ตาก - ผู้ว่าฯ ตาก สั่งสอบผู้นำหมู่บ้าน-ชุมชน เรียกรับเงินผลประโยชน์ขึ้นทะเบียนทำประวัติบุคคลไม่มีสถานะ-บุคคลต่างด้าว ที่แม่สอด หลังพ่อเมืองได้รับการร้องเรียนว่า มีการเรียกเงินค่าดำเนินการสูงถึง รายละ 1,000-3,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตากว่า จากการที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้ทำโครงการการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติและเอกสารแสดงตน สำหรับบุคคลที่ไม่มีชื่ออยู่ในระบบทะเบียนราษฎรและเร่งรัดให้สถานะตามกฎหมายกับบุคคล ที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลที่ยังไม่ชัดเจนเพื่อให้เป็นระบบ ตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิบุคคล ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2549
อำเภอแม่สอดได้มอบหมายให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-และชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด เป็นผู้สำรวจ เพื่อออกบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบัตร 10 ปี และปรากฏว่าได้มีบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่าจำนวนหลายหมื่นคนมาขึ้นทะเบียนเพื่อขอทำบัตร ทั้งที่อยู่ใน อ.แม่สอด และถือโอกาสเดินทางมาจากฝั่งพม่าเพื่อมาทำบัตรดังกล่าว
ทำให้เกิดช่องว่างของกระบวนการตรวจสอบและสอบสวนของผู้ดำเนินการ จนนำไปสู่การเกิดปัญหาเรียกรับผลประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนขากบุคคลต่างด้าว รายละ 1,000-3,000 บาท และมีการร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังนายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากและศูนย์ดำรงธรรม
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกรองเปทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหมู่บ้านหรือชุมชนใดที่พอจะได้รับทราบข้อเท็จจริงก็ได้เรียกให้ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และ ประธานชุมชน ที่ถูกร้องเรียนมาสอบสวนและแสดงเจตนาความบริสุทธิ์
การดำเนินโครงการสำรวจทำทะเบียนประวัติดังกล่าวตามคำสั่งที่ ตก.0317.2/ว. 3138 นั้นระบุชัดเจนว่าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น หากพบเห็นผู้ใดมีการเรียกร้องผลประโยชน์จากการดำเนินโครงการ ให้แจ้งนายอำเภอหรือ ผวจ.ตาก ทราบทันทีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวในการเรียกรับเงินและผลประโยชน์อื่นใดจากการขึ้นทะเบียนและทำประวัติบุคคลไม่มีสถานะ ได้เริ่มกระจายไปไปหลายหมู่บ้านและชุมชน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดสืบสวน สอบสวน จังหวัดตาก ต้องทำงานอย่างหนักในการลงพื้นที่ตรรวสอบเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตากว่า จากการที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด จ.ตาก ได้ทำโครงการการสำรวจจัดทำทะเบียนประวัติและเอกสารแสดงตน สำหรับบุคคลที่ไม่มีชื่ออยู่ในระบบทะเบียนราษฎรและเร่งรัดให้สถานะตามกฎหมายกับบุคคล ที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อแก้ไขปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลที่ยังไม่ชัดเจนเพื่อให้เป็นระบบ ตามยุทธศาสตร์การจัดการปัญหาสถานะและสิทธิบุคคล ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2549
อำเภอแม่สอดได้มอบหมายให้กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน-และชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแม่สอด เป็นผู้สำรวจ เพื่อออกบัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน หรือบัตร 10 ปี และปรากฏว่าได้มีบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่าจำนวนหลายหมื่นคนมาขึ้นทะเบียนเพื่อขอทำบัตร ทั้งที่อยู่ใน อ.แม่สอด และถือโอกาสเดินทางมาจากฝั่งพม่าเพื่อมาทำบัตรดังกล่าว
ทำให้เกิดช่องว่างของกระบวนการตรวจสอบและสอบสวนของผู้ดำเนินการ จนนำไปสู่การเกิดปัญหาเรียกรับผลประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนขากบุคคลต่างด้าว รายละ 1,000-3,000 บาท และมีการร้องเรียนเรื่องนี้ไปยังนายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากและศูนย์ดำรงธรรม
ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกรองเปทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหมู่บ้านหรือชุมชนใดที่พอจะได้รับทราบข้อเท็จจริงก็ได้เรียกให้ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และ ประธานชุมชน ที่ถูกร้องเรียนมาสอบสวนและแสดงเจตนาความบริสุทธิ์
การดำเนินโครงการสำรวจทำทะเบียนประวัติดังกล่าวตามคำสั่งที่ ตก.0317.2/ว. 3138 นั้นระบุชัดเจนว่าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น หากพบเห็นผู้ใดมีการเรียกร้องผลประโยชน์จากการดำเนินโครงการ ให้แจ้งนายอำเภอหรือ ผวจ.ตาก ทราบทันทีเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวในการเรียกรับเงินและผลประโยชน์อื่นใดจากการขึ้นทะเบียนและทำประวัติบุคคลไม่มีสถานะ ได้เริ่มกระจายไปไปหลายหมู่บ้านและชุมชน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชุดสืบสวน สอบสวน จังหวัดตาก ต้องทำงานอย่างหนักในการลงพื้นที่ตรรวสอบเรื่องนี้