ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่บ่นอุบท่องเที่ยวครึ่งปีแรกทรุด นักท่องเที่ยวต่างชาติวูบ 14% อัตราการเข้าพักโรงแรมโล่งเหลือเพียง 20-30% เท่านั้น แถมการจัดประชุมสัมมนาของหน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนหดหาย ชี้สาเหตุหลักน้ำมันแพงส่งผลธุรกิจภาคบริการมึนไปตามๆ กัน หวังครึ่งปีหลังสถานการณ์ฟื้นตัว ขณะเดียวกันเผยพร้อมหนุน “อะควาเรียม” สวนสัตว์เชียงใหม่ ที่จะเปิดเดือน พ.ย.นี้ เป็นจุดขายใหม่ทางการท่องเที่ยว
นายทรงวิทย์ อิทธิพัฒนากุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ เปิดเผยสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2551 ในภาพรวมถือว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีนัก เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านๆ มา โดยถึงแม้ในช่วงไตรมาสแรกของปีการท่องเที่ยวจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีก็ตาม แต่ตลอดทั้งไตรมาสที่ 2 ของปี ถือว่าค่อนข้างแย่ เห็นได้จากอัตราการเข้าพักโรงแรมที่ตกต่ำลงอย่างชัดเจน และการที่สายการบินบางแห่ง ต้องลดจำนวนหรือยกเลิกเที่ยวบินมาเชียงใหม่
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้สถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นเช่นนี้ เนื่องจากช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่พอดี ซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศมาท่องเที่ยวลดลง ประกอบกับมีปัจจัยซ้ำเติม จากภาวะราคาน้ำมันที่สูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ยิ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก ไปกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอีก โดยในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแต่เพียงอย่างเดียวมีจำนวนลดลงไปประมาณ 10-14% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ระบุด้วยว่า ไม่ใช่แต่เพียงนักท่องเที่ยวทั่วไปเท่านั้นที่ลดลง ยังพบว่าการจัดประชุมสัมมนาของหน่วยงานราชการและเอกชนต่างๆ ก็ลดจำนวนลงไปอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเปรียบเทียบกับที่ผ่านมา ทั้งที่ตามปกติจะมีการเข้ามาใช้บริการมากกว่านี้แม้จะเป็นช่วงนอกฤดูการท่องเที่ยวก็ตาม จึงยิ่งส่งผลทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวและภาคบริการของเชียงใหม่ซบเซามากขึ้นไปกว่าเดิมอีก
“ต้องยอมรับว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ สถานการณ์การท่องเที่ยวของเชียงใหม่ไม่ดีเอาเท่าไร แม้ช่วง 3-4 เดือนแรกจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอสมควร แต่หลังจากเดือนเมษายนเป็นต้นมาสถานการณ์ก็แย่ลงอย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติลดลง แถมการประชุมสัมมนาที่เคยมีมาตลอดก็ลดการเข้ามาใช้บริการลงไปจากเดิมมาก ทั้งนี้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเดียวพบว่ามีการลดลงไปประมาณ 10-14 % จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่อัตราการจองห้องพักโรงแรม พบว่าลดลงไปเหลือเพียงประมาณ 20-30 % จากตามปกติที่จะอยู่ในอัตราประมาณ 40-50%” นายทรงวิทย์ กล่าว
ในส่วนของการกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ให้ดีขึ้น นายทรงวิทย์ กล่าวว่า จากการประชุมหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับภาคเอกชนของจังหวัดเชียงใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ซบเซาของจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการจัดทำข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อขอให้ช่วยผลักดันและสนับสนุนให้มีส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐมาจัดประชุมและสัมมนาในจังหวัดเชียงใหม่ให้มากขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับปากแล้ว โดยหากมีการสนับสนุนดังกล่าวจริง ก็น่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง ขณะเดียวกันมองว่ามาตรการช่วยลดราคาน้ำมันของรัฐบาล ยังน่าจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่เช่นกัน
ส่วนคาดการณ์ภาวการณ์ท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า น่าจะดีขึ้นมากในช่วงไตรมาสที่ 4 เพราะเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ซึ่งมีการจัดกิจกรรมทางการท่องเที่ยวต่างๆ มากมายที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว
ขณะที่ในช่วงไตรมาสที่ 3 คาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเป็นผลจากการทำการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในปีที่ผ่านๆ มา ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อภาวะการท่องเที่ยวในพื้นที่เชียงใหม่มากพอสมควร
นายทรงวิทย์ กล่าวถึง “อะควาเรียม” หรือสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ของสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่จะเปิดบริการในช่วงปลายปีนี้ว่า โดยส่วนตัวเห็นว่าน่าจะใช้เป็นจุดขายใหม่ทางการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ได้ ซึ่งจะช่วยกระตุ้น และสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้นักท่องเที่ยว สนใจอยากเดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่และสวนสัตว์เชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่ทั้งนี้จะต้องมีการวางแผนและทำการตลาดอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการทำตลาดล่วงหน้าในต่างประเทศ ซึ่งมีความสำคัญมาก และควรจะต้องดำเนินการได้แล้ว ซึ่งสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวฯพร้อมที่จะสนับสนุนในส่วนนี้
ด้านนายโสภณ ดำนุ้ย ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยความคืบหน้าการก่อสร้าง “อะควาเรียม” ของสวนสัตว์เชียงใหม่ว่า ขณะนี้เกือบจะเสร็จสมบูรณ์ และมีการจัดเตรียมความพร้อมในส่วนของพันธุ์สัตว์น้ำที่จะนำมาจัดแสดงแล้ว ล่าสุดได้มีการนำเข้าทรายจากทะเลแดงเข้ามาที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เพื่อจะใช้ปรับสภาพน้ำสำหรับที่จะใช้เลี้ยงพันธุ์สัตว์น้ำทะเลด้วย ทั้งนี้ยืนยันว่า “อะควาเรียม” จะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2551 อย่างแน่นอน
อนึ่ง รูปแบบของอะควาเรียม ตามเป้าหมายได้กำหนดไว้จะให้เป็นสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ที่มีการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ทั้งน้ำจืดและน้ำทะเลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะในด้านความหลากหลายของพันธุ์สัตว์น้ำ ซึ่งจะมีสัตว์น้ำกว่า 250 สายพันธุ์ กว่า 8,000 ตัว ภายในจะเป็นอุโมงค์ทางเดินใต้น้ำ ผ่านส่วนจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำจืด 70 เมตร และผ่านส่วนจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทะเลอีก 70 เมตร ใช้งบประมาณลงทุนรวมทั้งสิ้น 600 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในส่วนขององค์การสวนสัตว์ฯ 300 ล้านบาท และบริษัทเอกชนที่เข้ามาร่วมลงทุนอีก 300 ล้านบาท
