xs
xsm
sm
md
lg

ปุ๋ยเคมีแพง-ชาวนากาฬสินธุ์หันมาซื้อปลีก-ร้านค้าเจ๊งขาดสภาพคล่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปุ๋ยเคมีที่จ.กาฬสินธุ์ราคาแพงถุงละ 1 พันกว่าบาท ทำให้ชาวนาต้องหันมาซื้อปลีกคราวละ 5-10 ก.ก.เท่านั้นเนื่องจากไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ร้านค้าปุ๋ยหลายแห่งส่อเค้าเจ๊ง เพราะปุ๋ยขายไม่ออกและค้างสต็อกเป็นจำนวนมาก
กาฬสินธุ์ - ผู้ประกอบการร้านขายปุ๋ยเคมีที่กาฬสินธุ์ ประสบปัญหาอย่างหนักจากผลกระทบน้ำมันขึ้นราคา เนื่องจากต้องปรับราคาสินค้าขึ้นอีกหลายเท่าตัว เป็นเหตุให้ลูกค้าที่ส่วนมากเป็นชาวนาไม่มีกำลังซื้อ ทำให้สินค้าค้างสต๊อกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีแนวโน้มจะเลิกกิจการ เนื่องจากขาดสภาพคล่องทางการเงิน

นางราจี ไร่ไสว ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายปุ๋ยเคมีแห่งหนึ่งที่ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลกระทบจากที่ราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ขณะนี้ที่ จ.กาฬสินธุ์ดีเซลลิตรละ 42.30 บาท และเบนซินลิตรละ 41.51 บาท ทำให้ต้องมีการปรับราคาสินค้าหลักๆ ที่จำหน่ายในร้าน เช่น ปุ๋ยเคมีสูตรต่างๆ ที่ปรับราคาขึ้นอีกหลายเท่าตัว ซึ่งผลจากการปรับราคาดังกล่าวทำให้กิจการซบเซาลงเป็นอย่างมาก

"ก่อนที่จะมีการปรับราคาได้ประชุมชี้แจงให้ลูกค้าทราบเป็นระยะๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจในเหตุผลที่ต้องมีการปรับราคา ทำให้ปริมาณสินค้าที่จำหน่ายในร้านมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากมีการปรับราคาอย่างไม่หยุดยั้ง ประมาณว่ามีราคาสูงกว่าที่จำหน่ายในปี 50 ถึง 125% ทำให้ลูกค้าที่เป็นเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ต่างปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการประกอบอาชีพ เพื่อลดรายจ่ายหรือต้นทุนการผลิต ให้สอดคล้องกับสภาพความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจ เช่น หันไปใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้ยอดการจำหน่ายลดลงอย่างต่อเนื่อง ที่เฉลี่ยในปลายไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ลดลงมากกว่า 50% จึงเป็นเหตุให้สินค้าค้างสต๊อกและขาดรายได้เป็นจำนวนมาก" นางราจีกล่าว และว่า

จากสาเหตุดังกล่าวที่ทำให้ปริมาณการขายสินค้าและรายได้ลดลง ก็พยายามประคับประคองกิจการเรื่อยมา โดยมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดเพื่อดึงลูกค้า มีการให้สินเชื่อปลอดดอกเบี้ยและแจกคูปองจับรางวัล พร้อมตั้งเป้าหมายไว้ว่าเมื่อถึงฤดูทำนา และประกอบกับการที่รัฐบาลประกันราคาผลผลิตข้าวให้สูงถึงตันละ 14,000 บาท จะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรหันมาปลูกข้าวกันมากขึ้น ทำให้เชื่อว่าจะทำให้บรรยากาศการขายปุ๋ยเคมีกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่สภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ยังคงเงียบเหงา

ลูกค้าที่มาซื้อปุ๋ยยังซื้อในปริมาณที่น้อยลง จากที่เคยมาซื้อเป็นถุงหรือเป็นประสอบ (50 กก.) ก็ซื้อปลีกย่อยคนละ 5-10 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งตนจำต้องแบ่งขายเพื่อดึงลูกค้าไว้ ในขณะที่ผู้ประกอบการร้านจำหน่ายปุ๋ยเคมีหลายราย ได้ทยอยปิดกิจการลง เนื่องจากขาดสภาพคล่อง ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ ขณะที่ต้องนำเงินส่งเอเย่นต์ที่นำสินค้ามาส่งเที่ยวละหลายแสนบาท

ด้านนายฉัน ไร่ไสว ชาวนาตำบลบัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนมีที่นา 10 ไร่ทุกปีที่ผ่านมาจะใช้ปุ๋ยเคมีในแปลงนาเฉลี่ยไร่ละ 1 ถุง แต่สำหรับฤดูกาลผลิตปีนี้ที่ราคาปุ๋ยแพงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมามาก จากที่ถุงละ 600 กว่าบาทเป็นถุงละ 1 พันกว่าบาท ทำให้ตนและเพื่อนชาวนาต่างลดการใช้ปุ๋ยเคมีลง เนื่องจากไม่มีกำลังที่จะซื้อและแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงไม่ไหวโดยจะใช้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพแทนการใช้ปุ๋ยเคมีที่มีราคาแพง ซึ่งคาดว่าจะได้ผลผลิตที่คุ้มค่า เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ไม่สูงเหมือนใช้ปุ๋ยเคมี

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจราคาปุ๋ยเคมีตามร้านค้าทั่วไปใน จ.กาฬสินธุ์ โดยเฉพาะตัวแทนจำหน่ายตามร้านค้าต่างอำเภอเป็นดังนี้ ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ถุงละ 1,300 บาท สูตร 46-0-0 ถุงละ 1,250 บาท สูตร 16-20-0 ถุงละ 1,050 บาท และสูตร 16-8-8 ถุงละ 1,000 บาท



กำลังโหลดความคิดเห็น