เชียงราย – ม็อบข้าวเชียงรายเตรียมประสานเข้าเป็นแนวร่วมพันธมิตรฯ หลัง ครม.ตีกลับแผนแนวทางช่วยเหลือชาวนาปรังภาคเหนือ ที่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าว รับผิดหวัง ส.ส.พปช.เมืองพ่อขุนฯ ที่ได้รับเลือกตั้งถึง 8 คน แต่ช่วยอะไรไม่ได้
วันนี้ (2 ก.ค.) กลุ่มแกนนำชาวนาในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งประสบปัญหาขายข้าวให้กับโรงสีศิริภิญโญ จ.ฉะเชิงเทรา แล้วไม่ได้รับเงิน ได้มีการประชุมหารือกันเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามคำรับปากของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้าวที่โรงสีและให้คณะรัฐมนตรีหารือ เพื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนเรื่องเงินรับซื้อเหมือนการช่วยเหลือชาวนา โดยยืนยันว่าจะสามารถจ่ายเงินให้ชาวนาทั้งหมดได้ภายในวันที่ 4 ก.ค.นี้ แต่ปรากฏว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ก.ค.51 ที่ผ่านมา กลับให้กระทรวงพาณิชย์นำกลับไปพิจารณาใหม่ สร้างความผิดหวังให้แก่ชาวนาที่รอผลการช่วยเหลืออยู่
นายวีระพล โสมศรีแพง ตัวแทนกลุ่มชาวนา จ.เชียงราย กล่าวว่า พวกเราผิดหวังกับมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จึงเตรียมการเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง ส่วนรูปแบบกำลังพิจารณากันอยู่ แต่รู้สึกน้อยใจที่เชียงราย มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พลังประชาชน แกนนำรัฐบาลมากถึง 8 คน แต่กลับไม่สามารถช่วยเหลือชาวนาในเรื่องนี้ได้เเลย
ดังนั้น จึงมีแนวโน้มว่าจะยกขบวนกันไปกรุงเทพฯ อีกครั้ง โดยเบื้องต้นจะนำร่องทดลองไปก่อนประมาณ 3 คันรถ เพื่อประสานเข้าเป็นแนวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ ที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาลอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล หากสามารถเข้าร่วมกันได้ก็อาจจะมีการแถลงการณ์ร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาข้าวของชาวนาในปีนี้
ขณะเดียวกันจะเดินทางไปที่กองปราบปราม เพื่อดูความคืบหน้าในคดีที่เคยแจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี้ และขอให้ตรวจสอบข้าวที่ทางโรงสีรับจากชาวนาไปก่อนหน้านี้ว่ายังคงอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าหากข้าวหายไปก็คงจะกลายเป็นคดีอาญา ขณะเดียวกันจะเข้าพบรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อตอกย้ำเรื่องปัญหาด้วย
นายวีระพล หรืออู๊ด เมืองพาน มือทำม็อบที่เคยขับเคลื่อนม็อบสนับสนุนพรรคไทยรักไทยในอดีตมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำเช่นนี้เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาได้ ทั้งๆ ที่รับปากรับคำกันเอาไว้หลายครั้งหลายหน ขณะที่สภาพของชาวนาหลายพันคนกลับต้องทำนาปรังฟรีๆ โดยไม่ได้รับเงินเลยหรือได้ทำนาเพื่อส่งข้าวไปให้กับโรงสีจนหลายรายไม่มีทุนทำนาปีที่จะมาถึง
แกนนำชาวนากล่าวอีกว่า ช่วงที่เกิดปัญหาได้มี ส.ส.เชียงราย บางคนโทรศัพท์ไปหาแต่พอท้ายที่สุดก็เงียบหายไปโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ดังนั้น จึงเชื่อว่าในการเลือกตั้งสมัยหน้าคนเหล่านี้ก็คงจะไม่ได้รับการเลือกตั้งอีกต่อไป พวกเรารวมทั้งเจ้าหน้าที่บางคนที่ถูกพาดพิงถึงเมื่อครั้งชุมนุมกันที่ อ.พาน จ.เชียงราย จึงอยากให้ ส.ส.เชียงราย ราว 4-5 คน ออกจากตำแหน่งไป
วันนี้ (2 ก.ค.) กลุ่มแกนนำชาวนาในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งประสบปัญหาขายข้าวให้กับโรงสีศิริภิญโญ จ.ฉะเชิงเทรา แล้วไม่ได้รับเงิน ได้มีการประชุมหารือกันเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นไปตามคำรับปากของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่สั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้าวที่โรงสีและให้คณะรัฐมนตรีหารือ เพื่อให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนเรื่องเงินรับซื้อเหมือนการช่วยเหลือชาวนา โดยยืนยันว่าจะสามารถจ่ายเงินให้ชาวนาทั้งหมดได้ภายในวันที่ 4 ก.ค.นี้ แต่ปรากฏว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 ก.ค.51 ที่ผ่านมา กลับให้กระทรวงพาณิชย์นำกลับไปพิจารณาใหม่ สร้างความผิดหวังให้แก่ชาวนาที่รอผลการช่วยเหลืออยู่
นายวีระพล โสมศรีแพง ตัวแทนกลุ่มชาวนา จ.เชียงราย กล่าวว่า พวกเราผิดหวังกับมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จึงเตรียมการเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง ส่วนรูปแบบกำลังพิจารณากันอยู่ แต่รู้สึกน้อยใจที่เชียงราย มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พลังประชาชน แกนนำรัฐบาลมากถึง 8 คน แต่กลับไม่สามารถช่วยเหลือชาวนาในเรื่องนี้ได้เเลย
ดังนั้น จึงมีแนวโน้มว่าจะยกขบวนกันไปกรุงเทพฯ อีกครั้ง โดยเบื้องต้นจะนำร่องทดลองไปก่อนประมาณ 3 คันรถ เพื่อประสานเข้าเป็นแนวร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ ที่ชุมนุมขับไล่รัฐบาลอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล หากสามารถเข้าร่วมกันได้ก็อาจจะมีการแถลงการณ์ร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาข้าวของชาวนาในปีนี้
ขณะเดียวกันจะเดินทางไปที่กองปราบปราม เพื่อดูความคืบหน้าในคดีที่เคยแจ้งความเอาไว้ก่อนหน้านี้ และขอให้ตรวจสอบข้าวที่ทางโรงสีรับจากชาวนาไปก่อนหน้านี้ว่ายังคงอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ ถ้าหากข้าวหายไปก็คงจะกลายเป็นคดีอาญา ขณะเดียวกันจะเข้าพบรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อตอกย้ำเรื่องปัญหาด้วย
นายวีระพล หรืออู๊ด เมืองพาน มือทำม็อบที่เคยขับเคลื่อนม็อบสนับสนุนพรรคไทยรักไทยในอดีตมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำเช่นนี้เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาให้กับชาวนาได้ ทั้งๆ ที่รับปากรับคำกันเอาไว้หลายครั้งหลายหน ขณะที่สภาพของชาวนาหลายพันคนกลับต้องทำนาปรังฟรีๆ โดยไม่ได้รับเงินเลยหรือได้ทำนาเพื่อส่งข้าวไปให้กับโรงสีจนหลายรายไม่มีทุนทำนาปีที่จะมาถึง
แกนนำชาวนากล่าวอีกว่า ช่วงที่เกิดปัญหาได้มี ส.ส.เชียงราย บางคนโทรศัพท์ไปหาแต่พอท้ายที่สุดก็เงียบหายไปโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย ดังนั้น จึงเชื่อว่าในการเลือกตั้งสมัยหน้าคนเหล่านี้ก็คงจะไม่ได้รับการเลือกตั้งอีกต่อไป พวกเรารวมทั้งเจ้าหน้าที่บางคนที่ถูกพาดพิงถึงเมื่อครั้งชุมนุมกันที่ อ.พาน จ.เชียงราย จึงอยากให้ ส.ส.เชียงราย ราว 4-5 คน ออกจากตำแหน่งไป