพื่อที่จะกลับมาดูแล นางบุญเลี้ยง ผู้เป็นยาย ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ จึงอนุโลมให้ พร้อมกับให้เด็กทั้ง 3 คนรับประทานอาหารกลางวันฟรี และนำอาหารกลางวันกลับไปให้ยายที่บ้านได้
นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้ช่วยเหลือโดยการจัดหาทุนต่างๆ มอบให้เด็กทั้ง 3 คน จัดอุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้าให้ สำหรับผลการเรียนของเด็กทั้ง 3 คนนั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ แต่ถ้าทั้ง 3 ได้เรียนอย่างเต็มที่เหมือนเพื่อนคนอื่นๆเชื่อว่าผลการเรียนจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน เด็กหญิงคณิตา ศรีพราว อายุ 11 ปี กล่าวว่าสงสารยายที่ต้องป่วยทนทุกข์ทรมาน จึงต้องแบ่งหน้าที่กับพี่ชายคนโตเปลี่ยนกันขาดเรียนกลับมาดูแลยาย แต่ก็ไม่เคยคิดน้อยใจในวาสนา เพียงแต่ก็อยากเรียนให้สูงๆ เพื่อที่จะเป็นหมอรักษายายให้หาย
