ตราด - ประมงตราดเข้มพรานล่าโลมา แฉมีพรานแล่เนื้อโลมาขาย ด้านนายก อบต.แหลมกลัด ชี้อ่าวตราดมีโลมาจำนวนมากขึ้นแต่ถูกจับขายต่อเนื่อง
ร.ต.สุรัตน์ เกิดมะลิ ประมงจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จากการที่ปรากฏข่าวมีการล่าโลมาเพื่อนำไปขายตามแหล่งท่องเที่ยวใน จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา และจังหวัดในภาคตะวันออกของไทยนั้นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากโลมาเป็นสัตว์หายากและเป็นสัตว์สงวน ห้ามมีการล่าเด็ดขาด หากใครกระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. พ.ศ.2494 ซึ่งมีโทษถึงจำคุก แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ มีแหล่งรับซื้อโลมาอยู่ และขายได้ราคาสูงถึง 100,000 บาท/ตัว โดยในพื้นที่ จ.ตราด มีโลมาอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณอ่าวตราด จะมีมากถึง 100 ตัวทีเดียว และโลมาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นโลมาหัวบาตร ส่วนโลมาอิรวดีมีน้อย
“ผมเคยได้ยินว่ามีการล่าโลมาเพื่อนำไปขายส่งเสริมการท่องเที่ยวมีมานานเป็นปีแล้ว ปัจจุบันเห็นแต่ข่าวการล่าเพื่อนำไปชำแหละเนื้อขายในตลาดสดใน อ.คลองใหญ่ ซึ่งลักษณะนี้กระทำไม่ได้ จะต้องถูกจับและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากโลมาเป็นสัตว์สงวน และมีประโยชน์กับมนุษย์ ซึ่งผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสที่กรมประมง”
ขณะที่ นายประดิษฐ์ คุ้มชนม์ นายก อบต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด กล่าวว่า หลังจากมีข่าวแพร่ออกไปว่ามีโลมามาอยู่ในอ่าวตราดจำนวนหลายสิบตัว ซึ่งคุ้นเคยกับชาวประมง และปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใน ต.แหลมกลัด เนื่องจากโลมาจะเชื่องและไม่กลัวคน ซึ่งที่ผ่านมาทราบข่าวว่ามีพรานล่าโลมาเข้ามาล่าอยู่บ้าง จึงได้มีกลุ่มอนุรักษ์และชาวประมงพื้นบ้านได้ดูแลและช่วยกันแจ้งข่าว
ขณะเดียวกันก็ตรวจสอบปัญหาในเรื่องนี้ทราบว่า มีพรานล่าโลมาที่เป็นชาวกัมพูชาและชาวไทยร่วมกันจับโลมาทั้งในพื้นที่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา รวมทั้งในพื้นที่ อ.คลองใหญ่ ติดกับ ต.แหลมกลัด อ.เมือง และบางส่วนนำไปขายให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.เกาะกง บางส่วนจะนำเนื้อมาแล่ขายในตลาด อ.คลองใหญ่ ที่มีผู้นิยมกินกันอยู่กลุ่มหนึ่ง ซึ่งเคยมีเจ้าหน้าที่ประมง จ.ตราด และเจ้าหน้าที่ อบต.แหลมกลัด เข้าไปตรวจสอบและเคยห้ามปราบมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ทาง อบต.แหลมกลัดจะเข้มงวดในเรื่องนี้มากขึ้น
ร.ต.สุรัตน์ เกิดมะลิ ประมงจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จากการที่ปรากฏข่าวมีการล่าโลมาเพื่อนำไปขายตามแหล่งท่องเที่ยวใน จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา และจังหวัดในภาคตะวันออกของไทยนั้นเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากโลมาเป็นสัตว์หายากและเป็นสัตว์สงวน ห้ามมีการล่าเด็ดขาด หากใครกระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. พ.ศ.2494 ซึ่งมีโทษถึงจำคุก แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ มีแหล่งรับซื้อโลมาอยู่ และขายได้ราคาสูงถึง 100,000 บาท/ตัว โดยในพื้นที่ จ.ตราด มีโลมาอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณอ่าวตราด จะมีมากถึง 100 ตัวทีเดียว และโลมาเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นโลมาหัวบาตร ส่วนโลมาอิรวดีมีน้อย
“ผมเคยได้ยินว่ามีการล่าโลมาเพื่อนำไปขายส่งเสริมการท่องเที่ยวมีมานานเป็นปีแล้ว ปัจจุบันเห็นแต่ข่าวการล่าเพื่อนำไปชำแหละเนื้อขายในตลาดสดใน อ.คลองใหญ่ ซึ่งลักษณะนี้กระทำไม่ได้ จะต้องถูกจับและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากโลมาเป็นสัตว์สงวน และมีประโยชน์กับมนุษย์ ซึ่งผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งเบาะแสที่กรมประมง”
ขณะที่ นายประดิษฐ์ คุ้มชนม์ นายก อบต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด กล่าวว่า หลังจากมีข่าวแพร่ออกไปว่ามีโลมามาอยู่ในอ่าวตราดจำนวนหลายสิบตัว ซึ่งคุ้นเคยกับชาวประมง และปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใน ต.แหลมกลัด เนื่องจากโลมาจะเชื่องและไม่กลัวคน ซึ่งที่ผ่านมาทราบข่าวว่ามีพรานล่าโลมาเข้ามาล่าอยู่บ้าง จึงได้มีกลุ่มอนุรักษ์และชาวประมงพื้นบ้านได้ดูแลและช่วยกันแจ้งข่าว
ขณะเดียวกันก็ตรวจสอบปัญหาในเรื่องนี้ทราบว่า มีพรานล่าโลมาที่เป็นชาวกัมพูชาและชาวไทยร่วมกันจับโลมาทั้งในพื้นที่ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา รวมทั้งในพื้นที่ อ.คลองใหญ่ ติดกับ ต.แหลมกลัด อ.เมือง และบางส่วนนำไปขายให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวใน จ.เกาะกง บางส่วนจะนำเนื้อมาแล่ขายในตลาด อ.คลองใหญ่ ที่มีผู้นิยมกินกันอยู่กลุ่มหนึ่ง ซึ่งเคยมีเจ้าหน้าที่ประมง จ.ตราด และเจ้าหน้าที่ อบต.แหลมกลัด เข้าไปตรวจสอบและเคยห้ามปราบมาครั้งหนึ่งแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ทาง อบต.แหลมกลัดจะเข้มงวดในเรื่องนี้มากขึ้น