เชียงราย - สั่งสอบ ผกก.สภ.ท่าวังผา- ตำรวจ สภ.แม่สาย นำกำลังบุกค้นบ้านโดยไม่มีหมายค้นข้ามถิ่นถึงชายแดนเชียงราย
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (15 ส.ค.) พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผบก.ภ.เชียงราย สั่งการให้ พ.ต.อ.สมสง่า ชรินทร์ รอง ผบก.ภ.เชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการพนักงานสอบสวน กรณีมีผู้แจ้งความดำเนินคดีกับข้าราชการระดับสูงและพวกข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน ให้เรียกบุคคลที่ถูกร้อง ประกอบด้วย พ.ต.อ.สุรกฤษ เกิดมั่น ผกก.สภ.ท่าวังผา จ.น่าน, ร.ต.อ.อนุสรณ์ บุญศรี รอง สวป.สภ.แม่สาย, นายเสริมศักดิ์ จรุงวรรณรัตน์ ผู้สื่อข่าวหนังสือฉบับหนึ่ง และ นายณกรพงศ์ ดวงแก้ว ชาว อ.แม่สาย ไปให้ปากคำกับคณะกรรมการ
หลังจากก่อนหน้านี้ ได้มี น.ส.บุษยมาส มงคล อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 241 หมู่ 9 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ชัยณรงค์ รัชตประทาน สารวัตรเวร สภ.แม่สาย ว่า ทั้งสี่คนได้บุกรุกเข้าไปในบ้านโดยไม่มีหมายค้น เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 3 ก.ค.2551 ที่ผ่านมา อ้างว่า จะเข้าไปช่วยตรวจสอบเรื่องที่มีตำรวจหน่วยงานอื่นเข้าไปตรวจค้นบ้านโดยที่เจ้าของบ้านไม่ได้ให้ความยินยอม แต่เมื่อชายทั้งสี่คนก็เข้าไปในบ้านทำนองว่าจะเข้าตรวจค้นบ้าน ทั้งยังยึดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ไม่ให้ติดต่อหรือแจ้งผู้อื่นให้ทราบ รวมทั้งข่มขู่ต่างๆ นานา
ขณะเดียวกัน หลังจาก น.ส.บุษยมาส ได้แจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกกลั่นแกล้ง กล่าวหาว่า ตนมีพฤติกรรมเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมาย และมีการยุแหย่ให้หน่วยงานอื่นเข้าไปตรวจค้นบ้านเพิ่มเติม ดังนั้น พล.ต.ต.เดชณรงค์ จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนดังกล่าว
พ.ต.อ.สมสง่า กล่าวว่า คณะกรรมการได้เรียกให้บุคคลที่เกี่ยวข้องไปให้ปากคำ หลังจากที่ได้มีผู้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเข้าในเคหสถานผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยถือเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหา แต่ปรากฎว่ามีผู้ไปให้ปากคำเพียง 3 คน โดยขาดเพียง พ.ต.อ.สุรกฤษ เพียงคนเดียวที่ไม่ไปให้ปากคำ
ขณะที่ทั้ง 3 คนข้างต้นได้ให้การปฏิเสธ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามที่มีผู้ร้องให้ทราบและปล่อยตัวไปก่อนตามขั้นตอน จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลหลักฐาน พยาน ทุกอย่างเพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับกรณี พ.ต.อ.สุรกฤษ ที่ไม่ไปพบกับคณะกรรมการ ก็คงจะมีการแจ้งไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็คิดว่าคงจะเดินทางไปพบคณะกรรมการฯด้วยดีและคงจะไม่มีปัญหาอะไรมาก เพราะคณะกรรมการยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างรอบคอบ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับข้าราชการตำรวจระดับสูง
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (15 ส.ค.) พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผบก.ภ.เชียงราย สั่งการให้ พ.ต.อ.สมสง่า ชรินทร์ รอง ผบก.ภ.เชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการพนักงานสอบสวน กรณีมีผู้แจ้งความดำเนินคดีกับข้าราชการระดับสูงและพวกข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน ให้เรียกบุคคลที่ถูกร้อง ประกอบด้วย พ.ต.อ.สุรกฤษ เกิดมั่น ผกก.สภ.ท่าวังผา จ.น่าน, ร.ต.อ.อนุสรณ์ บุญศรี รอง สวป.สภ.แม่สาย, นายเสริมศักดิ์ จรุงวรรณรัตน์ ผู้สื่อข่าวหนังสือฉบับหนึ่ง และ นายณกรพงศ์ ดวงแก้ว ชาว อ.แม่สาย ไปให้ปากคำกับคณะกรรมการ
หลังจากก่อนหน้านี้ ได้มี น.ส.บุษยมาส มงคล อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 241 หมู่ 9 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.ชัยณรงค์ รัชตประทาน สารวัตรเวร สภ.แม่สาย ว่า ทั้งสี่คนได้บุกรุกเข้าไปในบ้านโดยไม่มีหมายค้น เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 3 ก.ค.2551 ที่ผ่านมา อ้างว่า จะเข้าไปช่วยตรวจสอบเรื่องที่มีตำรวจหน่วยงานอื่นเข้าไปตรวจค้นบ้านโดยที่เจ้าของบ้านไม่ได้ให้ความยินยอม แต่เมื่อชายทั้งสี่คนก็เข้าไปในบ้านทำนองว่าจะเข้าตรวจค้นบ้าน ทั้งยังยึดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ไม่ให้ติดต่อหรือแจ้งผู้อื่นให้ทราบ รวมทั้งข่มขู่ต่างๆ นานา
ขณะเดียวกัน หลังจาก น.ส.บุษยมาส ได้แจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกกลั่นแกล้ง กล่าวหาว่า ตนมีพฤติกรรมเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมาย และมีการยุแหย่ให้หน่วยงานอื่นเข้าไปตรวจค้นบ้านเพิ่มเติม ดังนั้น พล.ต.ต.เดชณรงค์ จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนดังกล่าว
พ.ต.อ.สมสง่า กล่าวว่า คณะกรรมการได้เรียกให้บุคคลที่เกี่ยวข้องไปให้ปากคำ หลังจากที่ได้มีผู้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเข้าในเคหสถานผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยถือเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหา แต่ปรากฎว่ามีผู้ไปให้ปากคำเพียง 3 คน โดยขาดเพียง พ.ต.อ.สุรกฤษ เพียงคนเดียวที่ไม่ไปให้ปากคำ
ขณะที่ทั้ง 3 คนข้างต้นได้ให้การปฏิเสธ ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาตามที่มีผู้ร้องให้ทราบและปล่อยตัวไปก่อนตามขั้นตอน จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลหลักฐาน พยาน ทุกอย่างเพื่อพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับกรณี พ.ต.อ.สุรกฤษ ที่ไม่ไปพบกับคณะกรรมการ ก็คงจะมีการแจ้งไปอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งก็คิดว่าคงจะเดินทางไปพบคณะกรรมการฯด้วยดีและคงจะไม่มีปัญหาอะไรมาก เพราะคณะกรรมการยืนยันว่า จะดำเนินการอย่างรอบคอบ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับข้าราชการตำรวจระดับสูง