ระยอง - ซ้อมแผนการบริหารวิกฤตการณ์ด้านสาธารณภัย ปี 2551(C-MEX 08)/(ARDEX 08) วันที่ 2 มีการนำเฮลิคอปเตอร์ ร่วมซ้อมบินสำรวจเส้นทาง การเตรียมอพยพประชาชนก่อนวันซ้อมใหญ่ในวันพรุ่งนี้
วันนี้ (26 ส.ค.) เวลา 09.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานการซ้อมแผนการบริหารวิกฤติการณ์ด้านสาธารณภัย ปี 2551 (C-MEX 08)/(ARDEX 08) วันที่ 2 ที่จังหวัดระยอง ว่า โดยในส่วนของความพร้อมด้านต่างๆ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายกำลังเร่งระดมติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์สื่อสาร ศูนย์ติดต่อประสานงาน และศูนย์ให้ความช่วยเหลือประชาชน ณ บริเวณศูนย์ราชการจังหวัดระยอง เพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุดก่อนวันซ้อมใหญ่ในวันพรุ่งนี้ (27 ส.ค.)
ด้านกองทัพไทย ยังได้มีการนำเฮลิคอปเตอร์ มาร่วมซ้อมบินสำรวจเส้นทางการเตรียมอพยพประชาชนด้วย ขณะที่ส่วนของความพร้อมของฝ่ายบังคับการ ที่มีการซักซ้อมกันที่สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ก็ยังคงมีการซักซ้อมทำความเข้าใจ ตลอดจนทดสอบความพร้อมต่างๆ เป็นวันที่ 2 เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการประสานความร่วมมือการช่วยเหลือจากประเทศสมาชิกจากอาเซียน เพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด ในการเข้าระงับเหตุ
นายสุเทพ รื่นถวิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ระยอง เปิดเผยว่า การซ้อมแผนดังกล่าวฯ เป็นการทดสอบการบริหารจัดการวิกฤตการณ์ในระดับชาติ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทดสอบการเตรียมความพร้อมของหน่วยงาน ในระดับนโยบายรวมทั้งหน่วยปฏิบัติด้วย
สำหรับการฝึกซ้อมครั้งนี้ ได้มีการกำหนดสถานการณ์สมมติว่าเกิดพายุดีเปรสชัน และทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่นมีศูนย์กลางอยู่ที่อ่าวไทย และเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเล จังหวัดระยอง ทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดพายุพัดกระหน่ำรุนแรงกับมีฝนตกหนักมาก ทำให้เรือบรรทุกสินค้า เรือประมงอับปาง อาคารบ้านเรือนของประชาชน และทางราชการ สิ่งสาธารณประโยชน์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดได้รับความเสียหายจำนวนมาก
รวมทั้งมีการระเบิดของถังก๊าซ ทำให้เกิดสารเคมีรั่วไหลทั้งบนบก และในทะเล เนื่องจากสถานการณ์ภัยพิบัติมีความรุนแรง จำเป็นต้องระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนทั้งทหาร และพลเรือนเพื่อช่วยเหลือในพื้นที่ โดยมีการจัดการกับสถานการณ์ ได้แก่ การรับมือสถานการณ์ไฟไหม้ การช่วยเหลือผู้ติดค้างอยู่ในซากอาคารถล่ม การกู้ภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย และการขจัดคราบน้ำมันในทะเล
สถานการณ์วิกฤตยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตจำนวนมาก กำลังจากทุกภาคส่วนไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จำเป็นต้องรับความช่วยเหลือจากประเทศสมาชิกอาเซียน และหน่วยงานระหว่างประเทศ ในการเข้าระงับเหตุ