พะเยา - มน.ใส่ใจวิกฤตภาวะโลกร้อน นำมินิบัสติด NGV ทดแทนช่วยประหยัดน้ำมัน พร้อมเตรียมนำนิสิตรณรงค์ร่วมพิทักษ์ สวล.
รศ.มณฑล สงวนเสริมศรี ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยนเรศวร (ผอ.มน.) พะเยา กล่าวถึงวิกฤตภาวะโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ว่า ปัจจุบันฤดูกาลต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเป็นอย่างมาก ทั้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่เกิดภาวะแห้งแล้งผิดธรรมชาติ ทำให้ 65 จังหวัดของประเทศไทยที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายกว่า 10 ล้านไร่ หรือปรากฏการณ์ลานีลญา ทำให้น้ำท่วมหนัก ดินถล่มอย่างรุนแรงใน 5 จังหวัดภาคเหนือ เกิดความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ความแปรปรวนของอากาศทำให้ประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งมีแนวโน้มจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกปี อันเกิดจากวิกฤติภาวะโลกร้อน
ผอ.มน.พะเยา กล่าวต่อว่า ดังนั้น มน.พะเยาซึ่งมีนิสิตกว่า 9,000 คน และบุคลากรกว่า 700 คน มีปริมาณการใช้พลังงานจำนวนมาก ทั้งการใช้ไฟฟ้าในการเรียนการสอน การทำงาน การใช้น้ำมันสำหรับการบริการรถรับ-ส่งนิสิตโดยไม่เก็บค่าโดยสารภายในพื้นที่ของสถาบัน ปัญหาดังกล่าวมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงมีโครงการเปลี่ยนรถโดยสารมินิบัสที่เคยใช้น้ำมันมาเป็นรถโดยสารที่ใช้แก๊ส NGV แทน ซึ่งจะทำให้ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นได้มีมาตรการให้ผู้บริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่ในองค์กรและนิสิต ปิดไฟปิดเครื่องปรับอากาศ และปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานและห้องเรียนเมื่อไม่ได้ใช้งานและช่วงพัก เพื่อช่วยกันลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในสถาบันให้มากที่สุด
โดยในวันที่ 4 กรกฎาคม 2551 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 13 ปี ที่ มน.พะเยา ได้ย้ายการเรียนการสอนมาตั้งที่ ต.แม่กา อ.เมืองแห่งนี้จะมีนิสิตชั้นปีที่ 1 จำนวน 3,000 คน เดินรณรงค์เป็นระยะทาง 4 กม.เพื่อลดภาวะโลกร้อน ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ ร่วมใจกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ช่วยให้สิ่งแวดล้อมกลับสู่สมดุล วิกฤตภาวะโลกร้อนจะเลือนลางไปในที่สุด
รศ.มณฑล สงวนเสริมศรี ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยนเรศวร (ผอ.มน.) พะเยา กล่าวถึงวิกฤตภาวะโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ว่า ปัจจุบันฤดูกาลต่างๆ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตเป็นอย่างมาก ทั้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่เกิดภาวะแห้งแล้งผิดธรรมชาติ ทำให้ 65 จังหวัดของประเทศไทยที่เป็นพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายกว่า 10 ล้านไร่ หรือปรากฏการณ์ลานีลญา ทำให้น้ำท่วมหนัก ดินถล่มอย่างรุนแรงใน 5 จังหวัดภาคเหนือ เกิดความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ความแปรปรวนของอากาศทำให้ประเทศไทยและทุกประเทศทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งมีแนวโน้มจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นทุกปี อันเกิดจากวิกฤติภาวะโลกร้อน
ผอ.มน.พะเยา กล่าวต่อว่า ดังนั้น มน.พะเยาซึ่งมีนิสิตกว่า 9,000 คน และบุคลากรกว่า 700 คน มีปริมาณการใช้พลังงานจำนวนมาก ทั้งการใช้ไฟฟ้าในการเรียนการสอน การทำงาน การใช้น้ำมันสำหรับการบริการรถรับ-ส่งนิสิตโดยไม่เก็บค่าโดยสารภายในพื้นที่ของสถาบัน ปัญหาดังกล่าวมีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อน จึงมีโครงการเปลี่ยนรถโดยสารมินิบัสที่เคยใช้น้ำมันมาเป็นรถโดยสารที่ใช้แก๊ส NGV แทน ซึ่งจะทำให้ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นได้มีมาตรการให้ผู้บริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่ในองค์กรและนิสิต ปิดไฟปิดเครื่องปรับอากาศ และปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องทำงานและห้องเรียนเมื่อไม่ได้ใช้งานและช่วงพัก เพื่อช่วยกันลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในสถาบันให้มากที่สุด
โดยในวันที่ 4 กรกฎาคม 2551 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 13 ปี ที่ มน.พะเยา ได้ย้ายการเรียนการสอนมาตั้งที่ ต.แม่กา อ.เมืองแห่งนี้จะมีนิสิตชั้นปีที่ 1 จำนวน 3,000 คน เดินรณรงค์เป็นระยะทาง 4 กม.เพื่อลดภาวะโลกร้อน ถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ ร่วมใจกันแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ช่วยให้สิ่งแวดล้อมกลับสู่สมดุล วิกฤตภาวะโลกร้อนจะเลือนลางไปในที่สุด
