ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ชาวนาเชียงใหม่ฮือชุมนุมล้อมศาลากลางซ้ำ ทวงถามหาเงินค่าข้าวเปลือกเหนียวที่ขายให้โรงสีสิริภิญโญตามโครงการของกระทรวงพาณิชย์ วงเงินรวมกว่า 100 ล้านบาท หลัง ธ.ก.ส.ไม่อนุมัติสินเชื่อให้โรงสี ขณะที่จังหวัดเจรจาแกนนำชาวนาปะเหลาะจะพาเข้าพบ “สมัคร” สัปดาห์หน้าให้ช่วยสั่งการแก้ไขปัญหาโดยตรง
วันนี้ (4 ก.ค.) เกษตรกรชาวนาจากหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอเมือง สันทราย ดอยสะเก็ด แม่ริม แม่แตง พร้าว และสันกำแพง ประมาณ 150 คน ได้รวมตัวชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทวงถามสัญญาและเรียกร้องให้จังหวัดเชียงใหม่ช่วยเร่งรัดโรงสีสิริภิญโญ จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้จ่ายเงินค่าข้าวเหนียวเปลือกนาปรัง ที่โรงสีดังกล่าวรับซื้อไปจากชาวนาจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท และตกลงจะจ่ายเงินให้ภายใน 15 วัน แต่จนถึงเวลานี้ยังไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด
เหตุผลที่ยังไม่ได้จ่ายเงิน โรงสีอ้างว่าเนื่องจากยังไม่ได้รับอนุมัติสินเชื่อจาก ธ.ก.ส. เพื่อนำมาจ่ายให้ชาวนา และล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2551 ก็ไม่ได้มติให้ ธ.ก.ส.อนุมัติสินเชื่อให้แก่โรงสีสิริภิญโญ อย่างที่มีการคาดหมายกันไว้แต่อย่างใด ทำให้เกษตรกรชาวนาในจังหวัดเชียงใหม่ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะแต่ละรายต่างมีหนี้สินเป็นจำนวนมาก จึงไม่พอใจและเดินทางมารวมตัวชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนกว่า 100 นาย ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวนากลุ่มนี้ ก็เดินทางมาชุมนุมแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2551 ที่ผ่านมา
นายสุรชัย จงรักษ์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัด การค้าภายในจังหวัด สหกรณ์จังหวัด และ ธ.ก.ส.ได้เชิญตัวแทนเกษตรกรชาวนาประมาณ 10 คน เข้าประชุมร่วมน เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งชาวนายืนยันต้องการให้มีการเร่งรัดให้มีการจ่ายเงินให้โดยเร็วที่สุด
เบื้องต้นทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบร่วมกัน ว่า จะให้มีการส่งตัวแทนชาวนาจากจังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 10 คน เข้าพบ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในช่วงสัปดาห์หน้า เพื่อให้สั่งการในการแก้ไขปัญหา
ด้าน นายต๋า เม็งทอง แกนนำชาวนาตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สิ่งที่ชาวนาจังหวัดเชียงใหม่ต้องการในเวลานี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าให้ทางภาครัฐเร่งดำเนินการให้โรงสีจ่ายเงินค่าข้าวให้กับชาวนาโดยเร็วที่สุด เพราะกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก จากการถูกตามทวงหนี้สินที่ไปหยิบยืมมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้สินนอกระบบทั้งสิ้น
ทั้งนี้ ยอมรับว่า ขณะนี้มีความหวังเดียวอยู่ที่ตัวนายกรัฐมนตรี ว่า จะสามารถช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ได้ ทั้งนี้หากถึงที่สุดแล้วยังไม่ได้รับเงินค่าข้าวอีก ทางกลุ่มชาวนาที่เดือดร้อน ก็คงจะมีมาตรการตอบโต้ที่รุนแรงเช่นกัน แม้ว่าจะไม่อยากให้เกิดขึ้นก็ตาม