ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฝูงชนนับหมื่นจาก 7 จังหวัดภาคตะวันออก เริ่มทยอยเข้ากรุงมุ่งสู่เวทีชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผนึกใจผนึกพลังยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ 5 ผู้กล้าแกนนำพันธมิตรฯบ้างแล้ว เพื่อร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของการชุมนุมขับไล่รัฐบาล "สมัครชั่ว!" ตามเสียงเป่านกหวีด
วันนี้ (30 กค.51) ได้มีประชาชนผู้รักชาติพันธมิตรฯจากจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เริ่มทยอยกันเดินทางเข้ากรุงกันบ้างแล้วและหลายคนจะปักหลักรอพันธมิตรกลุ่มใหญ่แต่ละจังหวัดติดตามมาสมทบเย็นวันที่ 31 ก.ค.โดยมีเส้นตายก่อนเวลา 12.00น.ของวันที่ 1 ส.ค.51
ประชาชนผู้รักชาติพันธมิตรฯจังหวัดต่างๆ เหล่านี้ ล้วนพากันซึมซับ รับรู้เรื่องการเมือง รวมถึงพฤติกรรมของนักการเมืองชั่วร้ายขายชาติ-ทาสทักษิณกันมากขึ้น ซึ่งก็มาจากเพราะผู้นำกลุ่มพันธมิตรฯแต่ละกลุ่ม แต่ละจังหวัดภาคตะวันออก ต่างผนึกกำลัง ผนึกใจกันอย่างเหนียวแน่นเป็นปึกแผ่น
ส่วนที่เป็นกลุ่มย่อย ก็จัดกิจกรรมติดตั้งจานดาวเทียม ASTV และตั้งโปรเจ็คเตอร์ถ่ายทอดสดฟังคำปราศรัย 5 แกนนำพันธมิตรฯจากเวทีพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานผ่านโทรทัศน์ดาวเทียม ASTV แล้วก็พากันออกจาบ้านมาร่วมกันรับฟัง
ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯที่มีแกนนำหลัก มีความพร้อมทุกด้านแต่ละจังหวัด ก็ร่วมกันจัดกิจกรรม ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ เชิญ 5 แกนนำพันธมิตรฯหรือบรรดาผู้มีชื่อเสียงในการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯส่วนกลางเดินทางมาปราศรัย
ล่าสุดมีการจัดปราศรัยที่ จ.ระยอง หลังจากที่จันทบุรี ชลบุรี และสระแก้ว ได้จัดไปแล้ว ซึ่งแต่ละจังหวัดมีประชาชนมาชุมนุมฟังการปราศรัยจำนวนเรือนพันเรือนหมื่น บางจังหวัดเช่นที่ จ.ชลบุรี มีมากกว่าห้าหมื่นคน ทำให้ประชาชนแต่ละจังหวัดต่างตื่นตัวต่างตระหนักถึงภัยร้ายขายชาติ อันมาจากการกระทำของนักการเมืองชั่ว จึงพากันเริ่มทยอยเดินทางเข้ากรุงมุ่งสู่สะพานมัฆวานรังสรรค์บ้างแล้ว
ส่วนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนใหญ่จะเริ่มเดินทางกันเป็นหมู่คณะช่วงตอนเย็น 31 ก.ค.ไปจนถึงช่วงเช้า 1 ส.ค.51
แต่ที่สำคัญมากก็คือประชาชนที่พากันเดินทางเข้ากรุงมุ่งสะพานมัฆวานฯครั้งนี้มีทั้งนักธุรกิจ ข้าราชการ ภรรยาของทหาร ภรรยาตำรวจ ฝ่ายปกครอง แม่ค้าพ่อค้า นายแพทย์ พยาบาล พนักงานตามธนาคารต่าง ๆ ชาวไร่ ชาวสวน พนักงานรัฐวิสาหกิจต่างๆพนักงานตามย่านนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งบรรดาผู้คนที่ทำงานอยู่ในองค์กรของรัฐฯเช่น อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) อบจ. (องค์กรบริหารส่วนจังหวัด) ทำให้ผู้ที่จะเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ครั้งสำคัญ 1 ส.ค.นี้ มีความหลากหลายมากขึ้น
แหละนี่คือเสียงของประชาชนพันธมิตรฯกลุ่มต่างๆ ที่มีความคิดต่อนักการเมืองรัฐบาลชั่วหุ่นเชิดทักษิณ...
