เชียงราย - ทหารกองกำลังผาเมือง ปะทะเดือดริมชายแดนเชียงราย สกัดกั้นกองคาราวานคุ้มกันยานรก เด็ดหัว 2 มูเซอดำ ยึดอาวุธปืนสงครามพร้อมยาบ้า 8 หมื่นเม็ด เผยเป็นกลุ่มเดียวที่แทงทหารม้า ได้รับบาดเจ็บสาหัส
เหตุปะทะเดือดเด็ดหัวกองกำลังยาบ้าครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (13 ก.ย.) พ.อ.ฉลองชัย ชัยยะคำ ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง จ.เชียงราย สั่งการให้กองร้อยทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ที่มี ร.อ.รุ่งรุจน์ มีแลบ ผบ.หมวดลาดตระเวน (มลว.) กองร้อยทหารม้าที่ 3 เป็นหัวหน้า นำชุดปฏิบัติการ พร้อมอาวุธครบมือ ออกลาดตระเวนซุ่มโจมตีสกัดกั้นตามเส้นทางลำเลียง บนยอดดอยรอยตะเข็บชายแดนไทย-พม่า บ้านผาฮี้ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธ คุ้มกันคาราวานลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านเข้ามาบริเวณช่องทางดังกล่าว
ขณะลาดตระเวนมาจนถึงสันเขาใกล้พื้นที่ดอยตุง ทางแยกลงวัดศาลาเชิงดอยห้วยไคร้-ศูนย์หญ้าแฝก ลึกจากแนวชายแดนเข้ามา 1 กิโลเมตร ชุดลาดตระเวนได้พบกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 4-5 คน อาวุธครบมือ เดินเรียงแถวฝ่าเงามืดเป็นเงาตะคุ่มดำ จึงสั่งโอบล้อม ก่อนส่งสัญญาณขอตรวจค้น แต่กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธสงคราม ยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหาร จนเกิดการปะทะกันขึ้นเสียงดังสนั่นป่า กระสุนแผดรัวออกจากปลายกระบอกทั้งสองฝ่าย ส่งประกายไฟแลบ
กลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ได้สู้พรางถอยพรางขึ้นไปบนเนิน เตรียมวกหน้าออกเส้นทางชายแดน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร รัวยิงโต้ตอบกลับไปเป็นระยะ ประมาณ 15 นาที เสียงปืนทั้ง 2 ฝ่ายเงียบสงบลง จึงเข้าบล็อกพื้นที่เอาไว้ พร้อมรอจนรุ่งเช้าจึงเข้าทำการเคลียร์พื้นที่ พบคนร้ายถูกกระสุนปืนทหาร นอนเสียชีวิต 2 ศพ ศพแรกชื่อ นายอาฮ่อง เบเซกู่ อายุ 30 ปี ชาวเขาเผ่ามูเซอดำ อยู่บ้านเลขที่ 396 ม.3 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย สวมเสื้อลายพรางแบบเดินป่า นุ่งกางเกงยีนส์ ข้างศพพบอาวุธปืน AK.47 ตกอยู่ 1 กระบอก ส่วนศพที่ 2 ชื่อนายอาชา เพอเบียกู่ อายุ 41 ปี ชนเผ่ามูเซอดำ อยู่บ้านเลขที่ 394 ม.3 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย สวมเสื้อและกางเกงสีดำแบบเดินป่า ข้างศพพบกระเป๋าเป้ บรรจุยาบ้า จำนวน 80,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
ด้าน ร.อ.รุ่งรุจน์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ กล่าวว่า กองกำลังกลุ่มนี้เป็นกลุ่มชาวเขาเผ่ามูเซอดำรับจ้างคุ้มกันยาเสพติดให้กลุ่มว้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาส่งให้นายทุนในเขตแดนประเทศไทย โดยมีการล่วงล้ำเข้ามาถึง 1 กิโลเมตร และมีการติดอาวุธเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบ คาดว่า กลุ่มคนร้ายจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยต่อสู้กับชุดลาดตระเวนร้อย มลว.ที่ 3 จนทำให้ทหารชุดปฏิบัติการถูกแทงสาหัส 2 นายเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งจะได้ทำการลาดตระเวนเพื่อสกัดกั้นคนร้าย ที่ตามการข่าวพบว่าจะมีการเร่งลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาอีกในระยะนี้
