น้ำมันแพงกระทบผู้ประกอบการส่งกุ้งกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์ - ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลกระทบต่อพ่อค้าส่งกุ้งที่จังหวัดกาฬสินธุ์กว่า 200 ราย ต้องหยุดวิ่งส่งกุ้ง เนื่องจากสู้ราคาน้ำมันไม่ไหว

นายทวี โคตระบุตร ผู้ประกอบการส่งกุ้งรายหนึ่งในจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เดิมตนเคยรับซื้อกุ้งก้ามกรามจากเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเขตตำบลบัวบาน ตำบลนาเชือก อำเภอยางตลาด ไปส่งตามร้านค้าทั่วๆในแถบจังหวัดสกลนคร นครพนม ยโสธร อุบลราชธานี นครราชสีมา และอุดรธานี ฯลฯ

โดยจะรับซื้อปากบ่อกิโลกรัมละ 150 บาท ขายส่งลูกค้ากิโลกรัมละ 170-180 บาท ตามระยะทางใกล้-ไกล ซึ่งจะได้กำไรกิโลกรัมละ 20-30 บาท เที่ยวหนึ่งๆจะรับกุ้งไปประมาณ 100-200 กิโลกรัม ทำให้ได้กำไรเที่ยวละ 2,000-3,000 บาท หลังจากหักค่าน้ำมันออกแล้วก็จะได้กำไรเที่ยวละประมาณ 1,000-2,000 พันบาท

นายทวี กล่าวอีกว่า อาชีพส่งกุ้งในช่วง 3-10 ปีย้อนหลัง ได้สร้างผลกำไรให้กับผู้ประกอบการอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ทำให้ธุรกิจการส่งกุ้งก้ามกรามเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ประมาณว่ามีพ่อค้าที่มารับกุ้งไปจำหน่ายทั่วภาคอีสานประมาณ 200 ราย แต่หลังจากที่ราคาน้ำมันเกิดการผันผวน มีการปรับขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาจำหน่ายกุ้งยังเท่าเดิม ทำให้พ่อค้ากุ้งประสบปัญหาการขาดทุน และหยุดวิ่งแล้วหลายราย เพราะการส่งกุ้งในแต่ละเที่ยวต้องสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากต้องใช้ทั้งน้ำมันรถ(ดีเซล)ในการขนส่ง และน้ำมันเบนซินสำหรับใช้กับเครื่องปั๊มออกซิเจนให้กุ้งด้วย ราคาน้ำมันตามปั้มในเขตชนบทมีการปรับราคาขึ้นสูงมาก โดยดีเซลลิตรละ 45 บาทและน้ำมันเบนซินลิตรละ 44 บาททีเดียว

"บรรยากาศการซื้อขายกุ้งในช่วงวิกฤติน้ำมันแพงนี้ จึงค่อนข้างเงียบเหงา และมีการปรับรูปแบบตามสถานการณ์ โดยร้านอาหารที่เคยรับซื้อกุ้งจำหน่ายจะมารับซื้อที่ปากบ่อเอง หรือไม่อย่างนั้นเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งจะนำไปส่งลูกค้าเอง ในขณะที่พ่อค้ากุ้งได้หยุดวิ่งและหันไปประกอบอาชีพอื่นที่ไม่ต้องเสี่ยงกับการขาดทุน เนื่องจากสู้ราคาน้ำมันแพงไม่ไหว" นายทวีกล่าว