ฉะเชิงเทรา - เกิดเหตุสองคนร้ายบุกสาดกระสุนปืน 11 มม.ยิงถล่มใส่กำนันชื่อดังเมืองแปดริ้วคาวงเหล้าในร้านอาหารต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่นั่งร่วมวงเสวนาด้วย ก่อนยิงปะทะกันอย่างดุเดือด สุดท้ายกำนันถูกห่ากระสุนเจาะทะลุผ่านร่างจนพรุน ถูกหามส่งโรงพยาบาล แต่สิ้นใจระหว่างทางขณะตำรวจยังไม่ฟันธงมูลเหตุ เนื่องจากผู้ตายมีศัตรูมาก
เวลา 22.30 น.วานนี้ (9 มิ.ย.) ร.ต.ท.วีรพันธุ์ โสมอินทร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณภายในร้านอาหารครัวต้นหมากซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยเงินผัน ด้านข้างตลาดสดสุวินทวงศ์ เลขที่ 6 ม.1 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมืองฉะเชิงเทราจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นพร้อมเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุลึกเข้าไปภายในซอยซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับธนาคารกสิกรไทยสาขาตลาดสุวินทวงศ์ ห่างจากถนนสายสุวินทวงศ์ (304) ประมาณ 400 เมตร ด้านในร้านเยื้องกึ่งกลางด้านซ้ายที่บริเวณโต๊ะอาหารชั้นล่างซึ่งอยู่ระดับใกล้เคียงกับพื้น พบเพียงเลือดกองใหญ่ ที่บริเวณโต๊ะเก้าอี้ไม้ภายในร้านมีรอยถูกกระสุนปืนเจาะทะลุผ่านจนพรุนจำนวนหลายรู นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดกระเซ็นหยดอยู่ตามพื้นจำนวนมาก
บริเวณพื้นคอนกรีตด้านข้างร้าน พบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกกระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นจำนวนมากถึง 14 ปลอก และบริเวณด้านนอก บนถนนหน้าร้านห่างจากจุดแรกประมาณ 30 เมตรยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 11 มม.ตกอยู่อีกจำนวน 11 ปลอก กระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นถนน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนจำนวนสองคน คือ นายสันติ เกิดศิริ หรือกำนันจ๋อง อายุ 45 ปี กำนันตำบลคลองอุดมชลจร อยู่บ้านเลขที่27 ม.5 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมืองฉะเชิงเทราถูกกระสุนปืนยิงเข้าจนร่างพรุนจำนวน 9 นัด คือ ที่บริเวณราวนมด้านขวาจำนวน1 นัด ที่แผ่นหลัง 3 นัด ที่ศีรษะ 5นัด กระสุนฝังใน 1 นัด และนายศักดิ์ชาย อะจะระกุล หรือตอง อายุ 46ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.6 ต.คลองอุดมชลจร ซึ่งนั่งรวมอยู่ในโต๊ะเดียวกัน ถูกลูกหลงยิงทะลุเข้าที่แขนซ้ายท่อนล่าง1 นัด ถูกช่วยเหลือหามส่งไปยัง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา แต่กำนันจ๋องทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงระหว่างทาง
สอบสวน น.ส.พรทิพย์ ไพเราะ อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 323 ม.5 ต.พัฒนานิคมกิ่ง อ.พัฒนานิคม จ.ระยอง ซึ่งเป็นแคชเชียร์ของร้านอาหารดังกล่าวเล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังนั่งอยู่ภายในสำนักงานหน้าเคาน์เตอร์ ขณะนั้นมีแขกอยู่ภายในร้านเพียง 3 โต๊ะซึ่งเป็นโต๊ะของกลุ่มกำนันจ๋องจำนวน 2 โต๊ะ ของลูกค้ารายอื่นอีก 1 โต๊ะ ได้ยินเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องหลายนัดครั้งแรกเข้าใจว่ามีคนมาจุดประทัดเล่นจึงได้วิ่งออกมาดู ได้เห็นคนร้ายเป็นชายหนึ่งคนสวมชุดเสื้อคลุมสีดำสวมหมวกกันน็อกสีดำได้เข้ามายืนอยู่บริเวณชายคา ริมรั้วไม้กั้นขอบระเบียงด้านข้างเสาของตัวร้านห่างจากโต๊ะของผู้ตายประมาณ 4 เมตร กำลังใช้ปืนยิงใส่โต๊ะถูกร่างของผู้ตายซึ่งนั่งหันหลังอยู่บนเก้าอี้ไม้แบบมีพนักพิงอย่างต่อเนื่องจำนวนหลายนัด จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีคนร้ายอีกคนได้จอดติดเครื่องยนต์รออยู่ขับหลบหนีไป
