หนองคายยังจมใต้น้ำ ชาวบ้านโอดภาครัฐไม่เหลียวแล

หนองคาย - หนองคายยังอ่วมหลายพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำ บางอำเภอถูกตัดขาดจากโลกภายนอกชาวบ้านร้องขาดการเหลียวแล ผู้ว่าฯ ยอมรับอาจมีบางพื้นที่ที่ล่าช้าบ้าง

สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดหนองคาย วันนี้(16 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ 7 ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังทรงตัวอยู่ที่ 13.53 เมตร ทำให้น้ำยังคงเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรยังสูงอยู่ บริเวณถนนประจักษ์ศิลปาคม น้ำยังท่วมขังระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซม. ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดกิจการ ใช้กระสอบทรายวางกั้นหน้าร้าน และยังมีการติดป้ายขอร้องให้รถยนต์ขนาดใหญ่ที่ขับไปมาชะลอความเร็ว เพราะจะทำให้น้ำกระเพื่อมเข้าไปในร้าน แต่จากการที่เจ้าหน้าที่วางกั้นกระสอบทรายบริเวณริมฝั่งโขงเพื่อไม่ให้น้ำโขงไหลเข้าตัวเมือง กลับทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านของชาวบ้านที่อยู่ชุมชนรอบนอก จนเกิดมีการทะเลาะวิวาทและชกต่อยกันระหว่างชาวบ้านกับพนักงานเทศบาล ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาระงับเหตุ ก่อนจะเจรจาถึงความจำเป็นในการกั้นไม่ให้น้ำทะลักเข้าตัวเมืองเพราะเป็นย่านธุรกิจซึ่งจะส่งผลเสียหายอย่างหนัก กว่าจะเจรจายุติกันได้ต้องใช้เวลานานกว่า 30 นาที

นายปรีชา วงศ์ศิริภักดี นักธุรกิจชาวหนองคาย กล่าวว่า สภาพน้ำท่วมที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจโดยรวมของจังหวัดหนองคาย ทำให้ธุรกิจชะงัก และชะลอตัว นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไม่ได้ ลูกค้าหดหาย สูญเสียรายได้อย่างมหาศาล ดังนั้นจึงอยากให้ทางเทศบาลเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมืองให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้วก็จะถูกซ้ำเติมให้แย่ลงไปอีก

ด้าน อ.ศรีเชียงใหม่ น้ำได้ท่วมอาคารบ้านเรือนและร้านค้าจนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมดนับพันหลังคาเรือน ระดับน้ำบางแห่งสูงถึง 1-2 เมตร มีชาวบ้านจำนวนมากติดอยู่ในบ้าน ไม่กล้าออกจากบ้านเนื่องจากแรงดันน้ำโขงทะลักอย่างรุนแรงและไหลเชี่ยวมาก อาจเกิดอันตรายขณะเดินทางออกจากบ้านได้ ทำให้ต้องยอมอดอยู่ในบ้าน ขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ไม่สามารถใช้ห้องน้ำได้เพราะถูกน้ำท่วมหมด ความช่วยเหลือจากทางการยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ มีเพียงถุงยังชีพจากเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่ซึ่งชาวบ้านได้ใช้ประทังชีวิตได้เพียงไม่กี่วันก็หมด

ส่วนที่บ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ราษฎรในหมู่บ้านถูกโดดเดี่ยว ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกตั้งแต่เย็นวันที่ 12 ส.ค. เพราะน้ำท่วมถนนทั้ง 2 ทาง แม้ว่าตัวหมู่บ้านจะอยู่ห่างตัวอำเภอเพียง 2 กม.เท่านั้น แต่ก็ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ทางการยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือแม้แต่รายเดียว ชาวบ้านยังคงมีความต้องการอาหาร น้ำดื่ม ห้องสุขา และยารักษาโรคอีกมาก

ด้านนายเจด็จ มุสิกวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ระดับน้ำเริ่มทรงตัว วัดได้ที่ 13.59 ม. และจะค่อย ๆ ลดลง ที่อาจต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากน้ำที่ไหลเข้าสู่ลำน้ำสาขาจะไหลย้อนกลับลงสู่แม่น้ำโขง แต่อย่างไรก็ดีต้องรอดูอีกระยะหนึ่งเนื่องจากทราบว่ายังมีน้ำทางตอนบนอีกจำนวนหนึ่งที่จะไหลลงมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหากปริมาณน้ำไม่มากก็จะไม่มีผลกระทบทำให้ระดับน้ำที่มีอยู่ขณะนี้เพิ่มสูงขึ้นอีก

ส่วนความเสียหายทั้งพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร และเศรษฐกิจนั้นตอนนี้ยังประเมินค่าไม่ได้ต้องรอการสำรวจหลังน้ำลดแล้ว ซึ่งการช่วยเหลือขณะนี้ทำอย่างเต็มที่ มีบางหมู่บ้าน หรือ บางอำเภอที่ถูกน้ำท่วมเส้นทางคมนาคมทุกสายจนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกนั้นได้สั่งการให้ท้องที่เข้าไปดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งอาจมีบ้างในการช่วยเหลือที่ล่าช้าก็เนื่องจากเส้นทางคมนาคมถูกน้ำท่วมทำให้การเข้าไปช่วยล่าช้าไปบ้าง

ในส่วนของความช่วยเหลือนั้น มูลนิธิเพื่อนพึ่งพา(ภาฯ)ยามยาก และโครงการสายใยรักแห่งครอบครัว ในพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ ได้นำถุงยังชีพพระราชทานมามอบให้กับประชาชนที่ประสบภัยระหว่างวันที่ 16 และ 17 ส.ค. ที่บ้านกองนาง ต.ท่าบ่อ และ บ้านไทยเจริญ ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่