เรา...ต้องการขับไล่รัฐบาล “สมัครชั่ว !” ทาสทักษิณ เจ้าของคำพูด
“...ให้คนของผมลุกขึ้นมาฆ่าบ้าง” ซึ่งส่งผลให้ที่ จ.อุดรธานี นายขวัญชัย สาระคำ หรือนายขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งให้เป็นข้าราชการการเมืองมีตำแหน่งในสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายเฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย และน้องชาย ส.ส.พรรคพลังประชาชน นำกลุ่มคนรักอุดรออกมาไล่เข่นฆ่าประชาชนพันธมิตรฯ ใช้ขวานจามศีรษะใช้ไม้พลองตีได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก
เรา...ไม่ยอมต่อการกระทำเช่นนี้ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป
เรา..ต้องการขับไล่รัฐบาลสมัครชั่วให้ลาออกให้จงได้
อีกทั้งขณะนี้นายสมัครชั่ว? กำลังดำเนินการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ และพรรคพวกของตัวเองให้จงได้
นี่ก็ย่างเข้า 6 เดือนแล้ว ไม่ได้ทำอะไรให้กับประชาชน ประเทศชาติ เป็นชิ้นเป็นอัน ปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาข้าวยากหมากแพงและราคาน้ำมันแพงสุดๆ ซึ่งเรา..สามารถกล่าวได้ว่าประชาชนเกิดความท้อแท้ ทั้งพฤติกรรมของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเฉลิม อยู่บำรุง และ ส.ส.พรรคพลังประชาชน อีกส่วนหนึ่ง ด้วยพฤติกรรมที่ผ่านมาดูถูกดูแคลนประชาชนโดยตลอด พูดอะไรคำสองคำ ก็อวดตัวว่ามาจากการเลือกตั้ง
เรา..พวกเราจะอยู่ร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ก.ค.เป็นต้นไปจนรุ่งเช้า 1 ส.ค.51 รอฟังเสียงเป่านกหวีดจาก 5 แกนนำพันธมิตรฯโดยเคร่งครัด เอาอย่างไรก็อย่างนั้น
เรา..ต่างตระหนักถึงภัยและความหายนะที่จะมาทำร้าย ประเทศชาติ โดยการกระทำของบรรดานักการเมืองไดโนเสาร์เต่าล้านปี ซึ่งไม่เลิกพฤติกรรมเก่าๆ ทำอะไรจะนึกถึงแต่พรรคพวกของตัวเองบริษัทบริวารลูกเต้าของตัวเองเป็นสำคัญ
ใครจะไปคิดว่านายสมัคร จะเซ็นคำสั่งแต่งตั้งคนอย่างนายขวัญชัย ไพรพนา มามีตำแหน่งทางการเมือง กินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชนได้ ช่างเป็นเรื่องน่าละอายยิ่ง เรื่องเช่นนี้ สื่อมวลชนไทย-เทศต่างพากันเปิดโปง ถึงที่มาที่ไป เอาคำสั่งแต่งตั้งมาเปิดเผยต่อสาธารณชนให้ได้ทราบ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ หากเป็นนักการเมืองต่างประเทศ ถูกเปิดโปง กรณีเล่นพรรคเล่นพวกเช่นนี้ เขาแสดงสปิริต แสดงความรับผิดชอบลาออกไปแล้วและต้องขอโทษประชาชนด้วย
นายสมัคร เป็นถึงนายกรัฐมนตรี เป็นนักกฎหมาย แต่ทำไมถึงมีวุฒิภาวะต่ำเช่นนี้ ทำเป็นเฉยเมย ทำนิ่งเป็นทองไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วเรา..พวกเราประชาชนจะไปหวังพึ่งนักการเมืองหุ่นเชิดชั่วๆทาสทักษิณได้อย่างไร นี่เป็นจุดเดือดอีกจุดหนึ่ง ที่ทำให้ครั้งนี้จะมีประชาชนภาคตะวันออก ไปที่สะพานมัฆวานกันอย่างคนของรัฐบาลไม่คาดคิดทีเดียว.