โดยขณะที่คนร้ายกำลังจะขับรถหลบหนีไป ด.ต.รังสรรค์ ศิริรัตน์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบชุดสืบสวนปราบปราม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ที่นั่งอยู่ภายในโต๊ะเดียวกันกับกำนันจ๋องได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู่กับคนร้าย และวิ่งติดตามออกไปไล่ยิงยังหน้าร้านแต่ไม่ถูกใคร ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีไปได้ ส่วนตนและเพื่อนได้วิ่งเข้าไปประคองตัวกำนันจ๋องนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลเมืองฉะเชิงเทรา
สำหรับร้านอาหารแห่งนี้เปิดเป็นร้านอาหารทั่วไปซึ่งเปิดระหว่างเวลา 11.00 น.จนถึงเที่ยงคืนของทุกวัน โดยปกติกำนันจ๋องมักจะมานั่งดื่มกินอยู่ภายในร้านอยู่เป็นประจำทุกวันเพราะถือเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของร้าน นอกจากนี้ กำนันยังได้มีธุรกิจทำอีกหลายอย่าง ทั้งรถบรรทุกสิบล้อรถตักหน้าดิน และงานรับเหมาอีกด้วย
ขณะที่ ร.ต.ท.วีรพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุหรือประเด็นความขัดแย้งจนเป็นเหตุให้คนร้ายติดตามมาลงมือสังหารผู้ตายได้เพราะผู้ตายมีธุรกิจหลายอย่าง จึงไม่ทราบว่ามีความขัดแย้งกับใครบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายสันตินั้นเป็นคนกว้างขวางที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการธุรกิจหลายด้านจนเป็นที่รู้จักกันดีของคนในจังหวัดฉะเชิงเทราทั้งรถบรรทุกสิบล้อ รับจ้างตักหน้าดิน ถมดิน มีหุ้นส่วนในวงการหมู่บ้านจัดสรรและตลาดสดหลายแห่ง (เช่น หมู่บ้านริมบึง ตลาดสดปองพล ตลาดสดสุวินทวงศ์) นอกจากนี้ยังมีความสนิทสนมกับนายตำรวจระดับสูงบางนาย
แต่ก็เป็นผู้ที่มีศัตรูมากทั้งจากเรื่องส่วนตัว และเรื่องของการหักธุรกิจกับหุ้นส่วน โดยก่อนหน้าเมื่อประมาณกว่า 2 ปี เศษ ได้มีหุ้นส่วนคนสำคัญซึ่งเป็นเจ้าของตลาดสดปองพลถูกยิงเสียชีวิตกลางตลาดสดต่อหน้าแม่ค้าและผู้คนจำนวนมาก และก่อนหน้านี้ยังได้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามบุกเข้าตรวจค้นบ้านและถูกจับกุมนำตัวไปดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ เกี่ยวกับอาวุธปืนซึ่งยังอยู่ระหว่างการขอประกันตัวออกมาต่อสู้คดีหลังจากถูกร้องเรียนว่าเป็นผู้มีอิทธิพล จนมาถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด
เวลา 22.30 น.วานนี้ (9 มิ.ย.) ร.ต.ท.วีรพันธุ์ โสมอินทร์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณภายในร้านอาหารครัวต้นหมากซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยเงินผัน ด้านข้างตลาดสดสุวินทวงศ์ เลขที่ 6 ม.1 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมืองฉะเชิงเทราจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นพร้อมเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและเจ้าหน้าที่จากกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุลึกเข้าไปภายในซอยซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับธนาคารกสิกรไทยสาขาตลาดสุวินทวงศ์ ห่างจากถนนสายสุวินทวงศ์ (304) ประมาณ 400 เมตร ด้านในร้านเยื้องกึ่งกลางด้านซ้ายที่บริเวณโต๊ะอาหารชั้นล่างซึ่งอยู่ระดับใกล้เคียงกับพื้น พบเพียงเลือดกองใหญ่ ที่บริเวณโต๊ะเก้าอี้ไม้ภายในร้านมีรอยถูกกระสุนปืนเจาะทะลุผ่านจนพรุนจำนวนหลายรู นอกจากนี้ยังพบรอยเลือดกระเซ็นหยดอยู่ตามพื้นจำนวนมาก
บริเวณพื้นคอนกรีตด้านข้างร้าน พบปลอกกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกกระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นจำนวนมากถึง 14 ปลอก และบริเวณด้านนอก บนถนนหน้าร้านห่างจากจุดแรกประมาณ 30 เมตรยังพบปลอกกระสุนปืน ขนาด 11 มม.ตกอยู่อีกจำนวน 11 ปลอก กระจายเกลื่อนอยู่บนพื้นถนน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนจำนวนสองคน คือ นายสันติ เกิดศิริ หรือกำนันจ๋อง อายุ 45 ปี กำนันตำบลคลองอุดมชลจร อยู่บ้านเลขที่27 ม.5 ต.คลองอุดมชลจร อ.เมืองฉะเชิงเทราถูกกระสุนปืนยิงเข้าจนร่างพรุนจำนวน 9 นัด คือ ที่บริเวณราวนมด้านขวาจำนวน1 นัด ที่แผ่นหลัง 3 นัด ที่ศีรษะ 5นัด กระสุนฝังใน 1 นัด และนายศักดิ์ชาย อะจะระกุล หรือตอง อายุ 46ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 ม.6 ต.คลองอุดมชลจร ซึ่งนั่งรวมอยู่ในโต๊ะเดียวกัน ถูกลูกหลงยิงทะลุเข้าที่แขนซ้ายท่อนล่าง1 นัด ถูกช่วยเหลือหามส่งไปยัง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา แต่กำนันจ๋องทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงระหว่างทาง
