มหาสารคาม - นักวิชาการ มมส.เผยภาพเหตุการณ์ผ่านสื่อ กลุ่มพันธมิตรฯ บุกยึด NBT ดูรุนแรง และผิด กม.จนถูกรัฐบาลเล่นงานใช้ศาลเป็นที่พึ่ง แต่ย้อนถามทั้ง สมัคร-อดีตนายกฯ ทักษิณ อาชญากรแผ่นดินไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม เหตุใดแจ้งจับพันธมิตรฯ
รศ.ดร.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย จ.มหาสารคาม กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ว่า คงหาข้อยุติไม่ได้ หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะผลก็จะตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือพันธมิตรฯ หากฝ่ายใดชนะย่อมมีผลกระทบโดยตรงต่อฝ่ายตรงข้าม ต้องหาวิธีการว่าจะหาทางออกตรงกลางได้อย่างไร แต่ไม่ใช่ความพอดีระหว่าง 2 ฝ่ายแน่นอน
อย่างไรก็ตาม อยากให้มองภาพรวมของสถานการณ์ ไม่อยากให้เจาะเฉพาะเรื่อง อยากให้มองที่มาที่ไปว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นมาอย่างไร หากมองเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่สถานี NBT โดยผ่านสื่อต่างๆ ถือว่าการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ผิดกฎหมายแน่นอน เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญบางส่วน เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ แต่หากมองพฤติกรรมทั้งระบบ จะเห็นว่า การต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญตลอด
สถานการณ์ ณ ขณะนี้ต้องชมเชยกุนซือของรัฐบาลที่ใช้กลยุทธ์ ตัวบทกฎหมายเข้ามาจัดการกับพันธมิตรฯ ถือว่า เป็นวิธีที่ถูกต้อง แต่ต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลและนายกฯ เคยปฏิเสธไม่ยอมรับเรื่องของศาล แม้กระทั่งตัวอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ก็ปฏิเสธการเข้ามาสู้คดีในชั้นศาล ตอนนี้ยังหนีคดีอยู่ พราะฉะนั้นหากเคารพศาลจริงๆ จะต้องไม่เลือกปฏิบัติ
กุนซือรัฐบาลสามารถทำให้คนที่มุทะลุดุดัน ดื้อรั้น ดันทุรัง เงียบสงบลงได้ หากดำเนินการอย่างนี้ต่อไป น่าจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล แต่หากว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ปล่อยความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาคิดว่าสถานการณ์คงจะไม่ราบรื่น เพราะตัวแปรเริ่มเยอะความกดดันต่างๆ โดยเฉพาะการที่รัฐบาลตั้งข้อหาที่รุนแรงแก่พันธมิตรฯ ซึ่งข้อหากบฏ ถือว่ารุนแรงมาก ดูในทางกฎหมายเห็นว่าข้อหานี้ไม่ครบองค์ประกอบ หากขึ้นสู่ศาลยุติธรรม ผลออกมาไม่น่าจะมีผลในเรื่องของการลงโทษ
ทั้งนี้ หากรัฐบาลปิดกั้นการแสดงออกที่เปิดเผยของกลุ่มต่อต้านเป็นการกดดันบีบคั้นให้ลงใต้ดิน เพราะปัญหาที่ต้นเหตุไม่ได้รับการแก้ไข ไม่อยากเห็นกรุงเทพฯ เหมือนเมืองหลวงของอิรัก ที่มีการลอบสังหารกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกลางเมือง
อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงถึงพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เอาไว้ เราคนไทยด้วยกัน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องไม่เลือกปฏิบัติ ทำเฉพาะในบทบาทหน้าที่ของตน และทำโดยไม่มีอคติ สถานการณ์ขณะนี้เห็นทีต้องแล้วแต่บุญแต่กรรม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะสามารถแปรผันได้ตลอดเวลา เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายมีทิฏฐิมานะทั้งคู่
รศ.ดร.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ ประธานสมาพันธ์นักวิชาการเพื่อประชาธิปไตย จ.มหาสารคาม กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ว่า คงหาข้อยุติไม่ได้ หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะผลก็จะตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือพันธมิตรฯ หากฝ่ายใดชนะย่อมมีผลกระทบโดยตรงต่อฝ่ายตรงข้าม ต้องหาวิธีการว่าจะหาทางออกตรงกลางได้อย่างไร แต่ไม่ใช่ความพอดีระหว่าง 2 ฝ่ายแน่นอน
อย่างไรก็ตาม อยากให้มองภาพรวมของสถานการณ์ ไม่อยากให้เจาะเฉพาะเรื่อง อยากให้มองที่มาที่ไปว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯ เป็นมาอย่างไร หากมองเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่สถานี NBT โดยผ่านสื่อต่างๆ ถือว่าการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ผิดกฎหมายแน่นอน เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญบางส่วน เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ แต่หากมองพฤติกรรมทั้งระบบ จะเห็นว่า การต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญตลอด
สถานการณ์ ณ ขณะนี้ต้องชมเชยกุนซือของรัฐบาลที่ใช้กลยุทธ์ ตัวบทกฎหมายเข้ามาจัดการกับพันธมิตรฯ ถือว่า เป็นวิธีที่ถูกต้อง แต่ต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลและนายกฯ เคยปฏิเสธไม่ยอมรับเรื่องของศาล แม้กระทั่งตัวอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ก็ปฏิเสธการเข้ามาสู้คดีในชั้นศาล ตอนนี้ยังหนีคดีอยู่ พราะฉะนั้นหากเคารพศาลจริงๆ จะต้องไม่เลือกปฏิบัติ
กุนซือรัฐบาลสามารถทำให้คนที่มุทะลุดุดัน ดื้อรั้น ดันทุรัง เงียบสงบลงได้ หากดำเนินการอย่างนี้ต่อไป น่าจะเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล แต่หากว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ปล่อยความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาคิดว่าสถานการณ์คงจะไม่ราบรื่น เพราะตัวแปรเริ่มเยอะความกดดันต่างๆ โดยเฉพาะการที่รัฐบาลตั้งข้อหาที่รุนแรงแก่พันธมิตรฯ ซึ่งข้อหากบฏ ถือว่ารุนแรงมาก ดูในทางกฎหมายเห็นว่าข้อหานี้ไม่ครบองค์ประกอบ หากขึ้นสู่ศาลยุติธรรม ผลออกมาไม่น่าจะมีผลในเรื่องของการลงโทษ
ทั้งนี้ หากรัฐบาลปิดกั้นการแสดงออกที่เปิดเผยของกลุ่มต่อต้านเป็นการกดดันบีบคั้นให้ลงใต้ดิน เพราะปัญหาที่ต้นเหตุไม่ได้รับการแก้ไข ไม่อยากเห็นกรุงเทพฯ เหมือนเมืองหลวงของอิรัก ที่มีการลอบสังหารกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยกลางเมือง
อย่างไรก็ตาม ควรคำนึงถึงพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เอาไว้ เราคนไทยด้วยกัน เจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องไม่เลือกปฏิบัติ ทำเฉพาะในบทบาทหน้าที่ของตน และทำโดยไม่มีอคติ สถานการณ์ขณะนี้เห็นทีต้องแล้วแต่บุญแต่กรรม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่จะสามารถแปรผันได้ตลอดเวลา เนื่องจากทั้ง 2 ฝ่ายมีทิฏฐิมานะทั้งคู่