ชุมชนต้นน้ำเมืองแพร่ฮือต้านโรงงานก๋วยเตี๋ยวก่อมลพิษ-ขู่เผาทิ้ง

แพร่ – ชุมชนต้นน้ำของเมืองแพร่ฮือกดดันโรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวส่งออกซ้ำ หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม หลังได้บทเรียนจากโรงงานแห่งแรกมาแล้ว จนต้องขับออกนอกพื้นที่เขตเทศบาลฯ และโรงงานแห่งที่ 2 กำลังก่อปัญหาให้กับแม่น้ำยมอยู่ในขณะนี้ ล่าสุดนายทุนเจ้าของโรงงานต้องยอมเปลี่ยนแผนเป็นตั้งโรงงานบรรจุภัณฑ์ ตามที่ยื่นขออนุญาตแทน ขณะที่ชาวบ้านขู่ถ้าพบมีมลพิษบุกเผาทิ้งทันที

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่ แจ้งว่า ชาวบ้านตำบลสวนเขื่อนรวมตัวกันอีกครั้ง เมื่อ 19 ส.ค.51 ที่ผ่านมา หลังจากทำการประท้วงโรงงานก๋วยเตี๋ยว ที่จะเปิดขึ้นในชุมชนมาแล้วหลายครั้ง โดยคราวนี้ชาวบ้านกว่า 700 คนรวมตัวกันที่สนามกีฬาประจำหมู่บ้านใน ต.สวนเขื่อน อ.เมือง จ.แพร่ ก่อนที่จะส่งตัวแทนคือนายสำราญ สุวรรณรัตน์ หัวหน้ากลุ่มคนรักสวนเขื่อน เข้าร่วมหารือกับเจ้าของโรงงานก๋วยเตี๋ยวแพร่เอเซียไลท์ คือ นายยศธร ล้อบุณยารักษ์ อายุ 26 ปี เจ้าของโรงงาน และนายอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ โยธาธิการและผังเมือง จ.แพร่ ,พ.ต.อ.ธีรพล อินทรลิป ผกก.สภ.เมืองแพร่ มีนายณรงค์เดช รักษ์ดำรง ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม สำนักงานจังหวัดแพร่ เป็นประธานในที่ประชุม

ในการเจรจาดังกล่าวจัดขึ้นที่ห้องประชุมเวียงโกศัย ศาลากลางจังหวัดแพร่ มีการหารือกันนานถึง 2 ชั่วโมง ไม่สามารถหาข้อยุติได้ถึงแม้ว่านายยศธร ล้อบุณยารักษ์ ยืนยันว่า จะไม่กลับไปสร้างโรงงานก๋วยเตี๋ยวแต่จะขอเปลี่ยนแปลงเป็นโรงงานทำกล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์แทน ในที่สุดที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันให้ลงพื้นที่ดูการก่อสร้าง และให้ความมั่นใจต่อชาวบ้านว่าจะไม่สร้างโรงงานก๋วยเตี๋ยว ซึ่งมีมลภาวะทั้งทางน้ำ และทางอากาศอย่างเด็ดขาด

เย็นวันเดียวกัน ขณะที่คณะกรรมการที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อุตสาหกรรมจังหวัด ผังเมือง และศูนย์ดำรงธรรมพร้อมทั้งแกนนำชาวบ้านและเจ้าของโรงงานลงไปยังพื้นที่ ซึ่ง ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม มีคำสั่งไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมทำข่าวภายใน โดยอ้างว่าจะทำให้คู่กรณีไม่สบายใจ แต่คำสั่งห้ามดังกล่าวไม่เป็นผลสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวยังคงทำหน้าที่เป็นปกตินั้น

ชาวบ้านที่ชุมนุมอยู่ที่สนามกีฬาประจำหมู่บ้านได้เข้ารวมตัว และปิดถนนที่บริเวณปากทางเข้าโรงงานสร้างใหม่ ไม่ให้คนเข้าออก และปิดถนนสายพระธาตุช่อแฮ – ทุ่งโฮ้ง ทำให้มีรถยนต์ติดเป็นระยะทางยาว เพื่อกดดันให้การเจรจาหาข้อยุติโดยเร็ว และกล่าวโจมตีสื่อมวลชนที่เข้าข้างโรงงานโดยระบุว่า สื่อรับเงินจากนายทุนแล้วออกมาโจมตีชาวบ้านที่ต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม ต้องเร่งในการเจรจา โดยยืนยันว่า เจ้าของโรงงานจะไม่สร้างโรงงานก๋วยเตี๋ยวส่งออกอย่างแน่นอนแล้ว โดยจะพัฒนาเป็นโรงงานบรรจุภัณฑ์กระดาษแทนโดยมีการลงนามร่วมกันเป็นข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ที่อุตสาหกรรมจังหวัด, ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่, โยธาธิการจังหวัดแพร่ และ อบต.สวนเขื่อน

ผลการเจรจาทำให้ชาวบ้านพอใจและทำการเปิดถนนได้เป็นปกติ ในเวลาต่อมา โดยชาวบ้านระบุว่าถ้ามีการบิดพลิ้วอีกครั้งชาวบ้านยืนยันว่า จะบุกเผาโรงงานแห่งนี้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานที่สร้างขึ้นด้วยกลุ่มตระกูล “ล้อบุณยารักษ์” ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเส้นก๋วยเตี๋ยวส่งออกไปอเมริกา ที่ผ่านมาเป็นโรงงานที่ปล่อยน้ำเสียและควันพิษไปสู่ชุมชน จนชาวบ้านต้องออกมาเดินขบวนประท้วงมาแล้วหลายครั้ง จนต้องปิดโรงงานไปแล้วครั้งหนึ่ง และโรงงานที่ 2 กำลังสร้างปัญหาให้กับแม่น้ำยมและประชาชนในต.ป่าแมต ชาวบ้านออกมาขับไล่และต้องปิดโรงงานในไม่ช้านี้ อย่างไรก็ตาม การสร้างโรงงานแห่งใหม่

บริษัทดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตสร้างโรงก๋วยเตี๋ยวแต่อย่างใด เป็นการขอทำโรงงานบรรจุภัณฑ์ ซึ่งมีแบบแปลนที่แตกต่างกันและมีพนักงานเพียง 12 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การสร้างโรงงานดังกล่าวมีเป้าหมายเป็นโรงก๋วยเตี๋ยวอย่างที่ชาวบ้านหวั่นวิตกจริง และมีการร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐในการปกปิดข้อมูล ซึ่งพึ้นที่ก่อสร้างโรงงานยังอยู่ในเขตป่าต้นน้ำสำคัญของจังหวัดแพร่อีกด้วย ทำให้เกิดคำถามว่า สำนักงานโยธา และอุตสาหกรรมจังหวัดอนุญาตได้อย่างไร