ศูนย์ข่าวศรีราชา- ททท.ชี้ หลังรัฐประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและสถานการณ์ภาคการเมืองของไทยในขณะนี้ ทำตัวเลขนักท่องเที่ยวลดลงกว่า 20-30% เผย อนาคตนักเที่ยวยุโรปที่จะเดินทางมาพักผ่อนในช่วงไฮซีซันยังเงียบ ด้านสมาคมนักธรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา วอนทุกฝ่ายหันหน้าเข้ากัน เพื่อความสันติสุขของชาติบ้านเมืองโดยด่วน ไม่เช่นนั้น กลุ่มนักเที่ยวขาประจำจะเบนเข็มไปท่องเที่ยวประเทศอื่นแน่นอน เพราะสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศที่กำลังคุกรุ่นอยู่ในขณะนี้
นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต 3 (ชลบุรี) เผยว่า หลังจากเกิดความไม่สงบทางการเมืองภาคประชาชนในเมืองหลวงของประเทศไทย จนลุกลามถึงขนาดมีการประทะกันอย่างดุเดือด จนภาครัฐได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานครฯ และปริมณฑลนั้น ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
ขณะนี้ ทาง ททท.กำลังทำตัวเลขจากกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมในเขตเมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี ประเภทโรงแรมกลุ่ม 2-3 ดาว พบว่า ยอดของนักท่องเที่ยวตกไปประมาณ 20-30% ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดโซนเอเชีย ที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนในช่วงโลว์ซีซัน ซึ่งไม่ใช่การจองระยะยาว
ในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวโซนยุโรป ซึ่งจะเข้าพักในโรงแรมประเภท 4-5 ดาวที่มีการจองระยะยาวนั้น ล่าสุด พบว่า หยุดติดต่อการจองไปเสียเฉยๆ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่ายังไม่เข้าสู่ช่วงเข้าตลาดปลายปี ซึ่งเป็นไฮซีซัน แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ชัดเจนเท่าไรนัก
ด้าน นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ให้ทรรศนะด้วยว่า ตั้งแต่ก่อนเกิดการปะทะระหว่างกลุ่ม นปก.และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่เมื่อเช้ามืดของวันนี้นั้น
ที่ผ่านมา จากการปิดสนามบินในจังหวัดทางภาคใต้ ก็ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอยู่แล้ว เมื่อเกิดความรุนแรงเพิ่มมากจะยิ่งส่งผลกระทบด้านการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักเพิ่มขึ้นอีกโดยปริยาย ซึ่งหากยังไม่มีการหาข้อยุติเรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาและประเทศไทยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จากข้อมูลทราบว่า ขณะนี้รัฐบาลประเทศเกาหลีได้ออกเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้เดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะรัฐบาลเกาหลีจะให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์ของประเทศไทยที่มีอยู่ในขณะนี้ก็ไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือด้านความสงบเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม อยากวอนให้ทุกฝ่ายหันมาสนใจถึงเรื่องการท่องเที่ยวมากกว่าที่เป็นอยู่ และหาแนวทางสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมไทยโดยพลัน เพราะถ้าความไม่สงบมีความยืดเยื้อนาน ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะลดลงไปเรื่อยๆ และในช่วงไฮซีซั่นปีนี้นักท่องเที่ยวอาจละลดลงประมาณ 80% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เคยมาพักผ่อนในเมืองพัทยาแต่ละปี ซึ่งต่างชาติจับตาเหตุการณ์ของบ้านเมืองไทยอยู่โดยตลอด
ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่สามารถยุติเรื่องดังกล่าวลงได้ การท่องเที่ยวก็จะเกิดปัญหาขึ้นเพราะการท่องเที่ยวไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ซึ่งนักท่องเที่ยวจะมองว่าจะมาหรือไม่มาก็ได้ และอาจเบนเข็มไปท่องเที่ยวที่ประเทศอื่นอย่าง ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือประเทศภูมิภาคใกล้เคียง ที่มีความสงบของบ้านเมืองมากกว่าประเทศไทย
นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต 3 (ชลบุรี) เผยว่า หลังจากเกิดความไม่สงบทางการเมืองภาคประชาชนในเมืองหลวงของประเทศไทย จนลุกลามถึงขนาดมีการประทะกันอย่างดุเดือด จนภาครัฐได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานครฯ และปริมณฑลนั้น ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก
ขณะนี้ ทาง ททท.กำลังทำตัวเลขจากกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมในเขตเมืองพัทยา และจังหวัดชลบุรี ประเภทโรงแรมกลุ่ม 2-3 ดาว พบว่า ยอดของนักท่องเที่ยวตกไปประมาณ 20-30% ซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวตลาดโซนเอเชีย ที่เดินทางเข้ามาพักผ่อนในช่วงโลว์ซีซัน ซึ่งไม่ใช่การจองระยะยาว
ในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวโซนยุโรป ซึ่งจะเข้าพักในโรงแรมประเภท 4-5 ดาวที่มีการจองระยะยาวนั้น ล่าสุด พบว่า หยุดติดต่อการจองไปเสียเฉยๆ ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่ายังไม่เข้าสู่ช่วงเข้าตลาดปลายปี ซึ่งเป็นไฮซีซัน แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ชัดเจนเท่าไรนัก
ด้าน นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ให้ทรรศนะด้วยว่า ตั้งแต่ก่อนเกิดการปะทะระหว่างกลุ่ม นปก.และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งแต่เมื่อเช้ามืดของวันนี้นั้น
ที่ผ่านมา จากการปิดสนามบินในจังหวัดทางภาคใต้ ก็ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอยู่แล้ว เมื่อเกิดความรุนแรงเพิ่มมากจะยิ่งส่งผลกระทบด้านการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักเพิ่มขึ้นอีกโดยปริยาย ซึ่งหากยังไม่มีการหาข้อยุติเรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาและประเทศไทยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ จากข้อมูลทราบว่า ขณะนี้รัฐบาลประเทศเกาหลีได้ออกเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้เดินทางเข้ามาประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะรัฐบาลเกาหลีจะให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นอย่างมาก ซึ่งสถานการณ์ของประเทศไทยที่มีอยู่ในขณะนี้ก็ไม่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือด้านความสงบเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม อยากวอนให้ทุกฝ่ายหันมาสนใจถึงเรื่องการท่องเที่ยวมากกว่าที่เป็นอยู่ และหาแนวทางสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมไทยโดยพลัน เพราะถ้าความไม่สงบมีความยืดเยื้อนาน ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะลดลงไปเรื่อยๆ และในช่วงไฮซีซั่นปีนี้นักท่องเที่ยวอาจละลดลงประมาณ 80% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เคยมาพักผ่อนในเมืองพัทยาแต่ละปี ซึ่งต่างชาติจับตาเหตุการณ์ของบ้านเมืองไทยอยู่โดยตลอด
ทั้งนี้ หากรัฐบาลไม่สามารถยุติเรื่องดังกล่าวลงได้ การท่องเที่ยวก็จะเกิดปัญหาขึ้นเพราะการท่องเที่ยวไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ซึ่งนักท่องเที่ยวจะมองว่าจะมาหรือไม่มาก็ได้ และอาจเบนเข็มไปท่องเที่ยวที่ประเทศอื่นอย่าง ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือประเทศภูมิภาคใกล้เคียง ที่มีความสงบของบ้านเมืองมากกว่าประเทศไทย