พะเยา - เกษตรจังหวัดพะเยา เตือนผู้ลักลอบผลิตปุ๋ยปลอมโทษหนัก จำคุก 5-15 ปี ปรับ 2 แสน-2 ล้านบาท พร้อมแนะเกษตรกร รวมกลุ่มซื้อปุ๋ยโดยตรงกับบริษัทที่ไว้วางใจได้ หากซื้อน้อยต้องสังเกตรายละเอียดที่ติดมากับภาชนะบรรจุก่อนตัดสินใจซื้อ
นายวินัย เหล่าเทิดพงษ์ เกษตรจังหวัดพะเยา กล่าวเตือนมายังพ่อค้า ผู้ประกอบการที่ลักลอบผลิตและลักลอบจำหน่ายปุ๋ยปลอมว่า โทษของการผลิตและการจำหน่ายปุ๋ยปลอมตามพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550 ผู้ใดผลิตปุ๋ยเคมีปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี และปรับตั้งแต่ 2 แสน - 2 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ลักลอบจำหน่าย หรือนำเข้าปุ๋ยปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 1-4 แสนบาท
เกษตรจังหวัดพะเยา ได้กล่าวแนะมายังเกษตรกรว่า การตรวจสอบปุ๋ยปลอมด้วยตาเปล่า หรือตรวจสอบโดยการสัมผัสทำได้ยาก ต้องทำโดยวิธีการทางเคมีในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ดังนั้นในการเลือกซื้อปุ๋ยเกษตรกรควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ ซื้อควรรวมกลุ่ม และซื้อโดยตรงกับบริษัทที่ไว้วางใจได้ หากจำเป็นต้องซื้อจำนวนน้อยควรบอกสูตรปุ๋ย ตรา และจำนวนที่ต้องการแก่ผู้ขาย ตรวจสอบข้อความบนกระสอบปุ๋ยว่าเป็นชนิดที่ต้องการหรือไม่ ควรตรวจสอบภาชนะบรรจุมีสภาพใหม่หรืออยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยฉีก หรือรอยเย็บใหม่ มีน้ำหนักครบตามที่ระบุหรือไม่
รวมทั้งเกษตรกรต้องขอเอกสารกำกับปุ๋ยและใบเสร็จรับเงินทุกครั้งจากผู้ขาย หากสงสัยว่าเป็นปุ๋ยปลอมต้องเก็บกระสอบบรรจุ และส่งตัวอย่างปุ๋ยให้สำนักงานเกษตรตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี ควรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคุก หรือปุ๋ยพืชสดแทน เพื่อลดต้นทุนการผลิต
นายวินัย เหล่าเทิดพงษ์ เกษตรจังหวัดพะเยา กล่าวเตือนมายังพ่อค้า ผู้ประกอบการที่ลักลอบผลิตและลักลอบจำหน่ายปุ๋ยปลอมว่า โทษของการผลิตและการจำหน่ายปุ๋ยปลอมตามพระราชบัญญัติปุ๋ย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2550 ผู้ใดผลิตปุ๋ยเคมีปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี และปรับตั้งแต่ 2 แสน - 2 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ลักลอบจำหน่าย หรือนำเข้าปุ๋ยปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 1-4 แสนบาท
เกษตรจังหวัดพะเยา ได้กล่าวแนะมายังเกษตรกรว่า การตรวจสอบปุ๋ยปลอมด้วยตาเปล่า หรือตรวจสอบโดยการสัมผัสทำได้ยาก ต้องทำโดยวิธีการทางเคมีในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ดังนั้นในการเลือกซื้อปุ๋ยเกษตรกรควรปรึกษาเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ ซื้อควรรวมกลุ่ม และซื้อโดยตรงกับบริษัทที่ไว้วางใจได้ หากจำเป็นต้องซื้อจำนวนน้อยควรบอกสูตรปุ๋ย ตรา และจำนวนที่ต้องการแก่ผู้ขาย ตรวจสอบข้อความบนกระสอบปุ๋ยว่าเป็นชนิดที่ต้องการหรือไม่ ควรตรวจสอบภาชนะบรรจุมีสภาพใหม่หรืออยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยฉีก หรือรอยเย็บใหม่ มีน้ำหนักครบตามที่ระบุหรือไม่
รวมทั้งเกษตรกรต้องขอเอกสารกำกับปุ๋ยและใบเสร็จรับเงินทุกครั้งจากผู้ขาย หากสงสัยว่าเป็นปุ๋ยปลอมต้องเก็บกระสอบบรรจุ และส่งตัวอย่างปุ๋ยให้สำนักงานเกษตรตรวจสอบ
อย่างไรก็ตาม เกษตรกรควรลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมี ควรหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคุก หรือปุ๋ยพืชสดแทน เพื่อลดต้นทุนการผลิต