สอบสวน น.ส.พรทิพย์ ไพเราะ อายุ 31 ปีอยู่บ้านเลขที่ 323 ม.5 ต.พัฒนานิคมกิ่ง อ.พัฒนานิคม จ.ระยอง ซึ่งเป็นแคชเชียร์ของร้านอาหารดังกล่าวเล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังนั่งอยู่ภายในสำนักงานหน้าเคาน์เตอร์ ขณะนั้นมีแขกอยู่ภายในร้านเพียง 3 โต๊ะซึ่งเป็นโต๊ะของกลุ่มกำนันจ๋องจำนวน 2 โต๊ะ ของลูกค้ารายอื่นอีก 1 โต๊ะ ได้ยินเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องหลายนัดครั้งแรกเข้าใจว่ามีคนมาจุดประทัดเล่นจึงได้วิ่งออกมาดู ได้เห็นคนร้ายเป็นชายหนึ่งคนสวมชุดเสื้อคลุมสีดำสวมหมวกกันน็อกสีดำได้เข้ามายืนอยู่บริเวณชายคา ริมรั้วไม้กั้นขอบระเบียงด้านข้างเสาของตัวร้านห่างจากโต๊ะของผู้ตายประมาณ 4 เมตร กำลังใช้ปืนยิงใส่โต๊ะถูกร่างของผู้ตายซึ่งนั่งหันหลังอยู่บนเก้าอี้ไม้แบบมีพนักพิงอย่างต่อเนื่องจำนวนหลายนัด จากนั้นได้วิ่งหลบหนีไปขึ้นรถจักยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งมีคนร้ายอีกคนได้จอดติดเครื่องยนต์รออยู่ขับหลบหนีไป
โดยขณะที่คนร้ายกำลังจะขับรถหลบหนีไป ด.ต.รังสรรค์ ศิริรัตน์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบชุดสืบสวนปราบปราม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ที่นั่งอยู่ภายในโต๊ะเดียวกันกับกำนันจ๋องได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู่กับคนร้าย และวิ่งติดตามออกไปไล่ยิงยังหน้าร้านแต่ไม่ถูกใคร ก่อนที่คนร้ายจะขับรถหลบหนีไปได้ ส่วนตนและเพื่อนได้วิ่งเข้าไปประคองตัวกำนันจ๋องนำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลเมืองฉะเชิงเทรา
สำหรับร้านอาหารแห่งนี้เปิดเป็นร้านอาหารทั่วไปซึ่งเปิดระหว่างเวลา 11.00 น.จนถึงเที่ยงคืนของทุกวัน โดยปกติกำนันจ๋องมักจะมานั่งดื่มกินอยู่ภายในร้านอยู่เป็นประจำทุกวันเพราะถือเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของร้าน นอกจากนี้ กำนันยังได้มีธุรกิจทำอีกหลายอย่าง ทั้งรถบรรทุกสิบล้อรถตักหน้าดิน และงานรับเหมาอีกด้วย
ขณะที่ ร.ต.ท.วีรพันธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุหรือประเด็นความขัดแย้งจนเป็นเหตุให้คนร้ายติดตามมาลงมือสังหารผู้ตายได้เพราะผู้ตายมีธุรกิจหลายอย่าง จึงไม่ทราบว่ามีความขัดแย้งกับใครบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายสันตินั้นเป็นคนกว้างขวางที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการธุรกิจหลายด้านจนเป็นที่รู้จักกันดีของคนในจังหวัดฉะเชิงเทราทั้งรถบรรทุกสิบล้อ รับจ้างตักหน้าดิน ถมดิน มีหุ้นส่วนในวงการหมู่บ้านจัดสรรและตลาดสดหลายแห่ง (เช่น หมู่บ้านริมบึง ตลาดสดปองพล ตลาดสดสุวินทวงศ์) นอกจากนี้ยังมีความสนิทสนมกับนายตำรวจระดับสูงบางนาย
แต่ก็เป็นผู้ที่มีศัตรูมากทั้งจากเรื่องส่วนตัว และเรื่องของการหักธุรกิจกับหุ้นส่วน โดยก่อนหน้าเมื่อประมาณกว่า 2 ปี เศษ ได้มีหุ้นส่วนคนสำคัญซึ่งเป็นเจ้าของตลาดสดปองพลถูกยิงเสียชีวิตกลางตลาดสดต่อหน้าแม่ค้าและผู้คนจำนวนมาก และก่อนหน้านี้ยังได้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองปราบปรามบุกเข้าตรวจค้นบ้านและถูกจับกุมนำตัวไปดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ เกี่ยวกับอาวุธปืนซึ่งยังอยู่ระหว่างการขอประกันตัวออกมาต่อสู้คดีหลังจากถูกร้องเรียนว่าเป็นผู้มีอิทธิพล จนมาถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด
