พิจิตร – แม่จูงมือเด็กหญิงวัย 12 ปีเข้าแจ้งความซ้ำอดีต ผญบ.ผู้สมัคร ส.อบต.วังสำโรง และพวกข่มขืนมาราธอนท้อง 6 เดือน หลังเคยขึ้นโรงพักมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ตำรวจท้องที่ทำโยกโย้ จนถูกผู้การฯ สั่งเด้งฟ้าผ่า
วันนี้ (16 ส.ค.51)นางติ๊ก อุดแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/2 หมู่ที่ 1 ตำบลวังสำโรง อำเภอตะพานหิน จ. พิจิตร ได้นำเด็กหญิง เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ไตรภพ จั่นเจริญ พนักงานสอบสวน จากกองบังคับการตำรวจภูธรพิจิตร ที่มารักษาการณ์แทน พ.ต.ท.สายันต์ จันศรี หัวหน้า สภ.วังหว้า อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ว่า บุตรสาวคือ ด.ญ.เอ ถูกนายแฉล้ม ขำมิตา ไม่ทราบอายุซึ่งขณะนี้เป็นผู้สมัครสมาชิก อบต. วังสำโรงและเคยเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน และนายโชติ แพรพึ่ง อายุ 28 ปี อยู่หมู่ 1 ตำบลสำโรง กระทำชำเราลูกสาวจนตั้งท้องได้ 6 เดือน
ก่อนหน้านี้ พยามเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.จรูญ เพ็งศรี รองสว.สป.สภ.วังหว้า อำเภอตะพานหิน จ.พิจิตร มา 2 วัน แต่ไม่รับแจ้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวอ้างว่า จะเรียกทั้ง 2 มาไกล่เกลี่ยและเจรจาให้ยอมรับเงินค่าเสียหายเพียง 1 หมื่นบาท เพื่อให้ไปทำแท้ง แต่ทางญาติไม่ยอม อีกทั้งร้อยเวรคนดังกล่าว ไม่อยู่เวรโดยหลบไปรับลูกที่จังหวัดสุโขทัย ทำให้ผู้เสียหายหลายคดีจะมารอแจ้งความข้ามวันข้ามคืนก็แจ้งไม่ได้ จึงได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ต. ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตรเพื่อขอความธรรม
หลังจากที่ได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจจากกองบังคับการจึงได้ส่ง เด็กหญิงเอไปตรวจร่องรอยการถูกข่มขืนและการตั้งท้อง ที่ ร.พ. ตะพานหิน พบว่า มีร่องรอยการทำกระอนาจารจริงและตั้งท้องแล้ว 6 เดือน
ต่อมา พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เชาวลิต ชาญเวช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ลงมาดูแลคดี อีกทั้งได้แต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ไตรภพ จั่นเจริญ พนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ทำหน้าที่สอบสวนแทน และให้รักษาการณ์ แทนหัวหน้า สภ.วังหว้า ที่ไปราชการที่กรุงเทพฯ และยังมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัย ร.ต.อ.จรูญ เพ็งศรี รองสว.สป.สภ.วังหว้า ร้อยเวร คนเดิม เนื่องจากละทิ้งเวร แล้วหนีเวรไปจังหวัดสุโขทัยโดยไม่แจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบ ซึ่งอาจจะให้มาประจำที่กองบังคับการฯ
จากการนสอบสวนนางติ๊ก แม่เด็กหญิงเอ ให้การว่า ตนเองเพิ่งจะมาทราบว่าบุตรสาวของตนเองตั้งท้อง เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นความผิดปกติหลังจากกลับมาจากโรงเรียนทุกวัน จะมีอาการซึม และท้องใหญ่ผิดปกติ จึงนำไปตรวจที่ รพ.ยุพราช จนรู้ว่าเด็กหญิงเอท้องได้เกือบ 6 เดือนแล้ว จึงได้สอบถามลูกสาว ได้ความว่าถูกนายแฉล้ม - นายโชติ หลอกไปเข้าโรงแรมแล้วกระทำชำเราพร้อมกับให้เงินครั้งละ 500 บาท จนท้องได้ 6 เดือนดังกล่าว
นางติ๊ก แม่เด็กหญิงเอ กล่าวว่า ตนเองสังเกตบุตรสาวมานานแล้วเห็นความผิดปกติ เสื้อผ้าใส่ไม่ได้ จึงได้สอบถามลูกสาวจึงรู้ว่าถูกนายแฉล้ม ผู้สมัครสมาชิก อบต. วังสำโรง และนายโชติ ซึ่งเป็นคนในหมู่เดียวกัน ทำอนาจารจนท้องได้ 6 เดือน จึงได้นำเรื่องนี้เข้าแจ้งความตั้งแต่วันทราบเรื่องแต่ปรากฏว่าไป ร.ต.อ.จรูญ เพ็งศร ร้อยเวร สภ.วังหว้า ไม่รับแจ้ง โดยอ้างว่าต้องมาสอบสวนตอนเช้า และจะนัดคู่กรณีมาเจรจากัน แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงร้อยเวรคนดังกล่าวกลับพูดว่าขอให้มาตอนเย็นช่วง 4-5 โมง เนื่องจากติดธุระจะต้องไปรับลูกที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งตนเองสงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ทำหน้าที่เป็นร้อยเวรในคดี กำลังอยู่เวรทำไมไม่รับแจ้งความทั้งที่ประชาชนกำลังได้รับวามเดือดร้อน
ด้านพล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดีดังกล่าวขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนางติ๊ก มารดาของ ด.ญ.เอ เรียบร้อยแล้ว ในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านั้นได้มีผู้หญิงคนหนึ่งนำ ด.ญ.เอ ไปส่งให้กับนายแฉล้ม - นายโชติ ตั้งแต่ก่อนเดือนเมษายน เพื่อทำอนาจาร โดยนำเงินมาล่อเด็ก ซึ่งเด็กหญิงดังกล่าว ไม่รู้ประสีประสาอะไร ดังนั้นจะต้องหาตัวผู้หญิงคนดังกล่าวมาสอบสวนดำเนินคดีด้วย
นอกจากนี้หลังจากสอบสวนเสร็จสิ้น จะเรียก ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มารับแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาทำอนาจารรุมโทรมหญิงที่อายุต่ำกว่า 15 ปี - พรากผู้เยาว์ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ต้องรอสอบสวนเด็กหญิงเอ โดยละเอียดอีกครั้ง
วันนี้ (16 ส.ค.51)นางติ๊ก อุดแก้ว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/2 หมู่ที่ 1 ตำบลวังสำโรง อำเภอตะพานหิน จ. พิจิตร ได้นำเด็กหญิง เอ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.5 เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ไตรภพ จั่นเจริญ พนักงานสอบสวน จากกองบังคับการตำรวจภูธรพิจิตร ที่มารักษาการณ์แทน พ.ต.ท.สายันต์ จันศรี หัวหน้า สภ.วังหว้า อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ว่า บุตรสาวคือ ด.ญ.เอ ถูกนายแฉล้ม ขำมิตา ไม่ทราบอายุซึ่งขณะนี้เป็นผู้สมัครสมาชิก อบต. วังสำโรงและเคยเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน และนายโชติ แพรพึ่ง อายุ 28 ปี อยู่หมู่ 1 ตำบลสำโรง กระทำชำเราลูกสาวจนตั้งท้องได้ 6 เดือน
ก่อนหน้านี้ พยามเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.จรูญ เพ็งศรี รองสว.สป.สภ.วังหว้า อำเภอตะพานหิน จ.พิจิตร มา 2 วัน แต่ไม่รับแจ้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าวอ้างว่า จะเรียกทั้ง 2 มาไกล่เกลี่ยและเจรจาให้ยอมรับเงินค่าเสียหายเพียง 1 หมื่นบาท เพื่อให้ไปทำแท้ง แต่ทางญาติไม่ยอม อีกทั้งร้อยเวรคนดังกล่าว ไม่อยู่เวรโดยหลบไปรับลูกที่จังหวัดสุโขทัย ทำให้ผู้เสียหายหลายคดีจะมารอแจ้งความข้ามวันข้ามคืนก็แจ้งไม่ได้ จึงได้เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.ต. ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตรเพื่อขอความธรรม