นายมาณพ บุญทวงศ์ หัวหน้ากลุ่มท้ายบ้านสะพาน 3 ชลบุรี เผยว่า เราได้ไปร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติกับกลุ่มพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพมหานครทุกวันและเพิ่งกลับมาในช่วงเช้าของวันนี้ โดยทางสมาชิกจะได้ร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการแผงพระเครื่องรวมจำนวน 200-250 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์โดยตัดสินใจว่าจะเดินทางไปร่วมชุมนุมเพื่อรอสัญญาณการเป่านกหวีดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ
ทั้งนี้ ทางสมาชิกและเครือข่ายได้เดินทางไปร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยจะเฉลี่ยค่าใช้จ่ายการเดินทางร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน รวมถึงค่าอาหารการกิน โดยไม่มีกลุ่มนายทุนมาหนุนหลังแต่อย่างใด ทุกอย่างกระทำไปด้วยความบริสุทธิ์ในการร่วมแสดงออกถึงพลังประชาชนผู้รักชาติอย่างแท้จริง
และในช่วงค่ำของวันนี้ จะมีการประชุมร่วมกันกับกลุ่มพันธมตรฯเมืองชลเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตัวในการชุมนุมว่า ต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับฟังสัญญาณเป่านกหวีด รวมถึงเตรียมความพร้อมเรื่องการเดินทางด้านต่างๆ อย่างรัดกุม โดยจะเดินทางไปสมทบพี่น้องผู้รักชาติที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ในเช้าวันที่ 1 ส.ค.นี้และคาดว่าจะไปถึงที่ชุมนุมก่อนเวลา 10.00 น.ของวันเดียวกัน
ด้านนายชินณภัทร แสงรังสี แกนนำพันธมิตรฯชลบุรี กล่าวถึงการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่เมืองชลบุรีว่า ได้เตรียมความพร้อมแล้วที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 31 ก.ค.ถึงวันที่ 1 ส.ค.นี้ เนื่องจากทุกคนทราบสถานการณ์ดี โดยขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯได้วางแนวทางในการเดินทางไว้หลายรูปแบบ เช่น เดินทางด้วยรถตู้ เพื่อความสะดวกสบาย ,นำรถยนต์ส่วนตัวไปกันเอง ประมาณ 3-4 คน เพื่อไม่ต้องกังวลต่อปัญหาการเดินทางไป-กลับ
ขณะนี้พันธมิตรฯกลุ่มต่างๆ เตรียมความพร้อมที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ เพราะถือว่าเป็นการเป่านกหวีดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯแล้ว โดยคาดว่าจะมีพันธมิตรฯแยกย้ายกันเดินทางเข้าไปในเย็นวันนี้ และไปปักหลักต่อในวันที่ 31 ก.ค.จนถึงวันที่ 1 ส.ค.ซึ่งมีหลายแนวทางที่ไปร่วมชุมนุม
นายณัฐวุฒิ เชษฐ์วงศ์ แกนนำพันธมิตรฯปราจีนบุรี กล่าวว่า ในวันนี้ที่ จ.ปราจีนบุรี จะเปิดจอโปรเจกเตอร์ถ่านทอด ASTV ให้กลุ่มพันธมิตรฯได้รับชมเพื่อเป็นการเช็คยอดพันธมิตรฯเพื่อจัดรถให้เพียงพอกับผู้ที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 31 ก.ค.ถึงวันที่ 1 ส.ค.นี้
ขณะนี้ภายในกลุ่มพันธมิตรฯได้มีการพูดคุยและวิจารณ์กันว่า ทหารควรจะออกมาได้แล้ว โดยเฉพาะในวันที่รัฐบาลร่วมประชุม ครม.ทางทหารก็เข้าไปควบคุมคณะรัฐมนตรีชุดดังกล่าวและนำตัวไปควบคุมดูแลอย่างดีในกองทัพ พร้อมกันนั้นก็ต้องยึดอุปกรณ์สื่อสาร(โทรศัพท์) เพื่อไม่ให้ทำการติดต่อกับส่วนใดๆ ปัญหาต่างๆก็จะยุติโดยสงบ เพราะไม่ต้องใช้อาวุธแต่อย่างไร เพียงแต่เข้าไปควบคุมตัวคณะรัฐบาลไว้เท่านั้น
ด้านกลุ่มพันธมิตรฯพัทยา กล่าวว่า ทางพันธมิตรฯเมืองพัทยา-นาเกลือ ได้เตรียมความพร้อมไว้นานแล้ว และได้ประสานกันอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ถือว่าเป็นการเป่านกหวีดระดมพลครั้งยิ่งใหญ่ คาดว่าทุกๆกลุ่มคงมุ่งไปยังสะพานมัฆวานในเย็นวันนี้และอยู่ต่อในวันที่ 31 ก.ค.ถึง 1 ส.ค.
ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่จะเดินทางในวันนี้ (30 ก.ค.) แล้วไปปักหลักยาว ส่วนอีกกลุ่มจะเดินทางในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) แล้วดูสถานการณ์และอาจอยู่ต่อไปถึงวันที่ 1-2-3 ส.ค. ซึ่งแล้วแต่สถานการณ์เช่นกัน
นายมนัด อ่ำเอี่ยมศรี สมาชิกพันธมิตรฯระยอง เผยว่า ในการนัดส่งสัญญาณเป่านกหวัดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯที่สะพามัฆวานรังสรรค์ ในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.51 นี้ในฐานะคนทำงานภาคประชาชนจะเข้าร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ทางการเมืองหน้าสำคัญของประเทศไทยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เป้าหมายเพื่อต้องการคัดค้านรัฐบาล "สมัครจมูกหมู" ที่พยายามผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2550 นี้เอื้อประโยชน์กับประชาชนมากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลชุดนี้ทำทุกวิถีทางที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจะให้กลุ่มของตัวเองพ้นความผิดจากความฉ้อฉลต่างๆ นานาที่กำลังเผชิญอยู่ ประชาชนผู้รักชาติทุกภาคส่วนจึงจำเป็นต้องแสดงตัวคัดค้าน
ที่ผ่านมาการบริหารประเทศของรัฐบาลทักษิณ ก็สร้างความเจ็บช้ำให้ประชาชนและประเทศชาติมามากพออยู่แล้ว จึงทำให้ไม่ชอบระบอบทักษิณอยู่เป็นทุนเดิม แต่เมื่อมีการพยายามคัดค้านการใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 ในฐานะกลุ่มคนที่ทำงานการเมืองภาคประชาชน รวมถึงนักต่อสู้เพื่อประชาชนจะไม่ยอมให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีกเป็นแน่ ซึ่งขณะนี้สมาชิกในกลุ่มได้ทยอยเข้าร่วมสมทบรอฟังการให้สัญญาณการเป่านกหวีดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯไปบางส่วนแล้ว
พันธมิตรฯบางพระ อำเภอศรีราชา เผยว่า พวกเราเตรียมพร้อมที่จะเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ซึ่งปกติพันธมิตรฯบางพระได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ มาโดยตลอดโดยติดตามจากทีวีทางช่อง ASTV และรับทราบสถานการณ์มาโดยตลอด พร้อมที่ผ่านมาก็ได้มีการรวมตัวกันไปร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ อยู่เป็นประจำอยู่ หากมีเสียง เป่านกหวีดเมื่อไหร่ ก็สามารถที่จะเดินทางเข้าร่วมได้ทันที
นายไพฑูรย์ นามเมืองปักษ์ กลุ่มพันธมิตรฯตาพระยา จ.สระแก้ว เผยถึงการที่แกนนำพันธมิตรฯประกาศเตรียมเป่านกหวีดในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ทางกลุ่มพันธมิตรฯตาพระยา พร้อมที่จะร่วมเดินทางเข้าไปชุมนุมด้วย
โดยมีความเห็นว่า การเป่านกหวีดประกาศชัยชนะในวันที่ 1 ส.ค.ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากการชุมนุมยืดเยื้อไปนานกว่านี้ ก็จะยิ่งเข้าทางของทางฝั่งรัฐบาล ที่ต้องการให้พลังพันธมิตรฯ เหนื่อยล้ากันไปเอง และจะทำให้รัฐบาลแก้เกมสร้างสถานการณ์ความรุนแรง โดยใช้กลุ่ม นปก. เข้าปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งจะทำให้เกิดขัดแย้งอย่างรุนแรงเกิดขึ้นก็ได้
