พิจิตร – นายก อบจ.เมืองชาละวัน ค้านหัวชนฝา รัฐบาล “หมัก-หุ่นเชิด” จัดลงประชามติแก้เกมถูก พธม.ไล่ แนะรัฐบาลควรใช้หลักจิตสำนึกลาออกอย่างมีศักดิ์ศรี เผย ถ้าทำการลงประชามติ เชื่อ “รัฐ” ใช้ระบบสั่งการอยู่เบื้องหลัง-ซื้อประชามติ ยิ่งอัปยศกว่าการซื้อเสียง ชี้ ต่อไปก็จะเป็นวัฒนธรรมอุบาทว์ลุกลามถึงระดับท้องถิ่นเอาเยี่ยงอย่าง
วันนี้ (4 ก.ย.) นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.พิจิตร ให้สัมภาษณ์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ว่า ขณะนี้ชาวบ้านในต่างจังหวัดมีการแบ่งแยกเป็น 2 พวก แล้วมีความขัดแย้งกันไปทั่วทุกระแหง อีกทั้งขณะนี้รัฐบาลจะเปิดลงประชามติ ว่า เอารัฐบาล “สมัคร” หรือไม่เอา ในฐานะตัวแทน อปท.พิจิตร ก็ไม่เห็นด้วยเพราะการลงมติต้องมีกฎหมายรับรอง อีกทั้งเรื่องความมั่นคงของชาติ และเสถียรภาพของรัฐบาลไม่เคยมีชาติใดในโลกที่ใช้การลงมติ เพื่อความอยู่รอดของรัฐบาล ในขณะเกิดความแตกแยกทางความคิดในขณะนี้
อีกทั้งถ้ามีการเปิดลงประชามติจริงๆ รัฐ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมอำนาจก็จะใช้อำนาจบีบบังคับส่วนราชการใช้ระบบสั่งการให้ลงมติเห็นความชอบธรรมของรัฐบาลผ่านมา ยัง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. อปพร.และกลุ่มพลังต่างๆ
ในที่สุด ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ยอมรับอีก ก็จะวุ่นวายเหมือนเดิม เสียเงินจากการจัดการลงประชามติอย่างน้อย 2 พันล้าน เป็นการสูญเปล่า นอกจากนี้ ยังเชื่อว่า การที่รัฐบาลคิดจะให้ลงประชามติคราวนี้เป็นเพียงการซื้อเวลา และเป็นข้ออ้างยืดอายุของรัฐบาลมากกว่า ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ารัฐบาลไปไม่รอดแล้ว
นายก อบจ.พิจิตร บอกอีกว่า ไม่เห็นด้วยกับการลงประชามติ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลควรแสดงสปิริตทางการเมืองด้วยการยุบสภา, ลาออก คืนอำนาจให้กับประชาชน เป็นแนวทางที่ดีที่สุดขณะนี้เพราะถ้าต่อไปในอนาคต อบต.หรือ อบจ.ระดับท้องถิ่นเกิดเหตุการณ์แบบนี้ บรรดา นายก อบจ.หรือ นายก อบต.ก็จะใช้วัฒนธรรมอุบาทว์นี้ โดยอ้างรัฐบาลแม่ปูกับลูกปู ซึ่งจะทำให้นักการเมืองไร้จิตสำนึกไร้ความกระดากอายต่อบาปและการกระทำ
จริงๆ แล้วในนานาประเทศ แค่ประชาชนเคลือบแคลงในความบริสุทธิ์เขาก็ลาออกแล้ว แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ว่า ทำไมรัฐบาล “สมัคร” ยังดื้อดึงดันทุรังไม่ลาออกและใช้วิธีการซื้อเวลาด้วยการลงประชามติ
“ผมไม่เห็นด้วยเด็ดขาดถึงเปิดลงมติ ก็เป็นมติอุบาทว์เลวร้าย กว่าการซื้อสิทธิขายเสียงเลือกตั้งเสียอีก”