กาฬสินธุ์ - ประธานสภาทนายความกาฬสินธุ์ ชี้ข้อหากบฏ จับ 9 แกนนำจะนำไปสู่ความรุนแรง แนะทางออกรัฐบาลต้องให้ “สมัคร” พ้นตำแหน่งนายกฯ ด้านชมรมคนรัก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ภาคอีสานเสนอทางออกวิกฤตการเมือง จัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล ชู “บิ๊กจิ๋ว” เป็นสื่อกลางนำพาความสมานฉันท์ให้บ้านเมือง
วันนี้ (28 ส.ค.) เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ รายงานว่าที่สำนักงานสภาทนายความจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นจุดประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กาฬสินธุ์) นายประยูร ภูมิชูชิต ประธานสภาทนายความจังหวัดกาฬสินธุ์ (ในฐานะที่ปรึกษากลุ่มพันธมิตรกาฬสินธุ์) ได้ร่วมสนทนาร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรกาฬสินธุ์ เกี่ยวกับท่าทีและทางออก ในเหตุการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยใช้ยุทธศาสตร์ไทยคู่ฟ้า เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล จนทำให้เกิดกระบวนการต่อสู้กันทางกฎหมายที่มีการกล่าวหาจับ 9 แกนนำพันธมิตรฯ ในข้อหากบฏ
นายประยูร ภูมิชูชิต ประธานสภาทนายความจังหวัดกาฬสินธุ์ ในฐานะที่ปรึกษาพันธมิตรฯ กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากที่ศาลอนุมัติ จับ 9 แกนนำ ประกอบด้วย นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสมเกียติ พงษ์ไพบูลย์ นายสุริยะใส กตะศิลา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายเทิดภูมิ ใจดี และนายอมร อมรรัตนานนท์ ในข้อหากบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา
สำหรับการแจ้งข้อหาดังกล่าว ตนเห็นว่าเป็นการกล่าวหาที่รุนแรงเกินไป เพราะตามประมวลกฎหมายอาญานั้น หากมีความผิดในข้อหากบฏจะต้องมีการสะสมกำลังพลหรือมีอาวุธที่มีความรุนแรง แต่ในทางกลับกันการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ มีเป้าหมายเรียกร้องให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีลาออก กับการเคลื่อนไหวเข้าไปในทำเนียบรัฐบาลก็เป็นการเคลื่อนไหวภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ
“ในฐานะที่ผมติดตามข่าวความเคลื่อนไหว ก็ไม่เห็นว่ามีเหตุการณ์อะไรที่สื่อให้เห็นถึงความรุนแรง มีแต่ความชุมนุมที่สุภาพกับบางเหตุการณ์ที่จำเป็น ก็เกิดขึ้นตามสถานการณ์ที่จะต้องแสดงจุดยืนเท่านั้น”
นายประยูร กล่าวต่อว่า สิ่งที่รัฐบาลควรจะเร่งหาข้อยุติ คือ การให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการลาออก แล้วเปิดโอกาสให้คนกลางหรือมีรัฐบาลเฉพาะกาลเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ
จุดยืนของพันธมิตรฯ คือ ต้องการที่จะให้เกิดกระบวนการปราบคอร์รัปชัน ในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ จากนั้นเมื่อ รัฐบาลนายสมัครกลายเป็นนอมินีให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณดังจะเห็นจากความจริงที่ปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่อง สมควรอย่างยิ่งที่นายสมัครฯต้องลาออกเพื่อยุติปัญหาความรุนแรง
เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องสนุก เนื่องจากพัฒนาการที่สื่อให้เห็นถึงความต้องการของประชาชนที่เกลียดชังรัฐบาลเกิดขึ้นทุกภูมิภาค การหาทางออกด้วยการหาคนกลางเข้ามาแก้ไขปัญหาจึงเชื่อว่าจะสามารถทำให้ประชาชนสามารถรับได้ ดีกว่าจะปล่อยให้เกิดเหตุการณ์ที่บานปลายรุนแรงแล้วค่อยมานั่งเสียใจกันทีหลัง
ด้าน นายปรีชา จตุรงค์เสรีกุล ประธานชมรมคนรัก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ภาคอีสาน กล่าวว่า ทางออกต่อเหตุการณ์เพื่อป้องกันความรุนแรง และความสมานฉันท์ในบ้านเมือง ขณะนี้ต้องการให้ ทั้ง 2 ฝ่ายหาข้อยุติแล้วสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลเฉพาะกาล หรือรัฐบาลแห่งชาติแล้วแต่ตามสมควร ที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคนกลางเข้ามาแก้ไขปัญหา
ในอนาคตมองว่า บุคคลที่เหมาะสมที่จะเข้ามาสู่สถานการณ์แล้วดำเนินการแก้ไขเป็นสื่อกลางได้ดีที่สุด คือ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้เชื่อว่าบารมีและความดีที่ พล.อ.ชวลิตมี หากได้รับแรงสนับสนุนอย่างเป็นระบบ และมีเหตุผลก็จะทำให้บ้านเมืองกลับมาสู่ความสมานฉันท์ได้
สำหรับความเคลื่อนไหวของประชาชนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มีทั้งประชาชนที่เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรและไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯ แต่ส่วนใหญ่ต้องการให้สังคมเกิดความสงบสุขและเกิดความสมานฉันท์ เพราะไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงและบานปลายไปจนกลายเป็นเหตุการณ์ที่นองเลือด ซึ่งก็จะทำให้ประชาชนทั่วประเทศเกิดความเสียใจในอนาคต