ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” รองนายกรัฐมนตรี ยังยืนยันนโยบายรัฐชัดเจนไม่ใช้ความรุนแรงจัดการพันธมิตรฯ แม้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลายเวทีสะพานมัฆวานฯ แล้ว ขณะเดียวกัน ปฏิเสธให้ความเห็นตั้งข้อหากบฏแกนนำรุนแรงเกินไปหรือไม่ แต่รับแกนนำยังไม่มีความผิดจนกว่าศาลจะตัดสิน พร้อมตำหนิสหภาพรถไฟหยุดเดินรถ
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประธานประชุม คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.)
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า ไม่ทราบในรายละเอียดเพราะเดินทางมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วานนี้ (28 ส.ค.) อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะไม่ใช้ความรุนแรงกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมและเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ก็คงจะใช้วิธีการที่ละมุนละม่อมในการเข้าจัดการ
ส่วนการที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งข้อหากบฏต่อแกนนำพันธมิตรฯ เป็นการตั้งข้อหาที่หนักเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าการตั้งข้อหาดังกล่าวเป็นการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ตามหลักฐานในเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ได้หมายความว่าแกนนำพันธมิตรฯ เป็นผู้มีความผิดแต่อย่างใด เพราะข้อกล่าวหาดังกล่าวนี้จะต้องให้ศาลเป็นผู้ใช้ดุลพินิจในการตัดสิน
ขณะเดียวกัน นายสมชายกล่าวถึงการที่สหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทยหยุดเดินรถไฟในหลายเส้นทางว่า ส่งผลกระทบทำให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางในเส้นทางต่างๆ ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งอยากให้มีการคำนึงถึงประชาชนมากกว่านี้
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประธานประชุม คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กกถ.)
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า ไม่ทราบในรายละเอียดเพราะเดินทางมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วานนี้ (28 ส.ค.) อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจนที่จะไม่ใช้ความรุนแรงกับทางกลุ่มผู้ชุมนุมและเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ก็คงจะใช้วิธีการที่ละมุนละม่อมในการเข้าจัดการ
ส่วนการที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งข้อหากบฏต่อแกนนำพันธมิตรฯ เป็นการตั้งข้อหาที่หนักเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้น รองนายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าการตั้งข้อหาดังกล่าวเป็นการดำเนินการของทางเจ้าหน้าที่ตามหลักฐานในเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่ได้หมายความว่าแกนนำพันธมิตรฯ เป็นผู้มีความผิดแต่อย่างใด เพราะข้อกล่าวหาดังกล่าวนี้จะต้องให้ศาลเป็นผู้ใช้ดุลพินิจในการตัดสิน
ขณะเดียวกัน นายสมชายกล่าวถึงการที่สหภาพแรงงานการรถไฟแห่งประเทศไทยหยุดเดินรถไฟในหลายเส้นทางว่า ส่งผลกระทบทำให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางในเส้นทางต่างๆ ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งอยากให้มีการคำนึงถึงประชาชนมากกว่านี้
