แพร่ – เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนจังหวัดแพร่ออกแถลงการณ์จวก “หมัก-หุ่นเชิด” จี้หยุดการกระทำละเมิด-บิดเบือน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ลาออกยุกชุด คืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว ชี้ใช้อำนาจรัฐบิดเบือนข่าวใส่ร้ายภาคประชาชน ระบุกรณี NBT เป็นเกมจัดฉากสร้างภาพใส่ร้าย พธม.ชัดเจน
วันนี้ (28 ส.ค.) เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนจังหวัดแพร่ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 มีเนื้อหาโดยสรุปว่า จากปัญหาการทุจริต โกงกินประเทศชาติจากนักการเมืองที่ผ่านมา โดยเฉพาะการโกงกินสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร จนเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมปัจจุบันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลบเลี่ยงภาษี ใช้อำนาจรัฐกระทำในสิ่งที่ไม่สมควร ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลตัวแทน ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี
โดยการทำหน้าที่ของนายสมัครกลายเป็นการทำให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลุดพ้นบ่วงกรรมแทนการทำหน้าที่ให้กับประชาชนที่เลือกตั้งนักการเมืองเหล่านั้นเข้ามา มีการนำเอากลุ่มคนที่มีปัญหาทางการเมือง มีปัญหาทุจริตเข้ามาสู่อำนาจอีกครั้ง
การทำงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ก็พบว่านักการเมืองเหล่านี้ไม่ทิ้งความชั่วร้าย เร่งสร้างโครงการขนาดใหญ่เพื่อนำไปสู่การโกงกิน ทำให้ประชาชนทั่วไปออกมารวมตัวอย่างหลากหลายและเรียกตัวเองว่า “พันธมิตร” ทำหน้าที่ของประชาชนตามรัฐธรรมนูญคือการชุมนุมประท้วงโดยสันติมาอย่างยาวนาน
ล่าสุด พลังของประชาชนที่ไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลสมัครมีเพิ่มมากขึ้น ได้เร่งผลักดันให้นายสมัคร ออกจากตำแหน่ง ด้วยการรวมตัวครั้งใหญ่กระทำการ “ประชาภิวัตน์” และ “อารยะขัดขืน” เพื่อกดดันให้รัฐบาลสมัครลาออก มีประชาชนนับล้านคนเข้าร่วมชุมนุมและเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กระทรวงคมนาคม และสุดท้ายมารวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล ตรึงกำลังเพื่อให้รัฐบาลสมัครลาออกไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีชาวแพร่เกือบ 1,000 คน สับเปลี่ยนเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความหวาดผวาการใช้อำนาจของรัฐ เช่น เมื่อเวลา 03.00 น.โดยประมาณของวันที่ 28 สิงหาคม 2551 ตำรวจบุกเข้าทำร้ายประชาชน ใช้อาวุธเข้าทุบตีประชาชนอย่างรุนแรง ทั้งผู้หญิง ผู้สูงอายุ ที่เป็นประชาชนร่วมต่อต้านรัฐบาลโกงกิน
นอกจากนั้นยังพบว่ามีการบิดเบือนข่าวสารในกรณีการเข้ายึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่มีการยึดมีด ปืน และยาเสพติด เป็นการจัดฉากสร้างภาพ รวมทั้งการบิดเบือนในการขออำนาจศาลเข้าขับไล่ประชาชนที่ไปรวมตัวอย่างสันติในทำเนียบรัฐบาล อีกทั้งรัฐบาลยังใช้กลไกทางกฎหมายออกหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ข้อหากบฏ ทั้งๆ ที่ประชาชนเหล่านั้นกำลังทำหน้าที่ปกป้องรัฐธรรมนูญและประเทศชาติรวมทั้งราชบัลลังก์ เป็นการปกป้อง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ด้วยสำนึกในความเป็นคนไทย
การกระทำของรัฐส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดไปในวงกว้าง อาทิ การจัดฉากสร้างภาพเสียหายให้กลุ่มประชาชนมีอาวุธในการเข้ายึดเอ็นบีที ทำให้นักวิชาการและสถาบันสื่อ ออกมาประณามประชาชน
โดยเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนในจังหวัดแพร่ ประกอบด้วยคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน จ.แพร่ ศูนย์พัฒนาเครือข่ายองค์กรชาวบ้านเพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน จ.แพร่ เครือข่ายศิลปินพื้นบ้านศูนย์วัฒนธรรมตองตึง จ.แพร่ เครือข่ายหมอพื้นบ้านจ.แพร่ เครือข่ายเกษตรกรรมยั่งยืน จ.แพร่ เครือข่ายสื่อชุมชนผีปันน้ำ จ.แพร่ ขอประนามการบิดเบือนความจริงในครั้งนี้จนก่อให้เกิดการเข้าใจผิดอย่างกว้างขวาง ซึ่งมิอาจให้อภัยได้
