xs
xsm
sm
md
lg

ซื้อขายที่ดินเมืองเชียงใหม่นิ่งสนิท “ช้างคลาน-ช้างม่อย”ครองแชมป์แพงสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ -เผย ภาวะซื้อขายที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่ปีหนูอาจไม่กระเตื้องมากนัก เหตุราคาประเมินใหม่ปี 51 ไม่มีการปรับเพิ่มแต่อย่างใด เพราะมีการปรับรายแปลงไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน ด้านการเก็บค่าธรรมเนียมภาษีการโอนทั้งจังหวัดเชียงใหม่ของปีที่ผ่านมาได้ไม่ถึง 2 พันล้านบาท ระบุทำเลย่านถนนช้างคลานและช้างม่อย มีราคาสูงสุดตารางวาละ 3 แสนบาท แต่อยู่ในมือทุนส่วนกลางหมดแล้ว

นายชวลิต สามห้วย หัวหน้าฝ่ายทะเบียนสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากการที่กรมธนารักษ์ ได้ออกประกาศบัญชีประเมินราคาที่ใหม่ปี 2551 ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองไม่มีการปรับราคาประเมินใหม่เนื่องจากได้มีการปรับเป็นรายแปลงไปแล้วเมื่อ 2 ปีก่อนทำให้ราคาที่ดินไม่เปลี่ยนแปลง ราคาที่ดินต่อตารางวาที่มีราคาสูงที่สุดของอำเภอเมืองเชียงใหม่จะเป็น บริเวณย่านถนนช้างม่อยและถนนช้างคลาน โดยเฉลี่ยตารางวาละ 225,000-300,000 บาท

ทั้งนี้ ตลอดทั้งปี 2550 สำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ จัดเก็บค่าธรรมเนียมการโอนและภาษีทั้งหมดได้จำนวนทั้งสิ้นประมาณ 1,606 ล้านบาท โดยสำนักงานที่ดิน สาขาอำเภอสันทราย มียอดการจัดเก็บระดับอำเภอสูงสุด 200 ล้านบาท รองลงไปจะเป็นอำเภอหางดงและสันกำแพง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการจัดเก็บรายได้จากกรณีที่มีโครงการบ้านจัดสรรเป็นส่วนใหญ่

นายชวลิต กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับสถานการณ์การซื้อขายถ่ายโอนกันช่วงไตรมาสแรกของปี 51อาจจะมีจำนวนไม่มากนักโดยเฉพาะกับโครงการใหญ่ ๆ แต่จะมีบ้างในส่วนประชาชนรายย่อย ๆ หรือผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง โดยกรณีของผู้ที่โอนหรือซื้อขาย เพื่อเน้นไปในทางเก็งกำไร คาดว่าจะลดจำนวนลงหรือแทบไม่มีเลย ปัจจุบันผู้ที่เข้ามาติดต่อกับสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่เฉลี่ยต่อวันมีไม่ถึง 100 ราย ซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงปี 47-48 จะมีผู้เข้ามาติดต่อเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าวันละเกือบ 200 ราย และส่วนใหญ่จะเป็นแปลงใหญ่ ๆ แต่ช่วงนี้แทบจะไม่มีให้เห็นเลย

ด้านแหล่งข่าวจากวงการนายหน้าค้าที่ดินในจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า ก่อนหน้านี้นายหน้าหลายรายมักจะพากันวิ่งหาที่ดินแปลงใหญ่ ๆ เก็บรวบรวมแต่ยังไม่มีการซื้อขายแต่รวบรวมไว้ เพื่อเสนอให้แก่นักลงทุนที่ต้องการเข้ามาทำธุรกิจในจังหวัดเชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม หรือทำโรงงาน ทำให้ช่วงก่อนหน้านั้นที่ดินหลายแปลงก็ตกไปอยู่ในมือนักลงทุนจากส่วนกลางกันไปหมดแล้ว และบางแห่งก็ทำโครงการกันไปบ้างแล้ว

ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมและรีสอร์ตทั้งเขตอำเภอเมืองและอำเภอรอบนอก แต่ปัญหาตอนนี้ที่ยังไม่มีการลงทุนใหญ่ ๆ โดยเฉพาะโครงการบ้านจัดสรร เป็นเพราะกำลังติดปัญหาผังเมืองรวมเชียงใหม่ที่ยังไม่มีข้อสรุปว่า จะสามารถแก้ไขสีบางพื้นที่ได้หรือไม่ แต่หากสามารถมีการแก้ไขได้ก็เชื่อว่า ที่ดินที่อยู่ในมือนักลงทุนก็จะถูกหยิบขึ้นมาทำโครงการกันอีกครั้งหนึ่ง

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หากเทียบกับราคาที่ดินเมื่อปี 48-49 ราคาค่อนข้างขยับขึ้นไปสูงพอสมควร โดยเฉพาะช่วงปี 48 จะมีการกว้านซื้อที่ดินเพื่อขึ้นโครงการใหญ่ ๆ ไว้รองรับโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล โดยเฉพาะโซนอำเภอหางดงในเขตตำบลแม่เหียะ ที่มีโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี และพืชสวนโลกทำให้มีการจัดสรรที่ดินจำนวนทั้งสิ้น 2,379 แปลง ปี 49 มีจำนวน 3,026 แปลง ราคาที่ดินจากราคาไร่ละ 5-6 แสนบาทขยับมาต่ำสุดไร่ละ 3.5-5 ล้านบาท หรือแม้แต่ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ อย่างห้างบิ๊กซีและห้างแม็คโคร ก็ต่างพากันมาเปิดสาขาในโซนนี้เพิ่มกันห้างละ 1 สาขา

สำหรับแนวโน้มราคาที่ดินของปี 51 แหล่งข่าวกล่าวว่า คาดว่าจะไม่มีการขยับราคาขึ้นไปมากเท่าไหร่ โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเทศบาลหรือในตัวเมืองเชียงใหม่สาเหตุเพราะที่ดินแปลงใหญ่ ๆ ส่วนมากมีการนำมาพัฒนากันไปเกือบหมดแล้วที่เหลือก็จะเป็นแปลงที่ยังติดอยู่กับสถาบันการเงิน ที่รอการประมูลหรือไม่ก็รอให้คดีสิ้นสุดก่อน

ส่วนที่ดินในเขตอำเภอรอบนอก ก็คาดว่าจะไม่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันมากนัก เพราะสภาพเศรษฐกิจตอนนี้ไม่เอื้ออำนวยประกอบกับจังหวัดเชียงใหม่เองก็เกือบจะเรียกได้ว่า โครงการเมกะโปรเจกต์ต่าง ๆ ก็หยุดชะงักไปหรือบางโครงการก็เสร็จสิ้นไปแล้ว

“เชื่อว่าปี 51 ทั้งปีภาวการณ์ซื้อขายที่ดินของเชียงใหม่คงไม่กระเตื้องมากนัก ทั้งในแง่ยังไม่เชื่อมั่นรัฐบาลชุดนี้ว่าจะมีนโยบายออกมาอย่างไร และจะอยู่กันกี่ปี ทั้งยังจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง จึงคาดว่าทุกวงการธุรกิจเองก็คงต้องดูทิศทางลมไปก่อน” แหล่งข่าวกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น