โดยส่วนตัวอยากให้นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช พร้อมลูกทีมถอนตัวออกมาจากพรรคร่วมรัฐบาล ถึงแม้อาจจะช้าเกินไปแต่ก็ยังเป็นโอกาสที่ดี เพราะตอนนี้ก็ทราบกันดีอยู่ว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่ไปก็ไม่รอดแน่นอน ถ้าออกมาตอนนี้จะทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพ ขาดความมั่นคง และจะทำให้รัฐบาลชุดนี้ล้มลงเร็วยิ่งขึ้น อาจทำให้ประชาชนชาวสระแก้วยังให้ความไว้วางใจ นายเสนาะ พร้อมลูกทีมต่อไป แต่ถ้าทู่ซี้อยู่กับรัฐบาลต่อไป เมื่อถึงคราวรัฐบาลล้มแล้วกลุ่มพันธมิตรฯชนะแล้วล่ะก็ ประชาชนชาวสระแก้วจะไม่ไว้วางใจท่านอีกต่อไป
ซึ่งในวันที่ 1 ส.ค.นี้ทางตนและพรรคพวกจะร่วมเดินทางเข้าร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ แน่นอน
วันนี้ (30 กค.51) ได้มีประชาชนผู้รักชาติพันธมิตรฯจากจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด เริ่มทยอยกันเดินทางเข้ากรุงกันบ้างแล้วและหลายคนจะปักหลักรอพันธมิตรกลุ่มใหญ่แต่ละจังหวัดติดตามมาสมทบเย็นวันที่ 31 ก.ค.โดยมีเส้นตายก่อนเวลา 12.00น.ของวันที่ 1 ส.ค.51
ประชาชนผู้รักชาติพันธมิตรฯจังหวัดต่างๆ เหล่านี้ ล้วนพากันซึมซับ รับรู้เรื่องการเมือง รวมถึงพฤติกรรมของนักการเมืองชั่วร้ายขายชาติ-ทาสทักษิณกันมากขึ้น ซึ่งก็มาจากเพราะผู้นำกลุ่มพันธมิตรฯแต่ละกลุ่ม แต่ละจังหวัดภาคตะวันออก ต่างผนึกกำลัง ผนึกใจกันอย่างเหนียวแน่นเป็นปึกแผ่น
ส่วนที่เป็นกลุ่มย่อย ก็จัดกิจกรรมติดตั้งจานดาวเทียม ASTV และตั้งโปรเจ็คเตอร์ถ่ายทอดสดฟังคำปราศรัย 5 แกนนำพันธมิตรฯจากเวทีพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานผ่านโทรทัศน์ดาวเทียม ASTV แล้วก็พากันออกจาบ้านมาร่วมกันรับฟัง
ส่วนกลุ่มพันธมิตรฯที่มีแกนนำหลัก มีความพร้อมทุกด้านแต่ละจังหวัด ก็ร่วมกันจัดกิจกรรม ตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ เชิญ 5 แกนนำพันธมิตรฯหรือบรรดาผู้มีชื่อเสียงในการปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯส่วนกลางเดินทางมาปราศรัย
ล่าสุดมีการจัดปราศรัยที่ จ.ระยอง หลังจากที่จันทบุรี ชลบุรี และสระแก้ว ได้จัดไปแล้ว ซึ่งแต่ละจังหวัดมีประชาชนมาชุมนุมฟังการปราศรัยจำนวนเรือนพันเรือนหมื่น บางจังหวัดเช่นที่ จ.ชลบุรี มีมากกว่าห้าหมื่นคน ทำให้ประชาชนแต่ละจังหวัดต่างตื่นตัวต่างตระหนักถึงภัยร้ายขายชาติ อันมาจากการกระทำของนักการเมืองชั่ว จึงพากันเริ่มทยอยเดินทางเข้ากรุงมุ่งสู่สะพานมัฆวานรังสรรค์บ้างแล้ว
ส่วนอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนใหญ่จะเริ่มเดินทางกันเป็นหมู่คณะช่วงตอนเย็น 31 ก.ค.ไปจนถึงช่วงเช้า 1 ส.ค.51
แต่ที่สำคัญมากก็คือประชาชนที่พากันเดินทางเข้ากรุงมุ่งสะพานมัฆวานฯครั้งนี้มีทั้งนักธุรกิจ ข้าราชการ ภรรยาของทหาร ภรรยาตำรวจ ฝ่ายปกครอง แม่ค้าพ่อค้า นายแพทย์ พยาบาล พนักงานตามธนาคารต่าง ๆ ชาวไร่ ชาวสวน พนักงานรัฐวิสาหกิจต่างๆพนักงานตามย่านนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งบรรดาผู้คนที่ทำงานอยู่ในองค์กรของรัฐฯเช่น อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) อบจ. (องค์กรบริหารส่วนจังหวัด) ทำให้ผู้ที่จะเข้าไปร่วมชุมนุมใหญ่ครั้งสำคัญ 1 ส.ค.นี้ มีความหลากหลายมากขึ้น
แหละนี่คือเสียงของประชาชนพันธมิตรฯกลุ่มต่างๆ ที่มีความคิดต่อนักการเมืองรัฐบาลชั่วหุ่นเชิดทักษิณ...
