กลุ่มเหล้าพื้นบ้านต้านสรรพมิตลุยจับช่วงการเมืองป่วน/ขู่ร่วมกลุ่มต้านรัฐเพิ่ม

เชียงราย – เหล้าพื้นบ้านฮือต้านสรรพสามิตลุยจับช่วงการเมืองป่วนแลกสินบน 30-40% หวั่นจุดชนวนขัดแย้งเพิ่มในสังคม พร้อมขู่หากดื้อจับรวมกลุ่มต้านรัฐบาลแน่

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า กลุ่มชาวบ้านจากชมรมผู้ผลิตสุราพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ในเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ประมาณ 10 คน ซึ่งต่างเป็นตัวแทนจากชาวบ้านที่ผลิตสุรากลั่นพื้นที่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ได้เดินทางไปยังอาคารศูนย์ราชการกระทรวงการคลัง ถนนพหลโยธิน เทศบาลนครเชียงราย อ.เมือง จ.เชียงราย เพื่อยื่นหนังสือต่อสำนักงานสรรพสามิต จ.เชียงราย ขอให้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ผลิตสุรากลั่นชุมชนในพื้นที่เป็นการเร่งด่วน

โดยระบุว่า ในช่วงที่บ้านเมืองกำลังเกิดความวุ่นวายขึ้นนี้ พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตบางคนออกไปเข้มงวดกวดขันและรังแกชาวบ้าน จะทำให้เกิดความแค้นเคืองจากชาวบ้านและเป็นชนวนจากการปลุกปั่นของกลุ่มคนที่หวังผลประโยชน์ทางการเมืองไปสู่การระดมมวลชนออกมาเคลื่อนไหวเหมือนในอดีต ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นอีกได้

กลุ่มชาวบ้านผู้ผลิตสุราชุมชนนำโดยนางบัวเหลียว ชัยมณี ประธานชมรมฯ ได้มีโอกาสพบกับนายชนรรจน์ อินทระ ผู้อำนวยการสรรพสามิต ภาค 5 ซึ่งเดินทางไปราชการที่ จ.เชียงราย เมื่อ 3 ก.ย.51 ที่รับเรื่องร้องเรียนร่วมกับนายนายนิรุทธิ์ งามศิริ สรรพสามิตพื้นที่ จ.เชียงราย ร่วมรับเรื่องและต้อนรับอยู่ด้วย ซึ่งทั้งสองคนได้ขอดูรายละเอียดตามหนังสือดังกล่าว

พบว่ากลุ่มผู้ผลิตสุราชุมนุมในชมรมฯ ได้ยื่นหนังสือมีเนื้อหาอยู่จำนวน 4 ข้อใหญ่ๆ คือ 1.ช่วยตรวจสอบจับสุราเถื่อนต่างจังหวัดที่ลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายในเขต จ.เชียงราย 2.ผ่อนผันการตรวจจับหรือตรวจค้นในโรงงานของชาวบ้านที่ผลิตสุรากลั่นชุมชนที่ได้อขอนุญาตแล้วอย่างถูกต้อง เพราะอาจเกิดการรังแกเพื่อหวังสินบนนำจับ 30-40%

3.ชาวบ้านในชุมชนมีการใช้เครื่องจักรกำลังรวมต่ำกว่าห้าแรงม้าหรือใช้คนงานน้อยกว่าเจ็ดคน ไม่ได้รับความเป็นธรรมและเดือดร้อน เพราะสู้กับโรงงานที่ใช้เครื่องจักรที่มีกำลังผลิตมากๆ ไม่ได้ดังนั้นจึงขอเพิ่มกำลังผลิตได้ด้วย

4.ขอแจ้งว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการผลิตสุรากลั่นชุมชน มีการปฏิบัติเสมือนเป็นผู้ต้องหา เช่น ไม่มีการนัดหมายตรวจเยี่ยมโรงงาน ออกกฎระเบียบเพื่อจับผิดและผิดวิธีการ เน้นการจับกุมเพื่อได้รางวัลสินบนนำจับ จนทำให้ชาวบ้านคับแค้นเกลียดชังเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดเหตุวุ่นวายในบ้านเมืองในช่วงนี้ จึงขอให้การตรวจเยี่ยมโรงงานต้องมีการนัดหมายก่อน และควรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เท่านั้น การตรวจเยี่ยมโรงงานควรเป็นช่วงเวลาราชการ และไม่ควรเข้าตรวจในบ้านเรือน เพื่อผ่อนคลายความไม่เป็นมิตร ควรใช้วาจาที่สุภาพ ไม่ข่มขู่ว่าร้าย รวมทั้งผ่อนผันไม่ควรออกหมายค้นบ้านด้วย

นางบัวเหลียว กล่าวว่าหากมีการจับกุมผู้ผลิตขนาดเล็กและได้ของกลางไม่มากไม่ควรให้ค่าปรับเกินกว่า 2,000 บาท เพราะชาวบ้านหาเช่ากินค่ำไม่ได้ผลิตมากมาย ขณะเดียวกันก็ไม่ควรตั้งข้อหาหลายข้อหาหรือปรับหลายคนพร้อมกัน บางกรณีเจ้าหน้าที่ไม่ชอบใจผู้ประกอบการบางรายได้มีการการตรวจค้นบ่อยครั้งหรือมีการดักจับหน้าโรงงาน ดังนั้นจึงขอให้ผ่อนปรนมาตรการเก่าๆ ดังกล่าวด้วย

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการผลิตสุราเถื่อนจากจังหวัดอื่นเข้าไปซื้อแสตมป์สุราในพื้นที่ จากนั้นนำสุราเข้าไปขายตีตลาดสุราในเชียงรายจึงขอให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตในพื้นที่หันมาเข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้ด้วย เพื่อช่วยเหลือคนที่ทำตามกฎหมายถูกต้อง

นางบัวเหลียว กล่าวว่า กรณีการตรวจจับต่างๆ ดังกล่าวขอให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตระดับจังหวัดดำเนินการแทนที่จะเป็นเจ้าหน้าที่สรรพสามิตจากภาค 5 หรือส่วนกลางเพราะเข้าใจสภาพพื้นที่และชาวบ้านมากกว่าด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่านายชนรรจน์ ได้รับหนังสือไว้และรับปากว่าจะนำกลับไปหารืออีกครั้งหนึ่ง โดยจะถือโอกาสการประชุมฝ่ายปราบปรามในวันที่ 18 ก.ย.นี้ จากนั้นจะนำข้อเสนอครั้งนี้เข้าหารือและจะแจ้งให้ชมรมฯ ได้รับทราบต่อไป