xs
xsm
sm
md
lg

“สวนสัตว์เปิดเขาเขียว” นำร่องใช้พลังงานทดแทนในสวนฯ เพื่อลดค่าใช้จ่าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ประสานกระทรวงพลังงานนำกระแสลม-มูลสัตว์-แสงอาทิตย์ มาผลิตเป็นพลังงานทดแทนใช้ในสวนสัตว์ หวังลดค่าใช้จ่ายและเป็นแหล่งเรียนรู้แก่เด็กและเยาวชน ถือเป็นโครงการนำร่องแห่งแรกในวงการสวนสัตว์

นายสุริยา แสงพงค์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จังหวัดชลบุรี เผยถึงโครงการนำพลังงานทดแทนมาใช้ในสวนสัตว์เปิดเขียวว่า ขณะนี้ถือว่าเป็นโครงการที่ดีที่จะมีโครงการนี้เกิดขึ้น ซึ่งล่าสุดได้รับการประสานงานจากกระทรวงพลังงาน เพื่อร่วมกันผลักดันให้โครงการเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม

ขณะนี้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อพิจารณาศึกษาดำเนินโครงการพลังงานทดแทน เช่น พลังงานลม พลังงานจากแสงอาทิตย์ และ พลังงานจากแก็สชีวภาพ จากมูลสัตว์ มาทดแทนพลังงานด้านเชื้อเพลิงและไฟฟ้า เนื่องจากในช่วงเดือนมีนาคม -เมษายน-พฤษภาคมนั้น เพราะบริเวณสวนสัตว์เปิดเขาเขียวมีกระแสลมที่แรงมาก จึงเหมาะจะมาทำเป็นพลังงานทดแทนดังกล่าว

นายสุริยา กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นพลังงานด้านชีวภาคโดยการนำมูลสัตว์ มาเป็นพลังงาน เพราะมีสัตว์ป่าที่เลี้ยงไว้จำนวนมาก เช่น ช้าง, วัวแดง, กระทิง และอูฐ ซึ่งนำมูลสัตว์เหล่านี้มาทำเป็นพลังงานทดแทน ผลิตแก๊สธรรมชาติ โดยจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถลดค่าใช้จ่ายภายในสวนสัตว์เปิดเขาเขียวในอนาคตอย่างแน่นอน รวมทั้งพลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งสวนสัตว์ เขาเขียว มีพื้นที่กว้างจำนนวนมาก สามารถที่จะจัดสร้างแผงโซล่าเซลล์ได้เป็นอย่างดี

“ผมคิดว่าโครงการพลังงานทดแทนในพื้นที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ไม่น่ามีปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากมีวัตถุดิบในการดำเนินการ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรมากและหากได้รับความร่วมมือจากกระทรวงพลังงานแล้ว ปัญหาต่างๆ คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนและควรจะต้องรีบดำเนินการทันที” นายสุริยา กล่าว

นายสุริยา กล่าวต่อว่า โครงการนี้ควรเกิดขึ้นและควรจะรีบดำเนินการโดยเร็ว เพราะจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและลดสภาวะโลกร้อนด้วย ซึ่งขณะนี้ถือว่าเป็นโครงการแรกขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ที่จะดำเนินการที่เขาเขียวก่อน เพราะมีความพร้อมทั้งด้านกระแสลม, แสงอาทิตย์ และมูลสัตว์

สำหรับด้านค่าใช้จ่ายนั้น คาดว่าไม่น่าจะสูงมากเท่าไร เพราะมีอยู่แล้ว เพียงแต่ลงทุนด้าน กังหันลม, แผงโซลาร์เซลล์ รับพลังงานจากแสงอาทิตย์ โดยหากไม่มีปัญหาอะไร คาดว่าภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า โครงการควรจะเกิดเป็นรูปธรรม

กำลังโหลดความคิดเห็น