เรา...ต้องการขับไล่รัฐบาล “สมัครชั่ว !” ทาสทักษิณ เจ้าของคำพูด
“...ให้คนของผมลุกขึ้นมาฆ่าบ้าง” ซึ่งส่งผลให้ที่ จ.อุดรธานี นายขวัญชัย สาระคำ หรือนายขวัญชัย ไพรพนา ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งให้เป็นข้าราชการการเมืองมีตำแหน่งในสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายเฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย และน้องชาย ส.ส.พรรคพลังประชาชน นำกลุ่มคนรักอุดรออกมาไล่เข่นฆ่าประชาชนพันธมิตรฯ ใช้ขวานจามศีรษะใช้ไม้พลองตีได้รับบาดเจ็บสาหัสจำนวนมาก
เรา...ไม่ยอมต่อการกระทำเช่นนี้ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป
เรา..ต้องการขับไล่รัฐบาลสมัครชั่วให้ลาออกให้จงได้
อีกทั้งขณะนี้นายสมัครชั่ว? กำลังดำเนินการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลืออดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ และพรรคพวกของตัวเองให้จงได้
นี่ก็ย่างเข้า 6 เดือนแล้ว ไม่ได้ทำอะไรให้กับประชาชน ประเทศชาติ เป็นชิ้นเป็นอัน ปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญกับปัญหาข้าวยากหมากแพงและราคาน้ำมันแพงสุดๆ ซึ่งเรา..สามารถกล่าวได้ว่าประชาชนเกิดความท้อแท้ ทั้งพฤติกรรมของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเฉลิม อยู่บำรุง และ ส.ส.พรรคพลังประชาชน อีกส่วนหนึ่ง ด้วยพฤติกรรมที่ผ่านมาดูถูกดูแคลนประชาชนโดยตลอด พูดอะไรคำสองคำ ก็อวดตัวว่ามาจากการเลือกตั้ง
เรา..พวกเราจะอยู่ร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ก.ค.เป็นต้นไปจนรุ่งเช้า 1 ส.ค.51 รอฟังเสียงเป่านกหวีดจาก 5 แกนนำพันธมิตรฯโดยเคร่งครัด เอาอย่างไรก็อย่างนั้น
เรา..ต่างตระหนักถึงภัยและความหายนะที่จะมาทำร้าย ประเทศชาติ โดยการกระทำของบรรดานักการเมืองไดโนเสาร์เต่าล้านปี ซึ่งไม่เลิกพฤติกรรมเก่าๆ ทำอะไรจะนึกถึงแต่พรรคพวกของตัวเองบริษัทบริวารลูกเต้าของตัวเองเป็นสำคัญ
ใครจะไปคิดว่านายสมัคร จะเซ็นคำสั่งแต่งตั้งคนอย่างนายขวัญชัย ไพรพนา มามีตำแหน่งทางการเมือง กินเงินเดือนจากภาษีอากรของประชาชนได้ ช่างเป็นเรื่องน่าละอายยิ่ง เรื่องเช่นนี้ สื่อมวลชนไทย-เทศต่างพากันเปิดโปง ถึงที่มาที่ไป เอาคำสั่งแต่งตั้งมาเปิดเผยต่อสาธารณชนให้ได้ทราบ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ หากเป็นนักการเมืองต่างประเทศ ถูกเปิดโปง กรณีเล่นพรรคเล่นพวกเช่นนี้ เขาแสดงสปิริต แสดงความรับผิดชอบลาออกไปแล้วและต้องขอโทษประชาชนด้วย
นายสมัคร เป็นถึงนายกรัฐมนตรี เป็นนักกฎหมาย แต่ทำไมถึงมีวุฒิภาวะต่ำเช่นนี้ ทำเป็นเฉยเมย ทำนิ่งเป็นทองไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วเรา..พวกเราประชาชนจะไปหวังพึ่งนักการเมืองหุ่นเชิดชั่วๆทาสทักษิณได้อย่างไร นี่เป็นจุดเดือดอีกจุดหนึ่ง ที่ทำให้ครั้งนี้จะมีประชาชนภาคตะวันออก ไปที่สะพานมัฆวานกันอย่างคนของรัฐบาลไม่คาดคิดทีเดียว.
