เชียงราย – “ยายแสง” หญิงชราวัย 73 ปี มุ่งมั่นเรียนประถม หวังจบ ป.6 ในบั้นปลายชีวิต ที่โรงเรียนบ้านดงป่าเหมี้ยง เผยอดีตตอนเป็นเด็กฐานะยากจน ไม่ได้เรียน ทำให้เขียนชื่อตัวเองไม่ได้ ต้องฝึกเขียนหนังสือเพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารได้สำเร็จ ด้านคณะครูพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ถือเป็นกรณีศึกษาในวงการศึกษา “อายุไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน”
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 41 บ้านดงป่าเหมี้ยง หมู่ที่ 10 ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ของ นางแสง สง่าวงค์ ยายวัย 72 ปี หรือ ยายแสง ซึ่งเข้าเรียนหนังสือระดับประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียน บ้านดงป่าเหมี้ยง หมู่ที่ 10 ตำบลห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย เขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 1
โดย ยายแสง จะออกจากบ้านทุกเช้าเวลาราว 08.00 น.เดินจากบ้านพัก ซึ่งอดีตอยู่กับสามี ปัจจุบันสามีเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนลูกๆ 4 คน มีงานทำกันหมดจะมาเยี่ยมบ้างเป็นบางครั้ง “ยายแสง” จึงมีเวลาในช่วงบั้นปลายชีวิตไปเรียนหนังสือ ที่โรงเรียนบ้านดงป่าเหมี้ยง ที่อยู่ห่างไปประมาณ 150 เมตร แล้วเข้าเรียนในชั้น ป.2 ซึ่งมีนักเรียนร่วมชั้นเรียนอายุรุ่นเหลน-หลาน วัย 7-8 ปี ราว 20 คน ในห้องเรียน
ยายแสง เล่าว่า สาเหตุที่มาเรียนหนังสือ เพราะอดีตตอนเป็นเด็กไม่ได้เรียนหนังสือ บิดามารดาทำนา ที่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ที่บ้านยากจนมากไม่มีชุดนักเรียนใส่ จึงไม่ได้เรียน ต่อมาย้ายมาอยู่ที่ บ้านดงป่าเหมี้ยง หมู่ที่ 10 ตำบลห้วยสักอยู่กินกับสามี จนมีบุตร 4 คน และเมื่อ 5 ปี ก่อนสามีก็เสียชีวิตลงด้วยโรคชรา ทิ้งตนให้อยู่คนเดียว
ส่วนลูกๆ ก็แต่งงานมีงานทำแยกตัวกันไปหมด แต่ก็ยังส่งเงินมาเลี้ยงดู ตนเห็นว่า การที่ตนไม่ได้เรียนหนังสือ ทำให้เวลาไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ต.ห้วยสัก ต้องใช้การพิมพ์ลายนิ้วมือ เพราะเขียนหนังสือไม่ได้ จึงคิดมาเรียนหนังสือ เริ่มจากชั้น ป.1 ที่โรงเรียนบ้านดงป่าเหมี้ยง
เมื่อมาปรึกษา นายพิสิษฐ์ อาษา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดงป่าเหมี้ยง ซึ่งตอนแรกก็ยังงงว่าตนจะมาเรียนอะไร แต่เมื่อได้รับทราบเหตุผลก็ให้เรียนเริ่มตั้งแต่ชั้น ป.1 เมื่อปี 2550 โดยตนจะเข้ามาเรียนในชั้นและช่วยดูแลเด็กๆ ร่วมกับคุณครูไปด้วย แต่ไม่ขอรับวุฒิการศึกษา ถือว่าเรียนเพื่อให้รู้และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ซึ่งตนชอบวิชาภาษาไทยมาก ซึ่งปัจจุบันสามารถเขียนชื่อ และสามารถเปิดบัญชีธนาคารด้วยการเขียนชื่อเองไม่ต้องพิมพ์ลายนิ้วมือ
“อายุไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน และคาดว่า จะเรียนไปจนจบชั้น ป.6 ซึ่งอยากให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง สนับสนุน เช่น เรื่องเงินสวัสดิการผู้สูงอายุ เพราะตนอายุ 73 ปี แล้วไม่เคยได้รับเลย จะได้เป็นค่าอาหารกลางวันที่ต้องห่อมาโรงเรียน ซึ่งทุกวันจะห่อข้าว และนำน้ำดื่ม พร้อมยาสามัญประจำบ้านติดมาด้วย”
นักเรียนชั้น ป.2 ร่วมชั้นกับ ยายแสง กล่าวว่า ยายแสง เขียนลายมือสวย และยายแสง ก็ช่วยดูแลปัดกวาดชั้นเรียนร่วมกับนักเรียนคนอื่น เพียงแต่ไม่ได้ใส่เครื่องแบบ แต่แต่งกายแบบคนสูงอายุ คือ สวมเสื้อและผ้าถุง และไม่ได้มาเข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้าเท่านั้น
นางสาววิภารัตน์ ชุ่มมะโน ครูประจำชั้น บอกว่า ยายแสง เป็นผู้มีความตั้งใจในการเรียนสูง พยายามจะซักถามข้อสงสัยตลอดเวลา เวลาว่างก็จะให้สอนอ่านเขียนเป็นประจำ และจะมาเรียนทุกวัน ซึ่งวิธีการสอนนั้นก็จะสอนเป็นพิเศษเพราะยายแสงเองก็จะเลือกเรียนภาษาไทยเท่านั้น ส่วนวิชาอื่นๆ นั้นยังไม่ได้ศึกษา
นายพิสิษฐ์ อาษา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดงป่าเหมี้ยง กล่าวว่า ถือว่า ยายแสง เป็นนักเรียนคนแรกที่มีอายุมากถึง 73 ปี แต่เมื่อเห็นว่าตั้งใจเรียนก็น่าสนับสนุน และถือเป็นกรณีศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการก็ว่าได้ ซึ่งจะติดตามผลการเรียนของยายแสง อย่างใกล้ชิด