หลังจากที่ได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจจากกองบังคับการจึงได้ส่ง เด็กหญิงเอไปตรวจร่องรอยการถูกข่มขืนและการตั้งท้อง ที่ ร.พ. ตะพานหิน พบว่า มีร่องรอยการทำกระอนาจารจริงและตั้งท้องแล้ว 6 เดือน
ต่อมา พล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เชาวลิต ชาญเวช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ลงมาดูแลคดี อีกทั้งได้แต่งตั้งให้ พ.ต.ท.ไตรภพ จั่นเจริญ พนักงานสอบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร ทำหน้าที่สอบสวนแทน และให้รักษาการณ์ แทนหัวหน้า สภ.วังหว้า ที่ไปราชการที่กรุงเทพฯ และยังมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัย ร.ต.อ.จรูญ เพ็งศรี รองสว.สป.สภ.วังหว้า ร้อยเวร คนเดิม เนื่องจากละทิ้งเวร แล้วหนีเวรไปจังหวัดสุโขทัยโดยไม่แจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบ ซึ่งอาจจะให้มาประจำที่กองบังคับการฯ
จากการนสอบสวนนางติ๊ก แม่เด็กหญิงเอ ให้การว่า ตนเองเพิ่งจะมาทราบว่าบุตรสาวของตนเองตั้งท้อง เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2551 ที่ผ่านมา เนื่องจากเห็นความผิดปกติหลังจากกลับมาจากโรงเรียนทุกวัน จะมีอาการซึม และท้องใหญ่ผิดปกติ จึงนำไปตรวจที่ รพ.ยุพราช จนรู้ว่าเด็กหญิงเอท้องได้เกือบ 6 เดือนแล้ว จึงได้สอบถามลูกสาว ได้ความว่าถูกนายแฉล้ม - นายโชติ หลอกไปเข้าโรงแรมแล้วกระทำชำเราพร้อมกับให้เงินครั้งละ 500 บาท จนท้องได้ 6 เดือนดังกล่าว
นางติ๊ก แม่เด็กหญิงเอ กล่าวว่า ตนเองสังเกตบุตรสาวมานานแล้วเห็นความผิดปกติ เสื้อผ้าใส่ไม่ได้ จึงได้สอบถามลูกสาวจึงรู้ว่าถูกนายแฉล้ม ผู้สมัครสมาชิก อบต. วังสำโรง และนายโชติ ซึ่งเป็นคนในหมู่เดียวกัน ทำอนาจารจนท้องได้ 6 เดือน จึงได้นำเรื่องนี้เข้าแจ้งความตั้งแต่วันทราบเรื่องแต่ปรากฏว่าไป ร.ต.อ.จรูญ เพ็งศร ร้อยเวร สภ.วังหว้า ไม่รับแจ้ง โดยอ้างว่าต้องมาสอบสวนตอนเช้า และจะนัดคู่กรณีมาเจรจากัน แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงร้อยเวรคนดังกล่าวกลับพูดว่าขอให้มาตอนเย็นช่วง 4-5 โมง เนื่องจากติดธุระจะต้องไปรับลูกที่จังหวัดสุโขทัย ซึ่งตนเองสงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ทำหน้าที่เป็นร้อยเวรในคดี กำลังอยู่เวรทำไมไม่รับแจ้งความทั้งที่ประชาชนกำลังได้รับวามเดือดร้อน
ด้านพล.ต.ต.ศิรินทร์ ผดุงชีวิตร์ กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดีดังกล่าวขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนางติ๊ก มารดาของ ด.ญ.เอ เรียบร้อยแล้ว ในเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านั้นได้มีผู้หญิงคนหนึ่งนำ ด.ญ.เอ ไปส่งให้กับนายแฉล้ม - นายโชติ ตั้งแต่ก่อนเดือนเมษายน เพื่อทำอนาจาร โดยนำเงินมาล่อเด็ก ซึ่งเด็กหญิงดังกล่าว ไม่รู้ประสีประสาอะไร ดังนั้นจะต้องหาตัวผู้หญิงคนดังกล่าวมาสอบสวนดำเนินคดีด้วย
นอกจากนี้หลังจากสอบสวนเสร็จสิ้น จะเรียก ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มารับแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาทำอนาจารรุมโทรมหญิงที่อายุต่ำกว่า 15 ปี - พรากผู้เยาว์ ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ต้องรอสอบสวนเด็กหญิงเอ โดยละเอียดอีกครั้ง