นายมาณพ บุญทวงศ์ หัวหน้ากลุ่มท้ายบ้านสะพาน 3 ชลบุรี เผยว่า เราได้ไปร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติกับกลุ่มพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพมหานครทุกวันและเพิ่งกลับมาในช่วงเช้าของวันนี้ โดยทางสมาชิกจะได้ร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการแผงพระเครื่องรวมจำนวน 200-250 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายฉกรรจ์โดยตัดสินใจว่าจะเดินทางไปร่วมชุมนุมเพื่อรอสัญญาณการเป่านกหวีดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ
ทั้งนี้ ทางสมาชิกและเครือข่ายได้เดินทางไปร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยจะเฉลี่ยค่าใช้จ่ายการเดินทางร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน รวมถึงค่าอาหารการกิน โดยไม่มีกลุ่มนายทุนมาหนุนหลังแต่อย่างใด ทุกอย่างกระทำไปด้วยความบริสุทธิ์ในการร่วมแสดงออกถึงพลังประชาชนผู้รักชาติอย่างแท้จริง
และในช่วงค่ำของวันนี้ จะมีการประชุมร่วมกันกับกลุ่มพันธมตรฯเมืองชลเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตัวในการชุมนุมว่า ต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับฟังสัญญาณเป่านกหวีด รวมถึงเตรียมความพร้อมเรื่องการเดินทางด้านต่างๆ อย่างรัดกุม โดยจะเดินทางไปสมทบพี่น้องผู้รักชาติที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ในเช้าวันที่ 1 ส.ค.นี้และคาดว่าจะไปถึงที่ชุมนุมก่อนเวลา 10.00 น.ของวันเดียวกัน
ด้านนายชินณภัทร แสงรังสี แกนนำพันธมิตรฯชลบุรี กล่าวถึงการรวมตัวของกลุ่มพันธมิตรฯในพื้นที่เมืองชลบุรีว่า ได้เตรียมความพร้อมแล้วที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 31 ก.ค.ถึงวันที่ 1 ส.ค.นี้ เนื่องจากทุกคนทราบสถานการณ์ดี โดยขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯได้วางแนวทางในการเดินทางไว้หลายรูปแบบ เช่น เดินทางด้วยรถตู้ เพื่อความสะดวกสบาย ,นำรถยนต์ส่วนตัวไปกันเอง ประมาณ 3-4 คน เพื่อไม่ต้องกังวลต่อปัญหาการเดินทางไป-กลับ
ขณะนี้พันธมิตรฯกลุ่มต่างๆ เตรียมความพร้อมที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ เพราะถือว่าเป็นการเป่านกหวีดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯแล้ว โดยคาดว่าจะมีพันธมิตรฯแยกย้ายกันเดินทางเข้าไปในเย็นวันนี้ และไปปักหลักต่อในวันที่ 31 ก.ค.จนถึงวันที่ 1 ส.ค.ซึ่งมีหลายแนวทางที่ไปร่วมชุมนุม
นายณัฐวุฒิ เชษฐ์วงศ์ แกนนำพันธมิตรฯปราจีนบุรี กล่าวว่า ในวันนี้ที่ จ.ปราจีนบุรี จะเปิดจอโปรเจกเตอร์ถ่านทอด ASTV ให้กลุ่มพันธมิตรฯได้รับชมเพื่อเป็นการเช็คยอดพันธมิตรฯเพื่อจัดรถให้เพียงพอกับผู้ที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 31 ก.ค.ถึงวันที่ 1 ส.ค.นี้
ขณะนี้ภายในกลุ่มพันธมิตรฯได้มีการพูดคุยและวิจารณ์กันว่า ทหารควรจะออกมาได้แล้ว โดยเฉพาะในวันที่รัฐบาลร่วมประชุม ครม.ทางทหารก็เข้าไปควบคุมคณะรัฐมนตรีชุดดังกล่าวและนำตัวไปควบคุมดูแลอย่างดีในกองทัพ พร้อมกันนั้นก็ต้องยึดอุปกรณ์สื่อสาร(โทรศัพท์) เพื่อไม่ให้ทำการติดต่อกับส่วนใดๆ ปัญหาต่างๆก็จะยุติโดยสงบ เพราะไม่ต้องใช้อาวุธแต่อย่างไร เพียงแต่เข้าไปควบคุมตัวคณะรัฐบาลไว้เท่านั้น
ด้านกลุ่มพันธมิตรฯพัทยา กล่าวว่า ทางพันธมิตรฯเมืองพัทยา-นาเกลือ ได้เตรียมความพร้อมไว้นานแล้ว และได้ประสานกันอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ถือว่าเป็นการเป่านกหวีดระดมพลครั้งยิ่งใหญ่ คาดว่าทุกๆกลุ่มคงมุ่งไปยังสะพานมัฆวานในเย็นวันนี้และอยู่ต่อในวันที่ 31 ก.ค.ถึง 1 ส.ค.
