รอง กมธ.ตร.วุฒิสภาตามคดีม็อบถ่อยรุมตีพันธมิตรฯ

อุดรธานี - กรรมาธิการตำรวจ วุฒิสภา ลงพื้นที่อุดรฯรอบ 2 ตามสืบข้อมูลกรณีเหตุการณ์ม็อบถ่อยรุมทำร้ายพันธมิตรฯ “พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์” อดีต ส.ว.อุดรฯ ในฐานะรองประธาน กมธ.ยอมรับสังคมประณามการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจ เพราะไม่ควบคุมเหตุรุนแรง แนะทุกฝ่ายต้องปรองดองอย่าอิงนักการเมืองมากเกินเพราะมาแล้วก็ไป

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า วันนี้ (4 ส.ค.) ที่ห้องประชุมฉัตรไพฑูรย์ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ รองประธานคณะกรรมาธิการการยุติธรรมและตำรวจ วุฒิสภา, พล.ต.ท.บุญชอบ คงน้อย ผู้เชี่ยวชาญกรรมาธิการการยุติธรรม, นายพิเชษฐ์ คูหาทอง ประธานสภาทนายความจังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางมาติดตามผลความคืบหน้าคดีกลุ่มคนรักอุดรรุมทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จังหวัดอุดรธานี ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 24 กรกฎาคม 2551 ที่ผ่านมา บริเวณสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมืองอุดรธานี

โดย พ.ต.อ.ภัทราวุทธ เอื้อมศศิธร รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี, พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วงษ์สุเมธ ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี, นายกฤษดา แก้วสองเมือง ป้องกันจังหวัดอุดรธานี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้าโดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนที่มารอทำข่าวเข้ารับฟังด้วย

หลังรับฟังความคืบหน้า พล.ต.ท.พิชัย ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้มาใน 2 สถานะ คือ 1.มาในนามกรรมาธิการยุติธรรมและตำรวจ วุฒิสภา และ 2.มาในนามสมาชิกวุฒิสภาของ จ.อุดรธานี จากรายงานของตำรวจทราบว่า ในขณะนี้ได้มีการจับกุมผู้ก่อเหตุไปแล้ว จำนวน 5 คน ออกหมายเรียกไปอีก 18 คน รวม 23 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงสอบสวนต่อไปเรื่อยๆ ว่ามีใครร่วมกระทำความผิดบ้าง ซึ่งดูแล้วน่าจะมีมากกว่านี้

ส่วนภาพของตำรวจที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนั้น ตนในฐานะที่เป็นตำรวจมาก่อนก็เดือดร้อนเสียชื่อเสียงไปด้วย แต่ตนคิดว่าตำรวจในยุคปัจจุบันค่อนข้างจะมีความกังวล และสับสนในการเข้าไปดูแลรักษาความสงบ ในการชุมนุม เพราะผู้มาชุมนุมมีสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งตำรวจชั้นผู้น้อย หรือทหาร อส.ต้องฟังคำสั่งผู้บังคับบัญชา ที่ต้องสั่งการให้ชัดเจน หากมีการปฏิบัติตามลำพังก็จะเกิดความงง สับสนไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะจับก็ไม่มีอุปกรณ์ เพราะต้องถูกห้ามพกอาวุธ กุญแจมือ หันไปคว้าคนนี้ คนอื่นก็ตี เลยสับสนยืนงงเป็นไก่ตาแตกไป

“ถึงบอกว่าต้องมีการฝึกบ่อยๆ และผู้บังคับบัญชาต้องมีความชัดเจนในการออกคำสั่งว่า ให้ดำเนินการอย่างไร อย่างนี้ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบให้”

พล.ต.ท.พิชัย กล่าวอีกว่า การเผชิญหน้ากันของทั้ง 2 กลุ่ม ไม่ใช่เพิ่งจะเกิดครั้งแรก แต่เกิดขึ้นมาแล้วถึง 2 ครั้งโดยแรกที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานี และครั้งที่สองที่บริเวณตลาดบ้านห้วย แต่ไม่มีการปะทะกันเหมือนเช่นครั้งนี้ ในฐานะที่เคยรับราชการที่ จ.อุดรธานี รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากให้ทุกฝ่ายอยู่กันอย่างสันติ อย่าไปอิงกับนักการเมืองมากเกินไป เพราะนักการเมืองมาแล้วก็ไป ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้

“ความคิดที่แตกต่างกันนั้นก็เป็นสิทธิเสรีภาพของแต่ละคน แต่ทุกคนต่างอยู่ที่ จ.อุดรธานี ไม่จำเป็นว่าจะต้องเกิดที่นี่ แต่มาทำงานอยู่นี่ ก็เหมือนเป็นคนอุดร ทำอะไรก็ขอให้นึกถึงภาพพจน์ของจังหวัดด้วย เพราะ จ.อุดรธานี นั้นเป็นเมืองแห่งธรรมะ มีพระอาจารย์เกจิชื่อดังหลายองค์ รวมไปถึงพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี คงไม่อยากให้คนอุดรธานีต้องมาทะเลาะกัน”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ บุญโชติ พงส.สบ 3 สภ.อุดรธานี หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ ได้เรียกตำรวจจาก สภ.หนองหาน 4 นาย ที่อยู่ในเหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรฯถูกรุมทำร้ายมาสอบปากคำ กรณีมีภาพอยู่ในเหตุปะทะ เพื่อเป็นพยานในการออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมาดำเนินดคีเพิ่มเติมจากเดิม 23 คน