xs
xsm
sm
md
lg

สภ.พนมทวนบูรณะโรงพักเก่าทำเป็นพิพิธภัณฑ์ตำรวจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - สภ.พนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี กู๊ดไอเดียบูรณะโรงพักเก่าทำเป็นพิพิธภัณฑ์ตำรวจ เผยโรงพักเก่าหลังนี้เป็นโรงพักหลังเดียวของภาค 7 ที่ยังหลงเหลือให้ได้เห็นอยู่ในปัจจุบัน

อำเภอพนมทวน เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี มีภูมิประเทศทางด้านทิศเหนือติดต่อกับอำเภอห้วยกระเจา ทิศใต้ติดอำเภอท่าม่วงอำเภอท่ามะกา ทิศตะวันออกติดอู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และทิศตะวันตกติดตำบลหนองขาวและอำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอพนมทวนเดิมมีชื่ออำเภอว่า อำเภอเหนือ

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.2374 ในรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงแบ่งเขตจังหวัดกาญจนบุรี และที่ตั้งจังหวัดใหม่จึงได้เปลี่ยนชื่ออำเภอเหนือเป็นอำเภอบ้านทวนเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ที่มีภูเขา ซึ่งคำว่า พนม แปลว่า ภูเขา ส่วนทวน นั้นมาจากแม่น้ำไหลทวนไปทางทิศเหนือ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงปรับปรุงการปกครองหัวเมืองใหม่ อำเภอบ้านทวนจึงเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอพนมทวนมาตั้งแต่ รศ.114 หรือ พ.ศ2433

สถานีตำรวจภูธรอำเภอพนมทวนตั้งอยู่บริเวณหมู่ที่ 1 ปัจจุบันเป็นหมู่บ้าน โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างโดยประเทศสหรัฐอเมริกา (ยูซ่อม) ต่อมาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2470 กระทรวงมหาดไทยได้เอาที่ดินแปลงทะเบียน 5371 แลกกับที่ของนายยี่สง และแปลงที่ 7312 ซึ่งเป็นที่ดินแปลงผืนปัจจุบันได้ทำการก่อสร้างโรงพักขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ.2470 ในลักษณะอาคารไม้ชั้นเดียว ยกพื้นสูงประมาณ 2 เมตร หลังคามุงด้วยสังกระสี

ด้านหน้าบนโรงพักมีประตูตะแกงเหล็กกั้นมีอาณาเขตรับผิดชอบในขณะนั้น 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพนมทวน อำเภอเลาขวัญ และ อำเภอห้วยกระเจา มีเจ้าหน้าตำรวจ 20 นาย มีตำรวจยศสิบตำรวจเอกเป็นหัวหน้า การเดินทางสมัยนั้นใช้ม้าเป็นยานพาหนะต่อมาเปลี่ยนเป็นรถจักรยานและรถยนต์ตามลำดับ อาวุธประจำกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนลูกซองพกสั้น อาวุธปืนยาวคาร์บิน (ปลย.87) ต่อมาภายหลังปี พ.ศ.2512 ได้มีการแยกเขตอำเภอเลาขวัญออกไป และ เมื่อปี พ.ศ.2537 ได้แยกเขตอำเภอห้วยกระเจาออกไปอีกอำเภอ สถานีตำรวจภูธรพนมทวนมีเนื้อที่ในความรับผิดชอบประมาณ 535.78 ตารางกิโลเมตรและอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีประมาณ 24 กิโลเมตร

ต่อมามีการก่อตั้งโรงพักหลังใหม่ขึ้นที่บริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโรงพักหลังเก่าในลักษณะอาคาร 2 ชั้นใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ความที่โรงพักหลังใหม่เพียบพร้อมทุกอย่างทำให้โรงพักไม้หลังเก่าที่สร้างมานานค่อยๆถูกลืมลงจนปล่อยให้ไม้เล่านั้นพุพังไปตามกาลเวลา

พ.ต.อ.ณรงค์ ทรัพย์เย็น ผกก.สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ในขณะนั้นได้ทำงานอยู่ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เดินทางมาที่ สภ.พนมทวน และเห็นว่า โรงพักไม้หลังเก่าของ สภ.พนมทวน หลังนี้น่าจะเก็บไว้ทำเป็นพิพิธภัณฑ์โรงพักเก่าของตำรวจภูธณภาค 7 พ.ต.อ.ณรงค์ ทรัพย์เย็น จึงได้ทำการของบประมาณจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาประมาณ 300,000 บาท เพื่อทำการบูรณะโรงพักไม้แห่งนี้ให้อยู่ในสภาพที่ใหม่คงสภาพเดิมเหมือนเช่นที่ผ่านมา

ร.ต.ต.แตง ทวีระวงษ์ อายุ 75 ปี ตำรวจเก่าในสมัยนั้นได้เปิดเผยว่า โรงพักไม้เก่าหลังนี้ก่อตั้งขึ้นมานานหลายปี ในสมัยนั้นบริเวณพื้นที่อำเภอพนมทวนล้วนเป็นพื้นที่ที่อันตรายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโจรผู้ร้ายหรือสิงห์เสือลาสัตว์ การเดินทางสมัยนั้นลำบากมากจะไปไหนแต่ละทีก็แสนจะลำบากอย่างเช่นเราจะเดินทางไปจับกุมตัวคนร้ายที่ อ.เลาขวัญ การเดินทางต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วันถึงจะเดินทางถึง ดีหน่อยก็ต่อเมื่อใช้ม้าขี้ กว่าเราจะเดินทางถึงจุดหมายก็ต้องคอยหลบคอยหนี้สัตว์ร้ายอย่างเช่นเสือโคร่งที่ชุกชุมมากในพื้นที่ของพนมทวนและเลาขวัญ

ร.ต.ต.บุญนาค คงชุ่มชื่น อายุ 76 ปี อดีตตำรวจเก่าอีกท่านได้กล่าวเพิ่มเติมว่า รู้มั้ยว่า ทำไม่บริเวณบนโรงพักไม้หลักเก่าถึงต้องมีประตูตะแกงเหล็กกั้นก็เพราะว่า เพื่อป้องกันเสือเข้ามาไล่กัดหรือจับไปกินไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอะไรเลย ตอนที่เราเข้าเวรยามบนโรงพักไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านใดเลยสักคนที่จะอยู่นอกประตูเหล็กทุกคนจะเข้าไปอยู่ด้านในเพราะกลัวเข้าเวรแล้วจะหลับเวรเสือจะเอาไปกิน

โรงพักเก่าหลังนี้ ถือได้ว่า เป็นโรงพักหลังเดียวของตำรวจภูธรภาค 7 ที่ยังหลงเหลือให้ได้เห็นอยู่ในปัจจุบัน สมควรที่จะทำเป็นพิพิธภัณฑ์เก็บไว้ให้ลูกหลานและเจ้าหน้าที่ตำรวจรุ่นหลังๆได้ชมได้ศึกษาต่อไป






พ.ต.อ.ณรงค์ ทรัพย์เย็น
กำลังโหลดความคิดเห็น