xs
xsm
sm
md
lg

น้ำทะลหนุน คนนอกคันกั้นน้ำขนของหนีอลหม่าน กทม.มั่นใจรับมือได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากแฟ้ม
กทม.เผยน้ำทะเลหนุนสูงส่งผลให้มีน้ำเอ่อล้นท่วมชุมชนนอกคันกั้นน้ำ ปลัดรับหากฝนตกซ้ำลงมาอีกอาจมีปัญหาได้ ด้านสพฐ.ทุ่มงบฯ 7.5 ล้านบาทช่วยเหลือ 25 โรงเรียนที่ประสบภัยน้ำท่วม

วันนี้(19 ก.ย.)นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้สูงวัยในชุมชนวัดสร้อยทอง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ทะลักเข้าท่วมชุมชน เมื่อช่วงดึกของวันที่ 18 ก.ย. โดยขณะนี้ระดับน้ำท่วมสูงถึงต้นขา ชาวบ้านต้องขนย้ายที่นอน ข้าวของขึ้นที่สูงหนีน้ำกันอย่างอลหม่าน

นายพงศ์ศักติฐ์ กล่าวภายหลังว่า เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นจึงทำให้ชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมีระยะทาง 7 กิโลเมตร ประกอบด้วยเขตบางซื่อ บางกอกน้อย ได้รับผลกระทบน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตนได้สั่งการให้เขตพื้นที่ทำการเสริมแนวกระสอบทรายสูง 2.50 เมตร ซึ่งในจุดชุมชนวัดสร้อยทองนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองซุง เจ้าหน้าที่ได้ขุดคันดินเพื่อฝังเสา แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาคันดินทรุดตัวลงจึงทำให้น้ำทะลึกเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางเขตบางซื่อได้เข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบแล้ว โดยส่งเจ้าหน้าที่ทำแนวสะพานทางเดินไม้เข้าออกชุมชน และเสริมเตียงนอนไม้ให้กับประชาชนแล้ว ทั้งนี้มั่นใจว่าจะสามารถรับมือสถานการณ์น้ำท่วมได้ น้ำจะไม่ทะลักเข้าพื้นที่ชั้นในอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ที่ห่วงอยู่ในขณะนี้คือน้ำฝนหากมีฝนตกซ้ำลงมาอีกอาจมีปัญหาได้

ปลัดกทม. กล่าวด้วยว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้อยู่ที่ระดับ 2,200 ลบ.ม. /วินาที โดยน้ำเหนือได้ไหลผ่านลงมาถึงพื้นที่กทม.แล้ว แต่ยังคงรับมือได้อยู่ที่ระดับ2,500 ลบ.ม./วินาที ส่วนสถานการณ์น้ำในพื้นที่ด้านตะวันออกของ กทม. ขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองประเวศบุรีรมย์มีระดับที่ค่อนข้างสูง แต่ยังสามารถรับมือได้ เนื่องจากมีประตูระบายน้ำที่กำลังก่อสร้างใกล้จะแล้วเสร็จในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ อีก 3 แห่ง ซึ่งจะสามารถช่วยผันน้ำไปลงคลองบางประกง คลองด่าน คลองพระองค์เจ้าไชยยานุชิต ได้ เป็นต้น 

ด้าน คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดอุทกภัยจากฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เป็นเหตุให้ประชาชนและนักเรียน ได้รับผลกระทบ และความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งบ้านเรือน ไร่นา และอาคารสถานศึกษาในสังกัดได้รับความเสียหาย

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้สำรวจทุกเขตพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนและได้จัดสรรเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นเพื่อเป็นการบรรเทาในระยะแรกแก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 25 แห่งๆ ละ 300,000 บาท

สำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ซึ่ง สพฐ.ได้ส่งเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระบุรีเขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลพบุรีเขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฉะเชิงเทราเขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตราดเขต 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปราจีนบุรีเขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมาเขต 4 สำนักงานเขตพื้นการศึกษาเลยเขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาน่านเขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลกเขต 1 เขต 2 และเขต 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิจิตรเขต 1 และเขต 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบูรณ์เขต 1 เขต 2 และเขต 3 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตากเขต 2

นอกจากนี้ สพฐ.ยังกำชับให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งที่ได้รับความเดือดร้อนเร่งสำรวจความเสียหาย สรุปยอดจำนวนเงินและแจ้งให้ สพฐ.ทราบเป็นการด่วนเพื่อจะได้เร่งให้การช่วยเหลือในลำดับต่อไป

“ทุกปีในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง สพฐ.มีความเป็นห่วงนักเรียนและสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วม และได้ติดตามสอดส่องดูแลให้ความช่วยเหลือมาตลอด อย่างไรก็ตามยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ซึ่งต้องมีการสำรวจ และตรวจสอบข้อมูลความเสียหายของผู้ประสบภัย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือได้ครอบคลุมและทั่วถึงต่อไป” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น