เชียงราย – องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเมืองพ่อขุนฯ เริ่มจัดโครงการใช้ควายทำนาแทนเครื่องจักร สู้วิกฤตน้ำมันแพง นายก อบต.แม่ข้าวต้ม จัดโครงการนำร่องก่อนขยายทั่วตำบลเต็มพื้นที่ 30 หมู่บ้าน
นายสันติ เถรนิยม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากภาวะน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างผลกระทบต่อวิถีเกษตรกร ต.แม่ข้าวต้ม ในฐานะพื้นที่ปลูกข้าวจุดใหญ่ของเชียงราย ทำให้เพิ่มภาระต้นทุน ในการนำเครื่องจักรกลมาหว่านดำนาปลูกข้าวอย่างมาก
อบต.จึงจัดโครงการดำนาปลูกข้าวแบบย้อนยุคดั้งเดิม นำร่องที่บ้านหนองบัวแดง หมู่ที่ 15 ต.แม่ข้าวต้ม ดึงนักเรียน เกษตรกร มาดำนาปลูกข้าวด้วยการใช้ควายทำนา ทดแทนการใช้หัวรถไถ เครื่องจักรกล ที่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นตัวเดินเครื่อง ซึ่งการใช้ควายทำนา ไม่ต้องสูญเสียพลังงานเชื้อเพลิง ไม่มีการเพิ่มต้นทุนในการผลิต เป็นการทำนาข้าวแบบปลอดสารพิษ ปลอดการเจือปนจากน้ำมันที่อาจไหลลงในแปลงเกษตร จนทำให้ผลผลิตข้าว ไม่มีคุณภาพ
นายสันติ กล่าวอีกว่า ในอนาคตจะขยายเข้าไปให้ครอบคลุมทั้ง 30 หมู่บ้านทั่วตำบล ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากชาวบ้านที่ล้วนแล้วแต่ตระหนักถึงภาวะน้ำมันแพงได้เป็นอย่างดี นำโครงการของ อบต.เข้าไปดำเนินการในแปลงเกษตรของตัวเอง ซึ่งเชื่อว่าหากชาวบ้านทำนาแบบย้อนยุคทั่วทั้งตำบล จะมีส่วนช่วยอนุรักษ์ประเพณีโบราณเอาไว้จนถึงรุ่นต่อไป และยังเป็นการช่วยลดโลกร้อน ลดการใช้สิ้นเปลืองและการใช้พลังงานเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็นลง และยังมีส่วนช่วยลดต้นทุนในการผลิตลง ทำให้ข้าวมีคุณภาพ มีราคาซื้อขายที่ดี ทำให้เกษตรกร สามารถพยุงชีพให้รอดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปได้อย่างสบาย
นายสันติ เถรนิยม นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย เปิดเผยว่า จากภาวะน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างผลกระทบต่อวิถีเกษตรกร ต.แม่ข้าวต้ม ในฐานะพื้นที่ปลูกข้าวจุดใหญ่ของเชียงราย ทำให้เพิ่มภาระต้นทุน ในการนำเครื่องจักรกลมาหว่านดำนาปลูกข้าวอย่างมาก
อบต.จึงจัดโครงการดำนาปลูกข้าวแบบย้อนยุคดั้งเดิม นำร่องที่บ้านหนองบัวแดง หมู่ที่ 15 ต.แม่ข้าวต้ม ดึงนักเรียน เกษตรกร มาดำนาปลูกข้าวด้วยการใช้ควายทำนา ทดแทนการใช้หัวรถไถ เครื่องจักรกล ที่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นตัวเดินเครื่อง ซึ่งการใช้ควายทำนา ไม่ต้องสูญเสียพลังงานเชื้อเพลิง ไม่มีการเพิ่มต้นทุนในการผลิต เป็นการทำนาข้าวแบบปลอดสารพิษ ปลอดการเจือปนจากน้ำมันที่อาจไหลลงในแปลงเกษตร จนทำให้ผลผลิตข้าว ไม่มีคุณภาพ
นายสันติ กล่าวอีกว่า ในอนาคตจะขยายเข้าไปให้ครอบคลุมทั้ง 30 หมู่บ้านทั่วตำบล ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากชาวบ้านที่ล้วนแล้วแต่ตระหนักถึงภาวะน้ำมันแพงได้เป็นอย่างดี นำโครงการของ อบต.เข้าไปดำเนินการในแปลงเกษตรของตัวเอง ซึ่งเชื่อว่าหากชาวบ้านทำนาแบบย้อนยุคทั่วทั้งตำบล จะมีส่วนช่วยอนุรักษ์ประเพณีโบราณเอาไว้จนถึงรุ่นต่อไป และยังเป็นการช่วยลดโลกร้อน ลดการใช้สิ้นเปลืองและการใช้พลังงานเชื้อเพลิงโดยไม่จำเป็นลง และยังมีส่วนช่วยลดต้นทุนในการผลิตลง ทำให้ข้าวมีคุณภาพ มีราคาซื้อขายที่ดี ทำให้เกษตรกร สามารถพยุงชีพให้รอดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจไปได้อย่างสบาย
