พลัง ตอ.ลั่นไม่ยอมให้มีการรื้อเวทีพันธมิตรฯ

ศูนย์ข่าวศรีราชา-พลังมวลชนภาคตะวันออก ชี้กระแสข่าวตำรวจจะรื้อเวทีพันธมิตรฯ เป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะไม่มีคำสั่งศาล เผยเป็นกระแสหมาเห่าแต่ไม่กัด ประกาศก้องชัดมีการรื้อเวทีเมื่อไร นำทัพสมทบประชาชนที่ชุมนุมทันที

นายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาชนภาคตะวันออก กล่าวว่า หากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเคลียร์พื้นที่ถนนพิษณุโลก และมีการรื้อเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่มีการชุมนุมของพลังประชาชนมานานกว่า 1 เดือน ทั้งนี้ หากว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเช่นนั้น โดยถือเอาคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มาเป็นเงื่อนไขนั้น ก็ถือว่ามีความผิดและไม่ชอบธรรมเป็นอย่างยิ่ง เพราะยังไม่มีคำสั่งศาลให้ดำเนินการเช่นนั้น

เครือข่ายฯ ซึ่งติดตามเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอน แต่ถ้าศาลมีคำสั่งให้ยกรื้อถอน โดยมีผู้พิพากษามานั่งบัลลังก์ไต่สวนก็จะยอมทำตามคำสั่งศาลโดยไม่มีข้อแม้เพราะถือว่าถูกต้องตามกระบวนการ แต่ถ้าตำรวจทำโดยไม่มีคำสั่งศาล จะระดมพลรวมกลุ่มไปเคียงข้างกับกลุ่มพันธมิตรฯ ทันที

ด้าน นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เลขาธิการองค์กรประชาธิปไตยภาคประชาชน จ.สระแก้ว ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ขณะนี้อยู่ในที่ชุมนุมพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพมหานคร และเรื่องดังกล่าวเป็นการปล่อยกระแสของ ร.ต.อ.เฉลิม เท่านั้น ซึ่งหลายคนมีแนวคิดเดียวกันว่า รัฐมนตรีว่าการประทรวงมหาดไทยคงเสียหน้าจากการไปจังหวัดกระบี่ เลยปล่อยกระแสให้กลุ่มพันธมิตรฯ หวั่นไหว

เมื่อเปรียบไปแล้วเหมือนมาตรการหมาเห่าใบตองแห้ง คือ เอะอะอะไรก็เอาแต่เห่า เห่าอย่างเดียวแต่ไม่กัด ซึ่งทางกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมกันไม่ได้หวั่นวิตกแต่อย่างใด เพราะที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ได้ทำตามคำสั่งของศาลอยู่แล้ว จึงไม่มีความหวาดวิตก แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการรื้อสิ่งของของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะมีการปกป้องรักษาสิ่งของ เพราะถือว่าเป็นของเรา ไม่ยอมให้มีการรื้อเป็นแน่ และจะปกป้องทุกวิถีทางแต่จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

นางสาวแหม่ม พัทยา ได้กล่าวว่า คำสั่งแบบนี้เป็นการไม่ชอบ จะมาสั่งให้รื้อเวทีได้อย่างไร ทั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ก็เชื่อฟังคำสั่งของศาลแล้วว่าให้เปิดการเดินรถ แต่อยู่ดีๆ ทำไมต้องมีคำสั่งให้รื้อเวทีกันด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงพวกเราจะรวมตัวเดินทางขึ้นไปร่วมกับกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯทันที แล้วถ้าจะรื้อเวทีพันธมิตรฯกันจริงๆ พวกเราจะไปรวมตัวกันเคลื่อนขบวนไปที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยึดเป็นที่ชุมนุมแทนเสียเลย

