ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงพยาบาลสมิติเวชศรีราชา ประกาศควักเงินลงทุนเพิ่มอีกกว่าพันล้านบาท ผุดอาคารผู้ป่วยหลังใหม่และอาคารจอดรถยนต์ในพื้นที่ 5 ไร่ปลายปีนี้ หลังเตียงคนไข้ 120 เตียงไม่พอรองรับ ทั้งคนไทยและต่างชาติ ที่นิยมบินตรงมาศัลยกรรมเพิ่ม
ผศ.นพ.สมชาย พัฒนะเอนก ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา กล่าวถึงการดำเนินงานของโรงพยาบาลว่าปัจจุบันมีอายุครบ 15 ปีแล้ว และที่ผ่านมายังได้มุ่งเน้นการขยาย และพัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์และการบริการเพื่อสนองปณิธานในการนำเสนอมาตรฐานสูงสุดในทุกด้าน โดยล่าสุดยังเปิดบริการห้องปฏิบัติการสวนหัวใจและขยายหลอดเลือด รวมถึงศูนย์รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ศูนย์รักษาผู้มีบุตรยากพร้อมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบุคลากรที่มีประสบการณ์ตรง
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา อัตราเติบโตด้านผลประกอบการมีเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 20% ต่อปี ขณะที่ในปี 2550 ยอดเติบโตทางธุรกิจได้พุ่งสูงถึง 28% คิดเป็นยอดดำเนินการรวม 720 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนกำไร 10% หรือคิดเป็น 69 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการเติบโตทางธุรกิจของโรงพยาบาลฯ ในปี 2551 อาจจะลดน้อยลงบ้าง ส่วนหนึ่งเกิดจากภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศและอัตราเติบโตที่สูงจนชนเพดาน เห็นได้จากจำนวนคนไข้นอกต่อวันที่มีมากถึง 650 คน ขณะที่ช่วงเสาร์-อาทิตย์จะมีมากกว่า 700 คน ส่วนเตียงคนไข้ที่มีจำนวน 120 เตียงขณะนี้เริ่มมีแนวโน้ม ไม่เพียงพอต่อจำนวนคนไข้ทั้งชาวไทยและต่างชาติ นอกจากนั้นยังพบชาวต่างชาติที่บินตรง เพื่อรับบริการด้านศัลยกรรมในส่วนต่างๆ ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ช่วงปลายปี 51 เรามีแผนที่จะลงทุนอีกไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท เพื่อก่อสร้างอาคารจอดรถขนาด 550 คันในพื้นที่ 5 ไร่ข้างโรงพยาบาลที่ซื้อเก็บไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยจะใช้เวลาดำเนินการ 1 ปีครึ่ง ส่วนพื้นที่ลานจอดรถยนต์เดิม จะใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างอาคารผู้ป่วยใหม่ตึกที่ 4 ขนาด 60 เตียงที่จะลงมือก่อสร้างหลังอาคารจอดรถแล้วเสร็จ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาขีดความสามารถในการรักษาพยาบาลของสมิติเวช ศรีราชา ที่เน้นการลงทุนเรื่องเครื่องมือที่ทันสมัยและแพทย์เฉพาะทาง โดยทั้ง 2 โครงการจะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 3 ปี แต่อย่างไรก็ดีหากเกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงทางเศรษฐกิจ เราก็อาจจะชะลอการลงทุนส่วนนี้ ซึ่งก็ต้องจับตาเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดเช่นกัน”
ผศ.นพ.สมชาย ยังเผยอีกว่า ภาวะเศรษฐกิจนอกจากจะไม่มีผลกระทบต่อจำนวนคนไข้ประจำของโรงพยาบาลแล้ว คนไข้กลุ่มประกันสุขภาพยังมีตัวเลขเติบโตมากขึ้น เนื่องจากผู้มีรายได้สูงเริ่มหันเข้าหาการออมในลักษณะการซื้อประกันสุขภาพเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เหตุเพราะค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับโรงพยาบาลรัฐ โดยเฉพาะโรงพยาบาลสมิติเวช แม้จะได้รับเสียงบอกกล่าวจากผู้รักษาว่าค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างสูง แต่ก็ขอยืนยันว่าระบบการคิดค่ารักษาพยาบาลของสมิติเวชจะคิดจากต้นทุนดำเนินการ ซึ่งสมิติเวชมีโรงพยาบาลเครือข่ายถึง 19 แห่งจึงขอยืนยันว่าการคิดค่าบริการแต่ละแห่งจะไม่แตกต่างกัน
“สมิติเวช ศรีราชา มีจุดแข็งที่การตรวจวินิจฉัยโรค ซึ่งแม่นยำ ปัจจุบันเรามีการผ่าตัดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยทำคนไข้ได้รับบาดเจ็บและมีแผลเล็กลง และในอนาคตยังจะพัฒนาการรักษาให้สามารถเปิดทรวงอกเพื่อผ่าตัดหัวใจได้ ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลที่ให้การรักษาในระดับทุติยภูมิแล้ว หมายถึงขีดความสามารถในการรับคนไข้ต่อจากโรงพยาบาลอื่น เพื่อเข้ารับการรักษาในศูนย์การแพทย์ที่ทันสมัยที่เปิดให้บริการอีกด้วย”
นอกจากนั้นยังมีแผนงานสำคัญในการเป็นโรงพยาบาลซึ่งสามารถเปลี่ยนอวัยวะ รวมทั้งการผ่าตัดเปลี่ยนไต หลังจากเปิดให้บริการศูนย์ฟอกไตที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดชลบุรี ขณะเดียวกันยังเตรียมที่จะขอเข้ารับการประเมินตามมาตรฐาน HA ของกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย