xs
xsm
sm
md
lg

พัทยาต้านยกการประปาให้ “อีสวอเตอร์” ดูแล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - กลุ่มพันธมิตรฯพัทยา-นาเกลือ รวมตัวต่อต้านการประชุมคณะกรรมการบริหารการประปาส่วนภูมิภาคในประเด็นโครงการพัฒนาระบบการประปา ปี 51 วงเงิน 2,000 กว่าล้านบาท โดยเรียกร้องให้ทาง กปภ.ดูแลโครงการทั้งหมดเอง หวั่นแอบงุบงิบลงมติทำสัญญาให้ “อีสวอเตอร์” ที่มี “โกวิท” เป็นประธานบอร์ดบริหารควบคุมโครงการ แฉ คนในมหาดไทย มีหุ้นใน “อีสวอเตอร์” เชื่อผลประโยชน์เชื่อมโยงสมุน “แม้ว”

เวลา 14.30 น.วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่บริเวณวงเวียนปลาโลมา ถนนพัทยาเหนือ กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพัทยา-นาเกลือ จังหวัดชลบุรีจำนวนหนึ่ง ได้รวมตัวประท้วงและคัดค้านประเด็นการประชุมคณะกรรมการบริหารการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ซึ่งมี พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติยุครัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ในฐานะประธานบอร์ดบริหาร กปภ.เป็นประธานในการประชุมที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา

แหล่งข่าวจากสำนักงานใหญ่ กปภ.รายหนึ่งให้ข้อมูล ว่า วันพรุ่งนี้ (30 มิ.ย.) ทางคณะกรรมการและบอร์ดบริหารจากทาง กปภ.จะมาเยี่ยมชมและดูงานในโรงสูบน้ำของสำนักงานการประปาพัทยา ซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีการพูดคุยในเรื่องของการตกลงเซ็นสัญญา กปภ.กับภาคเอกชน ซึ่งจังหวัดชลบุรีเองผลประโยชน์เรื่องของการบริหารจัดการน้ำมีตัวเลขมหาศาล

ทางกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค จึงมีการรวมตัวประชุมเพื่อหาแนวทางการคัดค้านเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะรวมไปถึงประเด็นการโยกงบประมาณเพื่อผลประโยชน์ให้ใครบางคน รวมถึงโครงการ กปภ.ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โครงการจัดซื้อน้ำจากภาคเอกชน และโครงการให้เอกชนเข้ามาลงทุนใน กปภ.อีกด้วย ซึ่งในที่ประชุมมีมติให้คัดค้านและยกเลิกคำสั่ง กปภ.ที่ 8/2551

ทั้งนี้ การประชุมของกลุ่มสหภาพฯ ได้จัดให้มีขึ้นในช่วงเช้าของวันนี้ ที่สำนักงานการประปาพัทยา ก่อนส่งตัวแทนมายื่นหนังสือคัดค้านในที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร กปภ.ซึ่งมีรายงานว่า นายธรรมรัตน์ รำขวัญ ประธานสหภาพฯ เป็นผู้เดินทางมามอบหนังสือ แต่พบว่าหลังจากยื่นหนังสือเสร็จก็ได้เดินทางกลับในทันที โดยไม่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด เชื่อว่าน่าจะมีผู้ใหญ่มีคำสั่งสั่งบล็อกอย่างแน่นอน

แหล่งข่าวคนดังกล่าว เผยด้วยว่า ที่ผ่านมา โครงการพัฒนาระบบการประปาปี 2551 (กปภ.ชลบุรี พัทยา แหลมฉบัง) วงเงิน 2,208.413 ล้านบาทนั้น ทาง กปภ.หวังจะดำเนินการด้วยตนเอง โดยทาง กปภ.ได้เสนอไปยังกระทรวงมหาดไทย และจะออกธนบัตรเงินกู้เพื่อดำเนินการจัดการโครงการ ซึ่งหากเป็นไปเช่นนั้นโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในปี 2553 เพราะเรื่องดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนากาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง ที่พร้อมจะให้ กปภ.กู้เงินเรียบร้อยแล้ว แต่ทาง ครม.มีการชะลอการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอยู่

โดยคาดว่า จะให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหารและจะทำให้ค่าใช้จ่ายเรื่องของน้ำแพงกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน เพราะเมื่อเอกชนมาบริหารก็จะคิดแต่เรื่องของธุรกิจ แต่น้ำเป็นสมบัติของชาติ การงุบงิบในการประชุมคณะบริหาร กปภ.อาจจะเข้าทำนองการแปรรูปรัฐวิสาหกิจอย่างที่เคยเกิดกับการไฟฟ้ามาแล้ว จึงหวั่นวิตกว่าในการประชุมเพื่อพิจารณา 3 แนวทาง คือ 1.กปภ.กู้เงินมาลงทุน 2.กปภ.ให้เอกชนลงทุน และ 3.กปภ.ร่วมลงทุนกับเอกชน ในที่สุดแล้ว กปภ.จะสรุปให้เอกชนมาลงทุนในที่สุด เพราะว่าคนในกระทรวงมหาดไทยมีหุ้นอยู่ในอีสวอเตอร์ และเป็นทีมงานในรัฐบาลทักษิณ โดยจัดว่าเป็นผู้ประกอบการรายเดียวที่ได้รับสัมปทานดูแลจัดการน้ำในเขตภาคตะวันออก อย่างที่เคยเกิดขึ้นในจังหวัดจันทบุรีและระยองมาแล้ว

ด้าน นางรัตนา อ่องสมบัติ เลขานุการกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพัทยา-นาเกลือ กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวเป็นการแอบการประชุมแบบลับๆ ซึ่งในวาระการประชุมมีการพิจารณาในเรื่องของโครงการพัฒนาระบบการประปาปี 2551 (กปภ.ชลบุรี พัทยา แหลมฉบัง) วงเงินกว่า 2,200 ล้านบาท ซึ่งมีนัยยะว่าจะเป็นการลงมติเห็นชอบให้บริษัทภาคเอกชนเข้ามาดูแลโครงการทั้งหมด โดยเชื่อว่าบริษัทบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก หรืออีสวอเตอร์ จะสามารถประมูลโครงการดังกล่าวไปรับผิดชอบได้ในที่สุด

โดยถ้าหากว่า ทาง อีสวอเตอร์ ได้เข้ามาดูแลเรื่องดังกล่าวแล้ว อาจส่งผลกระทบให้ค่าใช้จ่ายในเรื่องของน้ำจะแพงขึ้นกว่าเก่า ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาพรวมทั้งจังหวัด และทำให้ประชาชนเดือดร้อน จนมีการรวมตัวกันคัดค้านเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ซึ่งหากทราบผลสรุปว่าเป็นมาอย่างไร และในที่สุด ทาง อีสวอเตอร์ ได้เข้ามาบริหารจัดการน้ำในโครงการดังกล่าวแล้ว จะเดินทางไปยื่นขอความเป็นธรรมจากศาลปกครองสูงสุดต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น