ขณะนี้กลุ่มพันธมิตรฯมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่จะเดินทางในวันนี้ (30 ก.ค.) แล้วไปปักหลักยาว ส่วนอีกกลุ่มจะเดินทางในวันพรุ่งนี้ (31 ก.ค.) แล้วดูสถานการณ์และอาจอยู่ต่อไปถึงวันที่ 1-2-3 ส.ค. ซึ่งแล้วแต่สถานการณ์เช่นกัน
นายมนัด อ่ำเอี่ยมศรี สมาชิกพันธมิตรฯระยอง เผยว่า ในการนัดส่งสัญญาณเป่านกหวัดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯที่สะพามัฆวานรังสรรค์ ในการชุมนุมขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 1 ส.ค.51 นี้ในฐานะคนทำงานภาคประชาชนจะเข้าร่วมบันทึกประวัติศาสตร์ทางการเมืองหน้าสำคัญของประเทศไทยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เป้าหมายเพื่อต้องการคัดค้านรัฐบาล "สมัครจมูกหมู" ที่พยายามผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะเชื่อว่ารัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2550 นี้เอื้อประโยชน์กับประชาชนมากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลชุดนี้ทำทุกวิถีทางที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจะให้กลุ่มของตัวเองพ้นความผิดจากความฉ้อฉลต่างๆ นานาที่กำลังเผชิญอยู่ ประชาชนผู้รักชาติทุกภาคส่วนจึงจำเป็นต้องแสดงตัวคัดค้าน
ที่ผ่านมาการบริหารประเทศของรัฐบาลทักษิณ ก็สร้างความเจ็บช้ำให้ประชาชนและประเทศชาติมามากพออยู่แล้ว จึงทำให้ไม่ชอบระบอบทักษิณอยู่เป็นทุนเดิม แต่เมื่อมีการพยายามคัดค้านการใช้รัฐธรรมนูญปี 2550 ในฐานะกลุ่มคนที่ทำงานการเมืองภาคประชาชน รวมถึงนักต่อสู้เพื่อประชาชนจะไม่ยอมให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอีกเป็นแน่ ซึ่งขณะนี้สมาชิกในกลุ่มได้ทยอยเข้าร่วมสมทบรอฟังการให้สัญญาณการเป่านกหวีดของ 5 แกนนำพันธมิตรฯไปบางส่วนแล้ว
พันธมิตรฯบางพระ อำเภอศรีราชา เผยว่า พวกเราเตรียมพร้อมที่จะเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ซึ่งปกติพันธมิตรฯบางพระได้เฝ้าติดตามสถานการณ์ มาโดยตลอดโดยติดตามจากทีวีทางช่อง ASTV และรับทราบสถานการณ์มาโดยตลอด พร้อมที่ผ่านมาก็ได้มีการรวมตัวกันไปร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ อยู่เป็นประจำอยู่ หากมีเสียง เป่านกหวีดเมื่อไหร่ ก็สามารถที่จะเดินทางเข้าร่วมได้ทันที
นายไพฑูรย์ นามเมืองปักษ์ กลุ่มพันธมิตรฯตาพระยา จ.สระแก้ว เผยถึงการที่แกนนำพันธมิตรฯประกาศเตรียมเป่านกหวีดในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ทางกลุ่มพันธมิตรฯตาพระยา พร้อมที่จะร่วมเดินทางเข้าไปชุมนุมด้วย
โดยมีความเห็นว่า การเป่านกหวีดประกาศชัยชนะในวันที่ 1 ส.ค.ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากการชุมนุมยืดเยื้อไปนานกว่านี้ ก็จะยิ่งเข้าทางของทางฝั่งรัฐบาล ที่ต้องการให้พลังพันธมิตรฯ เหนื่อยล้ากันไปเอง และจะทำให้รัฐบาลแก้เกมสร้างสถานการณ์ความรุนแรง โดยใช้กลุ่ม นปก. เข้าปะทะกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งจะทำให้เกิดขัดแย้งอย่างรุนแรงเกิดขึ้นก็ได้
โดยส่วนตัวอยากให้นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช พร้อมลูกทีมถอนตัวออกมาจากพรรคร่วมรัฐบาล ถึงแม้อาจจะช้าเกินไปแต่ก็ยังเป็นโอกาสที่ดี เพราะตอนนี้ก็ทราบกันดีอยู่ว่ารัฐบาลชุดนี้อยู่ไปก็ไม่รอดแน่นอน ถ้าออกมาตอนนี้จะทำให้รัฐบาลขาดเสถียรภาพ ขาดความมั่นคง และจะทำให้รัฐบาลชุดนี้ล้มลงเร็วยิ่งขึ้น อาจทำให้ประชาชนชาวสระแก้วยังให้ความไว้วางใจ นายเสนาะ พร้อมลูกทีมต่อไป แต่ถ้าทู่ซี้อยู่กับรัฐบาลต่อไป เมื่อถึงคราวรัฐบาลล้มแล้วกลุ่มพันธมิตรฯชนะแล้วล่ะก็ ประชาชนชาวสระแก้วจะไม่ไว้วางใจท่านอีกต่อไป
ซึ่งในวันที่ 1 ส.ค.นี้ทางตนและพรรคพวกจะร่วมเดินทางเข้าร่วมกับแกนนำพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ แน่นอน