ศูนย์ข่าวศรีราชา -แม่-พี่สาว พร้อมญาติ สุดปลื้มนั่งลุ้นหน้าจอทีวี ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เชียร์ "อำนาจ รื่นเริง"นักชกโอลิมปิกไทย ไล่ต้อน"แจ็ค บิลลี่"จากปาปัวนิวกินี โดยยกแรกนำไป 4 ต่อ 0 สร้างความผ่อนคลายให้กับกองเชียร์และเมื่อครบ 4 ยก ชนะอย่างสบายมือ ด้วยคะแนนรวม 14 ต่อ 2 หมัด ด้านผู้ฝึกสอน ชี้ มีสิทธิลุ้นเหรียญรางวัลแน่
วันนี้ (13 ส.ค.) เวลา 18.00 น.ณ บริเวณบ้านเลขที่ 326/200 ม.8 หมู่บ้านลัดดาเฮาส์ ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านพักของ “อำนาจ รื่นเริง” นักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยที่ขึ้นเวทีชิงชัยกับ นายแจ็ค บิลลี่ ชาวปาปัวนิวกินี ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีแม่-พี่สาว ญาติพี่น้อง และเพื่อนบ้านร่วมกันมานั่งเชียร์บริเวณเต็นท์ที่จัดไว้
เมื่อถึงเวลาชก “อำนาจ รื่นเริง“ ขึ้นอยู่ในมุมแดง ส่วนคู่ต่อสู้ อยู่ในมุมน้ำเงิน โดยเมื่อกรรมการเริ่มยก อำนาจ เต้นฟุตเวิร์ก และมีลีลาคล่องแคล่วว่องไว และสามารถต่อยเข้าเป้าได้คะแนนแรก กองเชียร์ได้ส่งเสียงเชียร์ลั่นจอ และในเวลาต่อมาก็สามารถชกทำแต้มอีก จนจบยกแรก อำนาจ มีคะแนนนำ 4 ต่อ 0 คะแนนทำให้กองเชียร์ไม่เคร่งเครียดเท่าที่ควร
เมื่อขึ้นยกที่ 2 อำนาจ ก็อาศัยฟอร์มเดิม โดยชกขวาแล้วก็ฉีกตัวออกมา ซึ่งแต่ละหมัดที่ปล่อยออกไป ได้คะแนนแทบทั้งสิ้น โดยจบยก 2 สามารถทำคะแนนได้อีก 4 มัด รวม 2 ยก 8 คะแนน ต่อ 0 และในยกที่ 3 อำนาจ ก็ยังรักษารูปแบบการชกเหมือนเดิม และจบในยกที่ 3 ก็เก็บคะแนนได้อีก 4 หมัด รวม 3 ยก 12 หมัด ต่อ 0
เมื่อถึงยกสุดท้าย (ที่ 4) อำนาจ เริ่มมีความมั่นใจในชัยชนะ และหลอกล่อคู่ต่อสู้ ทำให้นักชกคู่แข่ง สามารถชกทำคะแนนมาได้ 1 หมัด แต่ อำนาจ ก็สามารถทำคะแนนได้อีก 1 หมัด และ 2 มัดติดต่อกัน ก่อน แจ็ค บิลลี่ ยกได้อีก 1 หมัด เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน อำนาจ รื่นเริง มีคะแนน 14 หมัด ส่วนคู่ต่อสู้ ได้ 2 หมัด ทำให้คะแนนการชกในครั้งนี้ขาดลอย
หลังจบการแข่งขัน นางวันดี รื่นเริง พี่สาว กล่าวว่า ดีใจและขอให้ประสบผลสำเร็จในครั้งนี้ ส่วน นางนิด (แม่) ตื่นตันใจอย่างมากๆ โดยตอบเพียงสั้นๆ ว่า ดีใจ และส่งกำลังใจให้ได้เหรียญทองกลับมา
ด้าน นายกมล ทองสุข ผู้บังคับแดน 5 เรือนจำกลางจังหวัดชลบุรีและผู้ฝึกสอน “อำนาจ รื่นเริง” ในช่วงที่ถูกควบคุมตัวในเรือนจำ เมื่อช่วงปี 2548 ที่ผ่านมา กล่าวถึงการชกในวันนี้มีการพัฒนาฝีมือขึ้นมาก แต่หากหมัดขวาหน้ายกขึ้นป้องกันมากกว่านี้ก็ยิ่งดีขึ้น
โดยที่ผ่านมา ทางกรมราชทัณฑ์ได้มีนโยบายให้การสนับสนุนผู้ต้องขังได้แสดงออกในด้านการกีฬาและสามารถเข้าชกในกีฬา “แดนสามัคคีเกมส์ “ ถึง 3 ครั้ง และได้รางวัล เบสต์บอกเซอร์ มาถึง 2 รางวัล ทั้งระดับภาคและในระดับภาคด้วย และในช่วงหลังใกล้พ้นโทษ เมื่อตนเห็นฝีมือ จึงสนับสนุนมาโดยตลอด และส่งชิงแชมป์ประเทศไทย และติดทีมชาติไทยในครั้งนี้ โดยถูกใจ พล.อ.ทวีป จันทโรจน์ จนสามารถไปชกกีฬาโอลิมปิกในครั้งนี้