พะเยา – มือมืดลอบกัดโยนระเบิดน้อยหน่าใส่บ้าน “ยงยุทธ” พันธมิตรฯ พะเยา ขณะที่เจ้าตัวเข้าร่วมชุมนุมกู้ชาติที่กรุงเทพฯ เหลือเพียงภรรยาและลูกอยู่บ้าน โชคดีระเบิดไม่ทำงานแต่ต้องให้ ตชด.เข้าทำการเก็บกู้เพราะมีความรุนแรงสูงและพร้อมระเบิดทุกเมื่อ เชื่อสาเหตุมาจากการเป็นแกนนำคัดค้านการตัดสัญญาณ ASTV และวางพวงหรีดหน้าจวนผู้ว่าฯ
ช่วงสายวันนี้(21 มิ.ย.51) ตำรวจสถานีตำรวจภูรเมืองพะยา รับแจ้งจากนางอนงค์ สายสูงเนิน อายุ 44 ปี ว่ามีวัตถุระเบิดตกอยู่ในบ้านของตนเองจำนวน 1 ลูก ที่บ้านเลขที่ 70/1 ถ.สุสาน ซ.2 ต.เวียง อ.เมืองพะเยา จึงรุดไปที่เกิดเหตุ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้สองชั้น พบลูกระเบิดชนิดน้อยหน่า MK2 ที่พันด้วยเทปสีเขียวจำนวน 1 ลูก ตกอยู่บริเวณหน้าบันไดบ้าน ซึ่งระเบิดดังกล่าวมีรัศมีการทำลายล้าง 15 เมตร อยู่ในสภาพพร้อมระเบิด เพียงแต่ยังไม่ได้ถอดสลักเท่านั้น จึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 ค่ายพญางำเมือง จังหวัดพะเยา เข้าทำการเก็บกู้
นางอนงค์ เจ้าของบ้าน บอกว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.00 น. ขณะที่กำลังจะเข้านอน ได้ยินเสียงรถยนต์ ขับผ่านมาแล้วหยุดตรงหน้าบ้าน จากนั้นมีเสียงเหมือนคนโยนของบางอย่างเข้ามาภายในบ้าน จากนั้นรถคันดังกล่าวก็ขับออกไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงหมาที่เลี้ยงไว้เห่าอย่างต่อเนื่อง จึงเดินออกไปดูทางหน้าประตูบ้านชั้น 2 แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด เนื่องจากหน้าบ้านมืดมาก ไม่มีไฟส่องสว่าง จึงกลับเข้าไปนอน
กระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น.วันนี้(21 มิ.ย.51) ขณะกำลังจะออกจากบ้านไปขายของที่ตลาดสดเมืองพะเยาตามปกติทุกวันก็เห็นระเบิดตกอยู่หน้าบันได จึงได้โทรศัพท์แจ้งนายยงยุทธ สายสูงเนิน ผู้เป็นสามี ที่เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมกับแกนนำพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่เมื่อวานนี้(20 มิ.ย.) และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ยืนยันว่าตนเองไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร
สำหรับนายยงยุทธ สายสูงเนิน นั้น เป็นหนึ่งแกนนำในพื้นที่จังหวัดพะเยา ที่ไม่เห็นด้วยกรณีให้เคเบิ้ลทีวีท้องถิ่นงดถ่ายทอดสัญญาณ ASTV ตามที่นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ขอความร่วมมือตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.51 ทั้งนี้ในวันเดียวกันนั้น นายยงยุทธ ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพะเยา ให้ดำเนินคดีกับผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ในข้อหา “ละเมิดสิทธิการรับรู้ข่าวสารของประชาชน” นอกจากนี้ในวันที่ 18 มิ.ย. ยังได้เป็นแกนนำ พร้อมกับนายชุมพล ลีลานนท์ นำสมาชิกเคเบิ้ลทีวี และประชาชนกว่า 40 คน ร่วมกันวางพวงหรีดหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เพื่อเป็นการประท้วงที่ไม่ให้เคเบิ้ลทีวีถ่ายทอดสัญญาณ ASTV
ด้านนายยงยุทธ ที่ร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่กรุงเทพฯ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า เหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เชื่อว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการที่ตนเองไม่เห็นด้วยกับการให้เคเบิ้ลทีวีตัดสัญญาณ ASTV และเป็นแกนนำพวงหรีดไปวางหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เพราะตนเองไม่เคยมีเรื่องบาดหมางรุนแรงกับใครมาก่อน