ดังนั้น ขอให้นายสมัคร สุนทรเวช และคณะรัฐมนตรี รวมทั้งพรรคพลังประชาชนรับผิดชอบ และขอโทษประชาชน รวมทั้งเร่งถอนตัวออกจากอำนาจการบริหารประเทศอย่างเร็วที่สุด
วันนี้ (28 ส.ค.) เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนจังหวัดแพร่ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 มีเนื้อหาโดยสรุปว่า จากปัญหาการทุจริต โกงกินประเทศชาติจากนักการเมืองที่ผ่านมา โดยเฉพาะการโกงกินสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร จนเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมปัจจุบันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลบเลี่ยงภาษี ใช้อำนาจรัฐกระทำในสิ่งที่ไม่สมควร ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลตัวแทน ที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี
โดยการทำหน้าที่ของนายสมัครกลายเป็นการทำให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลุดพ้นบ่วงกรรมแทนการทำหน้าที่ให้กับประชาชนที่เลือกตั้งนักการเมืองเหล่านั้นเข้ามา มีการนำเอากลุ่มคนที่มีปัญหาทางการเมือง มีปัญหาทุจริตเข้ามาสู่อำนาจอีกครั้ง
การทำงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ก็พบว่านักการเมืองเหล่านี้ไม่ทิ้งความชั่วร้าย เร่งสร้างโครงการขนาดใหญ่เพื่อนำไปสู่การโกงกิน ทำให้ประชาชนทั่วไปออกมารวมตัวอย่างหลากหลายและเรียกตัวเองว่า “พันธมิตร” ทำหน้าที่ของประชาชนตามรัฐธรรมนูญคือการชุมนุมประท้วงโดยสันติมาอย่างยาวนาน
ล่าสุด พลังของประชาชนที่ไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลสมัครมีเพิ่มมากขึ้น ได้เร่งผลักดันให้นายสมัคร ออกจากตำแหน่ง ด้วยการรวมตัวครั้งใหญ่กระทำการ “ประชาภิวัตน์” และ “อารยะขัดขืน” เพื่อกดดันให้รัฐบาลสมัครลาออก มีประชาชนนับล้านคนเข้าร่วมชุมนุมและเข้ายึดทำเนียบรัฐบาล สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กระทรวงคมนาคม และสุดท้ายมารวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล ตรึงกำลังเพื่อให้รัฐบาลสมัครลาออกไป
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีชาวแพร่เกือบ 1,000 คน สับเปลี่ยนเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความหวาดผวาการใช้อำนาจของรัฐ เช่น เมื่อเวลา 03.00 น.โดยประมาณของวันที่ 28 สิงหาคม 2551 ตำรวจบุกเข้าทำร้ายประชาชน ใช้อาวุธเข้าทุบตีประชาชนอย่างรุนแรง ทั้งผู้หญิง ผู้สูงอายุ ที่เป็นประชาชนร่วมต่อต้านรัฐบาลโกงกิน
นอกจากนั้นยังพบว่ามีการบิดเบือนข่าวสารในกรณีการเข้ายึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่มีการยึดมีด ปืน และยาเสพติด เป็นการจัดฉากสร้างภาพ รวมทั้งการบิดเบือนในการขออำนาจศาลเข้าขับไล่ประชาชนที่ไปรวมตัวอย่างสันติในทำเนียบรัฐบาล อีกทั้งรัฐบาลยังใช้กลไกทางกฎหมายออกหมายจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ข้อหากบฏ ทั้งๆ ที่ประชาชนเหล่านั้นกำลังทำหน้าที่ปกป้องรัฐธรรมนูญและประเทศชาติรวมทั้งราชบัลลังก์ เป็นการปกป้อง ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ด้วยสำนึกในความเป็นคนไทย
การกระทำของรัฐส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดไปในวงกว้าง อาทิ การจัดฉากสร้างภาพเสียหายให้กลุ่มประชาชนมีอาวุธในการเข้ายึดเอ็นบีที ทำให้นักวิชาการและสถาบันสื่อ ออกมาประณามประชาชน
โดยเครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนในจังหวัดแพร่ ประกอบด้วยคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน จ.แพร่ ศูนย์พัฒนาเครือข่ายองค์กรชาวบ้านเพื่อการพึ่งตนเองอย่างยั่งยืน จ.แพร่ เครือข่ายศิลปินพื้นบ้านศูนย์วัฒนธรรมตองตึง จ.แพร่ เครือข่ายหมอพื้นบ้านจ.แพร่ เครือข่ายเกษตรกรรมยั่งยืน จ.แพร่ เครือข่ายสื่อชุมชนผีปันน้ำ จ.แพร่ ขอประนามการบิดเบือนความจริงในครั้งนี้จนก่อให้เกิดการเข้าใจผิดอย่างกว้างขวาง ซึ่งมิอาจให้อภัยได้
ดังนั้น ขอให้นายสมัคร สุนทรเวช และคณะรัฐมนตรี รวมทั้งพรรคพลังประชาชนรับผิดชอบ และขอโทษประชาชน รวมทั้งเร่งถอนตัวออกจากอำนาจการบริหารประเทศอย่างเร็วที่สุด