เหตุปะทะเดือดเด็ดหัวกองกำลังยาบ้าครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.30 น.วันนี้ (13 ก.ย.) พ.อ.ฉลองชัย ชัยยะคำ ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง จ.เชียงราย สั่งการให้กองร้อยทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ที่มี ร.อ.รุ่งรุจน์ มีแลบ ผบ.หมวดลาดตระเวน (มลว.) กองร้อยทหารม้าที่ 3 เป็นหัวหน้า นำชุดปฏิบัติการ พร้อมอาวุธครบมือ ออกลาดตระเวนซุ่มโจมตีสกัดกั้นตามเส้นทางลำเลียง บนยอดดอยรอยตะเข็บชายแดนไทย-พม่า บ้านผาฮี้ ต.โป่งงาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธ คุ้มกันคาราวานลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่จากประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านเข้ามาบริเวณช่องทางดังกล่าว
ขณะลาดตระเวนมาจนถึงสันเขาใกล้พื้นที่ดอยตุง ทางแยกลงวัดศาลาเชิงดอยห้วยไคร้-ศูนย์หญ้าแฝก ลึกจากแนวชายแดนเข้ามา 1 กิโลเมตร ชุดลาดตระเวนได้พบกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 4-5 คน อาวุธครบมือ เดินเรียงแถวฝ่าเงามืดเป็นเงาตะคุ่มดำ จึงสั่งโอบล้อม ก่อนส่งสัญญาณขอตรวจค้น แต่กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธสงคราม ยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหาร จนเกิดการปะทะกันขึ้นเสียงดังสนั่นป่า กระสุนแผดรัวออกจากปลายกระบอกทั้งสองฝ่าย ส่งประกายไฟแลบ
กลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ได้สู้พรางถอยพรางขึ้นไปบนเนิน เตรียมวกหน้าออกเส้นทางชายแดน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร รัวยิงโต้ตอบกลับไปเป็นระยะ ประมาณ 15 นาที เสียงปืนทั้ง 2 ฝ่ายเงียบสงบลง จึงเข้าบล็อกพื้นที่เอาไว้ พร้อมรอจนรุ่งเช้าจึงเข้าทำการเคลียร์พื้นที่ พบคนร้ายถูกกระสุนปืนทหาร นอนเสียชีวิต 2 ศพ ศพแรกชื่อ นายอาฮ่อง เบเซกู่ อายุ 30 ปี ชาวเขาเผ่ามูเซอดำ อยู่บ้านเลขที่ 396 ม.3 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย สวมเสื้อลายพรางแบบเดินป่า นุ่งกางเกงยีนส์ ข้างศพพบอาวุธปืน AK.47 ตกอยู่ 1 กระบอก ส่วนศพที่ 2 ชื่อนายอาชา เพอเบียกู่ อายุ 41 ปี ชนเผ่ามูเซอดำ อยู่บ้านเลขที่ 394 ม.3 ต.แม่ไร่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย สวมเสื้อและกางเกงสีดำแบบเดินป่า ข้างศพพบกระเป๋าเป้ บรรจุยาบ้า จำนวน 80,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
ด้าน ร.อ.รุ่งรุจน์ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ กล่าวว่า กองกำลังกลุ่มนี้เป็นกลุ่มชาวเขาเผ่ามูเซอดำรับจ้างคุ้มกันยาเสพติดให้กลุ่มว้าจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาส่งให้นายทุนในเขตแดนประเทศไทย โดยมีการล่วงล้ำเข้ามาถึง 1 กิโลเมตร และมีการติดอาวุธเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบ คาดว่า กลุ่มคนร้ายจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่เคยต่อสู้กับชุดลาดตระเวนร้อย มลว.ที่ 3 จนทำให้ทหารชุดปฏิบัติการถูกแทงสาหัส 2 นายเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งจะได้ทำการลาดตระเวนเพื่อสกัดกั้นคนร้าย ที่ตามการข่าวพบว่าจะมีการเร่งลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากเข้ามาอีกในระยะนี้