ส่วนนายสมจิตร กล่าวว่า คำสั่งแบบนี้ไม่ถูกต้อง ที่จริงมันเป็นอำนาจของศาล ไม่ใช่หน้าที่ของตำรวจที่จะมารื้อเวทีของพันธมิตรฯ ถ้าจะรื้อก็ต้องให้ศาลมีคำตัดสินออกมาเสียก่อนไม่ใช่ตำรวจจะมารื้อเสียเอง ทีทางฝั่ง นปก.ที่มีชุมนุมเหมือนกันนั้น ตำรวจไม่เห็นไปให้ความสนใจกันบ้าง มีการรวมตัวก่อความเดือดร้อน บางครั้งไปสร้างความวุ่นวาย ขี่รถมอเตอร์ไซค์กันเป็นแก๊ง ก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน บางครั้งก็เอาก้อนหินขว้างใส่ประชาชนที่ร่วมชุมนุม ทำให้ได้รับบาดเจ็บ ทำไมถึงไม่ไปจัดการ หากมีการรื้อเวทีพันธมิตรฯ พวกตนรับไม่ได้แล้วจะพร้อมเคลื่อนพล ไปร่วมให้กำลังใจและแสดงพลังในที่ชุมนุมทันที พวกเราจะไม่ให้ตำรวจมารื้อเวทีเราโดยไร้สาเหตุแน่นอน

นายประสาน พงษ์พานิช จากจังหวัดตราด ได้กล่าวว่า การรื้อเวทีพันธมิตรฯโดยไม่ชอบธรรมนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ จังหวัดตราดยอมไม่ได้ คือจะอ้างว่ามีคำสั่งศาลหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มีหมายศาลมาติดหรือประกาศ หรือยัง ซึ่งการตีความหมาย ทางตำรวจอย่างหลงประเด็น ซึ่งอาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นมาได้ ในกรณีอย่างนี้ควรวิเคราะห์สถานการณ์ด้วย ทำมีการรื้อเวทีพันธมิตรฯโดยพลการ อาจจะทำให้เกิดความรุนแรงเกิดขึ้นก็ได้

เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า ถ้าพันธมิตรฯ ทั่วประเทศทราบจะทำให้มีการเคลื่อนตัวเข้ามาในกรุงเทพฯ เป็นจำนวนมาก คราวนี้ก็จะเกิดปัญหาการกระทบกระทั่งตามมา อันจะก่อให้เกิดความรุนแรง แล้วการควบคุมสถานการณ์จะลำบากมากยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ จังหวัดตราดก็จะแสดงพลัง ด้วยการเดินทางไปเข้าร่วมกับพันธมิตรฯจากทั่วประเทศอย่างแน่นอน แต่ถ้ามีคำสั่งศาลตัดสินออกมาว่า ให้มีการรื้อเวที กลุ่มก็จะดูท่าทีแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 5 คนว่าจะทำอย่างไรต่อไป 5 แกนนำว่าอย่างไร พวกเราก็ว่าตามกัน เพื่อทำจุดมุ่งหมายของพวกเราให้สำเร็จต่อไป

ด้านนายณัฐวุฒิ เชษฐ์วงศ์ แกนนำพันธมิตรฯ จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวถึงกระแสที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรื้อเวทีใหญ่พันธมิตรฯ ตนเตรียมพร้อมจะเข้าไปรวมตัวกดดันการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้ เพื่อไม่ต้องการให้มีการรื้อถอน เพราะหากมีการรื้อถอนแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯจากพื้นที่ต่างๆ ไม่สามารถจะรวมตัวกันได้

นอกจากนั้น การจัดเวทีดังกล่าว ทางแกนนำพันธมิตรฯ ได้นำนักวิชาการและผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มาพูดคุยและกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งทำให้ทราบเรื่องราวต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การรื้อเวทีจึงไม่สมควรจะรื้ออย่างเด็ดขาด เพราะสร้างความเสียหาย ทำให้ประชาชนขาดความรู้และการเคลื่อนไหวต่างๆ ของรัฐบาล มีการดำเนินการอะไรในขณะนี้

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อไปว่า หากมีการรื้อเวทีจริง และใช้รูปแบบดาวกระจายก็เป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะยิ่งแยกเป็นดาวกระจาย การควบคุมดูแลความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ยิ่งจะมีปัญหาเกิดขึ้น หากฝ่ายตรงข้ามเข้ามาก่อกวน และขณะนี้ก็ทราบว่าฝ่ายตรงข้ามมีการรวบรวมและประชุมกำลังพลบริเวณพื้นที่เขาใหญ่ในช่วงนี้