ตร.ชร.จับยาบ้าเป็นว่าเล่น เผยนายทุนให้คนคุกตัวประสาน-ปิดทางสาวถึงตัวการ

เชียงราย - ตร.เชียงรายสนธิกำลังร่วม ป.ป.ส.ด่านศุลกากรภาค 3 สกัดรถขนส่งพัสดุชื่อดัง พบกล่องพัสดุบรรจุขยายผลไปจับกุมผู้ต้องหา 2 คน และจับกุมผู้ที่มาขนยาบ้าอีกหลายคน หนึ่งในนั้นมีครูร่วมด้วย รวมของกลางกว่า 35,570 เม็ด เผยนายทุนยาบ้าให้ผู้ต้องโทษในเรือนจำ เป็นตัวการว่าจ้างคนให้ขนยาบ้า ทำให้สาวถึงตัวการยาก

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (4 ส.ค.) พล.ต.ต.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผบก.ภ.จ.เชียงราย และคณะ ได้แถลงผลการจับกุมยาเสพติดในหลายพื้นที่ รายแรก พล.ต.ต.อวยพร จินตกานนท์ รอง ผบช.ภ.5 นายจงกล ทิมอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานด่านศุลกากรภาค 3 ร่วมตำรวจภูธร จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมือง จับกุมนายสงคราม มงคลกุล อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.9 ต.เสอเพลอ อ.กุมภาวาปี จ.อุดรธานี น.ส.จันทิมา พูนสวัสดิ์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81/1 ม.2 ต.บางจะเกร็ง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 30,000 เม็ด

เนื่องจากศุลกากร อ.แม่จัน และ ตำรวจ ได้ทำการตรวจค้นรถขนพัสดุภัณฑ์ของบริษัท สยามเฟิร์ส เอ็กเพรสคาร์โก้ พบกล่องพัสดุต้องสงสัย 1 กล่อง ระบุที่อยู่ผู้รับถึงนายแสงชัย มงคลกุล โดยระบุชื่อผู้ส่งคือ นายสงคราม มีสำเนาบัตรประชาชนของนายสงคราม และใบรับส่งพัสดุภัณฑ์ เมื่อเปิดดูพบเป็นยาบ้าจำนวนดังกล่าว จึงแจ้งทางเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. ติดตามตัวผู้ต้องหาตามรายชื่อปรากฏ และนายสงคราม น.ส.จันทิมา ได้มาแสดงตัวรับกล่องพัสดุที่สำนักงานขนส่งสยามเฟิร์ม สาขาหัวลำโพง กรุงเทพฯ จึงถูกจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งนายสงครามรับสารภาพว่าทำมา 3 ครั้งแล้ว แต่ น.ส.จันทิมา อ้างว่า ได้รับฝากของจากชายคนหนึ่งที่นำมาฝากที่ข้างร้านขายยาใน กทม.เท่านั้น ตำรวจจึงจะสืบสวนหาตัวการที่ยังหลบหนีอยู่

อีกราย ตำรวจและทหาร ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเส้นทางลำเลียงยาบ้าบนดอยสูงตะเข็บแนวชายแดนไทย-พม่า บริเวณสามแยกศูนย์บำบัดยาเสพติด บ้านผาหมี ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบกลุ่มชายหญิง จำนวน 4 คน ท่าทางมีพิรุธเดินป้วนเปี้ยนแถบแนวชายแดน จึงเข้าควบคุมตัวเอาไว้

เบื้องต้นจากการตรวจค้นได้พบว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ทั้งหมด 4,600 เม็ด จึงจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ทราบชื่อ คือ นางศุภสุดา เกษกาญจน์ อายุ 51 ปี รับราชการตำแหน่งอาจารย์ ระดับ 2 ฝ่ายทะเบียนโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่ง ในพิษณุโลก อยู่บ้านเลขที่ 489/25 ม.6 ต.หัวรอ อ.เมืองพิษณุโลก, นายรัฐภัทร สนศิริ อายุ 29 ปี สาวประเภทสอง และเป็นบุตรชายของ นางศุภสุดา, นายรจิญวัทน์ หรือ แอ๊ด สมเครื่อง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 272 ม.1 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย, น.ส.ณัฐพร หรือ บิ๊ก เนาว์ชมภู อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 ม.1 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า แก๊งค้ายาบ้ารายนี้มีเครือข่ายกว้างขวาง โดยนายรัฐภัทร สาวประเภทสองรับสารภาพว่าเปิดร้านเสริมสวยที่พิษณุโลก แต่มีหนี้สินมาก ได้ถูกนายเทพ ไม่ทราบนามสกุล คนกรุงเทพฯ ว่าจ้างในราคา 190,000 บาท ให้มาขนยาบ้าที่เชียงราย โดยมี น.ส.ณัฐพร และนายรจิญวัทน์ คู่ผัวเมีย นำยาบ้ามาส่งให้ ก่อนเตรียมนำส่งให้นายทุนที่ซอยสุขุมวิท 101 แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ส่วน นางศุภสุดา ข้าราชการครูให้การปฏิเสธ และให้การว่าได้รับการชักชวนจากลูกชาย ซึ่งเป็นสาวประเภทสองมาเที่ยวชายแดน อ.แม่สาย เพื่อซื้อสินค้าแบรนด์เนมราคาถูก แต่ไม่รู้ว่าลูกชายจะมาขนยาบ้า

รายสุดท้ายตำรวจ สภ.แม่สาย ยังจับกุม นายประสิทธิ์ เจ้าสม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 ม.3 ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และ นางพิมณิภัทร กุดดา อายุ 33 ปี อยู่บ้านลเขที่ 73 ม.13 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย พร้อมยาบ้า 970 เม็ด หลังจับกุมได้ที่ซอย 9 ข้างห้างโลตัสแม่สาย โดยพบยาบ้าใต้เบาะนั่งซ้ายในรถกระบะทะเบียน บย-3489 เชียงราย ที่ทั้งขับมา

โดยนายประสิทธิ์ สารภาพว่า ได้รับจ้าง นายประวิทย์ บุริยจันทร์ ในราคา 30,000 บาท ให้รับยาบ้าจาก อ.แม่สาย ไป จ.อุดรธานี จะได้ค่าจ้าง 30,000 บาท โดยรู้จักกันเมื่อสมัยต้องคดีอาญาในเรือนจำเดียวกันมาก่อน

ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ซึ่งคลุกคลีกับปัญหาในพื้นที่ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายทุนยาบ้าจะมีการว่าจ้างประชาชนให้ขนยาบ้า มีคนกลางเป็นคนประสาน โดยมากอาจเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำ เพราะในเรือนจำ มีผู้ต้องโทษ ทั้งผู้ค้ารายย่อยและรายใหญ่ จากนั้นประสานงานทางโทรศัพท์ ทำให้ตัวการใหญ่ยังลอยนวลเพราะไม่มีหลักฐานสาวถึง ผู้ขนก็ไม่รู้จักนายทุน ปัญหาขณะนี้ถือว่ารุนแรง