ศรีสะเกษ – สมาคมข้าราชการพลเรือนและบุคลากรทางการศึกษา ล่ารายชื่อสมาชิก กบข.กว่า 30,000 ชื่อ เรียกร้องแก้ พ.ร.บ.กบข.และจี้ยกเลิกกรรมการ “กบข.” ชุดปัจจุบันพร้อมเลขาธิการ “กบข.” อ้างเสวยสุขอยู่กับการบริหารเงิน ที่หักเงินสะสมของสมาชิกแต่ไร้จิตสำนึก ดื้อรั้นไม่สนใจหรือรับฟังเสียงของมวลสมาชิกที่เดือดร้อน และให้ชี้แจงเงินที่หักสะสมและผลประโยชน์ที่ได้รับมาทั้งหมด เผยนัดชุมนุมใหญ่กดดันรัฐบาลที่ ขอนแก่น พรุ่งนี้ (13 ส.ค.)
วันนี้ (12 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานพื้นที่การศึกษา (สพท.) ศรีสะเกษ เขต 4 ถ.วีระเทพ ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวิศร์ อัครสันตติกุล นายกสมาคมข้าราชการพลเรือนและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 และกฎกระทรวงโดยเฉพาะ มาตรา 63, 36, 44 และให้ยกเลิกข้อกำหนดห้ามลาออกจากการเป็นสมาชิกกองทุน ให้สามารถลาออกได้ โดยได้รับผลประโยชน์จากกองทุน ตั้งแต่แรกเข้าจนถึงลาออกจากการเป็นสมาชิกเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับข้าราชการทั่วประเทศ นั้น
ล่าสุด ขณะนี้ได้มีข้าราชการจากส่วนราชการต่างๆ และสถานศึกษาทั่วประเทศส่งรายชื่อมามากกว่า 30,000 รายชื่อแล้ว พร้อมได้ร่วมกันลงชื่อขอแก้ไข พ.ร.บ.กบข., กฎกระทรวง และ แนบเรื่องขอลาออกจากสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) มาด้วย เพื่อให้มีการยกเลิกคณะกรรมการกองทุน กบข.โดยเร็ว เนื่องจากสมาชิก กบข.สังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศมีความไม่มั่นใจในการบริหารงานของคณะกรรมการ กบข.ชุดนี้ เป็นอย่างมาก
นายวิศร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สมาชิก กบข.สังกัดกระทรวงศึกษาธิการยังได้มีมติร่วมกันว่า ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ดำเนินการ ดังนี้
1.ให้เร่งแก้ไขกฎระเบียบ กบข.ที่รอนสิทธิ์ของสมาชิกโดยเร็ว เมื่อเกษียณหรือลาออกให้ได้รับบำนาญเต็มเหมือนกับผู้ที่ไม่เคยเป็นสมาชิก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมาย
2.ให้ยกเลิกกรรมการชุดปัจจุบันทั้งหมด รวมทั้งเลขาธิการ กบข.ด้วย เพราะเสวยสุขอยู่กับการบริหารเงินที่หักสะสมของสมาชิกมานานแล้ว แต่ทำตัวเปรียบเสมือนเป็นคนตาบอดและไร้จิตสำนึก ดื้อรั้น ไม่สนใจหรือรับฟังเสียงของมวลสมาชิกที่เดือดร้อนมาก และให้ชี้แจงเงินที่หักสะสมและผลประโยชน์ที่ได้รับทั้งหมดรวมทั้งการใช้จ่ายต่างๆ ของ กบข.ให้โปร่งใสชัดเจน
และ 3.ให้ยกเลิกกองทุน กบข.แล้วคืนเงินสะสมพร้อมดอกเบี้ยและสิทธิประโยชน์อื่นๆ คืนแก่สมาชิกโดยเร็วต่อไป
“พวกเราสมาชิก กบข.ทั่วประเทศจำนวนหลายพันคนจะพากันเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ที่ จ.ขอนแก่น และวางมาตรการในการเข้ามาเคลื่อนไหวที่กรุงเทพฯ ต่อไปด้วย” นายวิศร์ กล่าว
วันนี้ (12 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสำนักงานพื้นที่การศึกษา (สพท.) ศรีสะเกษ เขต 4 ถ.วีระเทพ ต.น้ำอ้อม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวิศร์ อัครสันตติกุล นายกสมาคมข้าราชการพลเรือนและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไข พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 และกฎกระทรวงโดยเฉพาะ มาตรา 63, 36, 44 และให้ยกเลิกข้อกำหนดห้ามลาออกจากการเป็นสมาชิกกองทุน ให้สามารถลาออกได้ โดยได้รับผลประโยชน์จากกองทุน ตั้งแต่แรกเข้าจนถึงลาออกจากการเป็นสมาชิกเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับข้าราชการทั่วประเทศ นั้น
ล่าสุด ขณะนี้ได้มีข้าราชการจากส่วนราชการต่างๆ และสถานศึกษาทั่วประเทศส่งรายชื่อมามากกว่า 30,000 รายชื่อแล้ว พร้อมได้ร่วมกันลงชื่อขอแก้ไข พ.ร.บ.กบข., กฎกระทรวง และ แนบเรื่องขอลาออกจากสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) มาด้วย เพื่อให้มีการยกเลิกคณะกรรมการกองทุน กบข.โดยเร็ว เนื่องจากสมาชิก กบข.สังกัดกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศมีความไม่มั่นใจในการบริหารงานของคณะกรรมการ กบข.ชุดนี้ เป็นอย่างมาก
นายวิศร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้สมาชิก กบข.สังกัดกระทรวงศึกษาธิการยังได้มีมติร่วมกันว่า ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ดำเนินการ ดังนี้
1.ให้เร่งแก้ไขกฎระเบียบ กบข.ที่รอนสิทธิ์ของสมาชิกโดยเร็ว เมื่อเกษียณหรือลาออกให้ได้รับบำนาญเต็มเหมือนกับผู้ที่ไม่เคยเป็นสมาชิก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่พึงมีพึงได้ตามกฎหมาย
2.ให้ยกเลิกกรรมการชุดปัจจุบันทั้งหมด รวมทั้งเลขาธิการ กบข.ด้วย เพราะเสวยสุขอยู่กับการบริหารเงินที่หักสะสมของสมาชิกมานานแล้ว แต่ทำตัวเปรียบเสมือนเป็นคนตาบอดและไร้จิตสำนึก ดื้อรั้น ไม่สนใจหรือรับฟังเสียงของมวลสมาชิกที่เดือดร้อนมาก และให้ชี้แจงเงินที่หักสะสมและผลประโยชน์ที่ได้รับทั้งหมดรวมทั้งการใช้จ่ายต่างๆ ของ กบข.ให้โปร่งใสชัดเจน
และ 3.ให้ยกเลิกกองทุน กบข.แล้วคืนเงินสะสมพร้อมดอกเบี้ยและสิทธิประโยชน์อื่นๆ คืนแก่สมาชิกโดยเร็วต่อไป
“พวกเราสมาชิก กบข.ทั่วประเทศจำนวนหลายพันคนจะพากันเคลื่อนไหวชุมนุมใหญ่ในวันที่ 13 ส.ค.นี้ที่ จ.ขอนแก่น และวางมาตรการในการเข้ามาเคลื่อนไหวที่กรุงเทพฯ ต่อไปด้วย” นายวิศร์ กล่าว