ระยอง - ชลประทานระยองยืนยันน้ำมีพอรองรับการใช้งานได้ตลอดปี 2551 ส่วนสถานการณ์ปี 2552 คงต้องพึ่งฝนปลายปีนี้
นายเนตร อัจฉริยะพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระยอง เปิดแถลงข่าวสถานการณ์น้ำปี 2551 ว่า แหล่งน้ำต้นทุนหลักจากลุ่มน้ำคลองใหญ่ (อ่างเก็บน้ำดอกกราย – หนองปลาไหล – คลองใหญ่) วันนี้ (13 มิถุนายน) มีปริมาณน้ำรวมเฉลี่ยร้อยละ 52 ของความจุทั้งหมด เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปี 2547 ต่อเนื่อง 2548 ที่เกิดวิกฤตน้ำแล้วอัตราการใช้น้ำปัจจุบัน ยังยืนยันได้ว่ามีความสามารถที่จะรองรับการใช้งานได้ตลอดถึงสิ้นปี 2551ทั้งน้ำเพื่ออุปโภค – บริโภค น้ำเพื่อการเกษตรและน้ำภาคอุตสาหกรรม
ส่วนสถานการณ์น้ำปี 2552 คงขึ้นอยู่กับปริมาณฝนปลายปี 2551 (สิงหาคม – ตุลาคม 2551) ซึ่งจากการประเมินการคาดการณ์ สภาพฝนทางอุตุนิยมวิทยา คาดว่าปริมาณฝนจะอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยหรือน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับสถานการณ์พร้อมมีการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออก ซึ่งหมายรวมถึงน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค (รองรับการท่องเที่ยว) และการเกษตรด้วย โดยการดำเนินการดังกล่าวจะต้องไม่กระทบกับการใช้น้ำที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระยอง กล่าวต่อว่า ลุ่มน้ำคลองใหญ่เป็นแหล่งต้นทุนหลักที่รองรับการใช้งานจากทุกภาคการใช้น้ำของพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี ปัจจุบันอยู่ในสภาวะที่สมดุล กล่าวคือ ปริมาณน้ำต้นทุนเท่ากับปริมาณการใช้น้ำในรอบปี จึงทำให้ต้องกำหนดมาตรการ เพื่อเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำต้นทุนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองและสามารถรองรับปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นทุกปีอย่างมั่นคง จึงได้มีการกำหนดแผนการต่างๆ ทั้งการเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำดอกกราย – หนองปลาไหล - คลองใหญ่
เพื่อเพิ่มปริมาณกักเก็บ การก่อสร้างระบบผันน้ำประแสร์ – คลองใหญ่ การก่อสร้างระบบผันน้ำจากลุ่มน้ำบางปะกง - อ่างเก็บน้ำบางพระ(ลดการใช้น้ำจากลุ่มน้ำคลองใหญ่จังหวัดระยอง) การก่อสร้างระบบผันน้ำจากคลองวังโตนด จันทบุรี – อ่างเก็บน้ำประแสร์และการพัฒนาอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเพิ่มเติม เพื่อลดการใช้น้ำจากจังหวัดระยอง ซึ่งโครงการต่างๆ ดังกล่าวได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน คาดว่าจะสามารถรองรับปริมาณการใช้น้ำได้จนถึงปี 2568
นายเนตร อัจฉริยะพิทักษ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระยอง เปิดแถลงข่าวสถานการณ์น้ำปี 2551 ว่า แหล่งน้ำต้นทุนหลักจากลุ่มน้ำคลองใหญ่ (อ่างเก็บน้ำดอกกราย – หนองปลาไหล – คลองใหญ่) วันนี้ (13 มิถุนายน) มีปริมาณน้ำรวมเฉลี่ยร้อยละ 52 ของความจุทั้งหมด เมื่อเทียบกับสถานการณ์ปี 2547 ต่อเนื่อง 2548 ที่เกิดวิกฤตน้ำแล้วอัตราการใช้น้ำปัจจุบัน ยังยืนยันได้ว่ามีความสามารถที่จะรองรับการใช้งานได้ตลอดถึงสิ้นปี 2551ทั้งน้ำเพื่ออุปโภค – บริโภค น้ำเพื่อการเกษตรและน้ำภาคอุตสาหกรรม
ส่วนสถานการณ์น้ำปี 2552 คงขึ้นอยู่กับปริมาณฝนปลายปี 2551 (สิงหาคม – ตุลาคม 2551) ซึ่งจากการประเมินการคาดการณ์ สภาพฝนทางอุตุนิยมวิทยา คาดว่าปริมาณฝนจะอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยหรือน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานได้กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับสถานการณ์พร้อมมีการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อรองรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคตะวันออก ซึ่งหมายรวมถึงน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค (รองรับการท่องเที่ยว) และการเกษตรด้วย โดยการดำเนินการดังกล่าวจะต้องไม่กระทบกับการใช้น้ำที่มีอยู่ก่อนแล้ว
ผู้อำนวยการโครงการชลประทานระยอง กล่าวต่อว่า ลุ่มน้ำคลองใหญ่เป็นแหล่งต้นทุนหลักที่รองรับการใช้งานจากทุกภาคการใช้น้ำของพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี ปัจจุบันอยู่ในสภาวะที่สมดุล กล่าวคือ ปริมาณน้ำต้นทุนเท่ากับปริมาณการใช้น้ำในรอบปี จึงทำให้ต้องกำหนดมาตรการ เพื่อเพิ่มศักยภาพแหล่งน้ำต้นทุนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองและสามารถรองรับปริมาณการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นทุกปีอย่างมั่นคง จึงได้มีการกำหนดแผนการต่างๆ ทั้งการเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำดอกกราย – หนองปลาไหล - คลองใหญ่
เพื่อเพิ่มปริมาณกักเก็บ การก่อสร้างระบบผันน้ำประแสร์ – คลองใหญ่ การก่อสร้างระบบผันน้ำจากลุ่มน้ำบางปะกง - อ่างเก็บน้ำบางพระ(ลดการใช้น้ำจากลุ่มน้ำคลองใหญ่จังหวัดระยอง) การก่อสร้างระบบผันน้ำจากคลองวังโตนด จันทบุรี – อ่างเก็บน้ำประแสร์และการพัฒนาอ่างเก็บน้ำขนาดกลางในพื้นที่จังหวัดชลบุรีเพิ่มเติม เพื่อลดการใช้น้ำจากจังหวัดระยอง ซึ่งโครงการต่างๆ ดังกล่าวได้ดำเนินการไปแล้วบางส่วน คาดว่าจะสามารถรองรับปริมาณการใช้น้ำได้จนถึงปี 2568
