พะเยา - ส.ส.พปช.รีบออกโรงปัดไม่มีทุนตะวันออกกลางกว้านซื้อที่นาเมืองกว๊าน แต่มีนายหน้าหาที่ปลูกปาล์มและจนท.ที่ดินตระเวนสำรวจคาดซื้อที่ดักถนน 4 เลน อดีต ส.อบจ.ย้ำปลุกสำนึกประชาชนรักษ์แผ่นดินเกิดไม่ขายที่นาทำกิน
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวว่าได้มีกลุ่มทุนจากประเทศตะวันออกกลางให้นายหน้าคนไทยเข้ามาตระเวนกว้านซื้อที่ดินบริเวณทุ่งลอ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพะเยาและถือว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของชาวนาลุ่มน้ำอิงในเขตพื้นที่ติดต่อระหว่าง อ.เทิง จ.เชียงราย และ อ.เชียงคำ อ.จุน จ.พะเยา นั้น ตนจึงได้รีบตรวจสอบโดยเร็ว พบว่ากลุ่มที่ได้เข้ามาสอบถามที่ดินบริเวณทุ่งลอไม่ใช่กลุ่มทุนจากตะวันออกกลางแต่อย่างใด
ดังนั้น จึงไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วงเพราะตนได้ย้ำประชาชนเสมอว่าเมื่ออาชีพสำคัญของคนไทยคือการเกษตร โดยเฉพาะการทำนาเมื่อเราสามารถผลิตข้าวรับประทานได้เองจะทำให้เราอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก
ด้าน นายบุญสินธุ์ มังคลาด อดีต ส.อบจ.เขต 2 อ.เชียงคำ จ.พะเยา กล่าวว่า จากการสำรวจและสอบถามประชาชนในพื้นที่ ต.อ่างทอง และ ต.น้ำแวน เพื่อต้องการทราบว่ามีกลุ่มนายหน้าได้พาทุนจากตะวันออกกลางมาหาซื้อที่นาเพื่อทำนาปลูกข้าวให้กับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางนั้นเท็จจริงเพียงใด
ผลการตรวจสอบปรากฏว่ามีเพียงเจ้าหน้าที่ที่ดินรายหนึ่งได้เข้ามาติดต่อสอบถามเกี่ยวกับที่ดินในทุ่งลอ ตั้งแต่ อ.เทิง จ.เชียงราย มาจนถึง อ.เชียงคำ และ อ.จุน จ.พะเยา ซึ่งสอบถามเกี่ยวกับราคาและมีผู้ต้องการจะขายหรือไม่ ประเด็นนี้ตนคิดว่าอาจจะเป็นการมาสอบถามราคาที่ดินเพื่อจะกว้านซื้อดักหน้ารับโครงการก่อสร้างถนนถนนสายแยก ทล.1021- บ้านกิ่วแก้ว อ.เทิง, จุน จ.เชียงราย, พะเยา ซึ่งผ่านทุ่งลอด้วย
ดังนั้น เรื่องนี้ตนจะต้องออกพื้นที่ให้ข้อมูลกับประชาชนที่มีที่ดินทำกินในทุ่งลอไม่ให้ตัดสินใจขายที่ เพราะปัจจุบันที่ดินทำกินเริ่มน้อยลงทุกที ส่วนการปั่นราคาที่ดินตามที่มีได้มีโครงการถนนผ่านทุ่งลอนั้นก็ยังไม่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน นายสมาน บัวจ้อย เกษตรกรทำนาทุ่งลอ บ้านปางมดแดง หมู่ 9 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ กล่าวว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีกลุ่มนายหน้าบางกลุ่มพยายามเข้ามาสอบถามหาซื้อที่นาบริเวณทุ่งลอ เพื่อนำไปใช้เป็นพื้นที่ปลูกปาล์มผลิตน้ำมัน โดยให้ราคาไร่ละ 25,000 บาท แต่สำหรับกระแสว่านายหน้าคนไทยมาติดต่อขอซื้อที่ให้กับกลุ่มทุนประเทศตะวันออกกลางนั้นไม่มีข้อมูลที่เกิดขึ้นในพื้นที่แต่อย่างใด
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวว่าได้มีกลุ่มทุนจากประเทศตะวันออกกลางให้นายหน้าคนไทยเข้ามาตระเวนกว้านซื้อที่ดินบริเวณทุ่งลอ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดพะเยาและถือว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของชาวนาลุ่มน้ำอิงในเขตพื้นที่ติดต่อระหว่าง อ.เทิง จ.เชียงราย และ อ.เชียงคำ อ.จุน จ.พะเยา นั้น ตนจึงได้รีบตรวจสอบโดยเร็ว พบว่ากลุ่มที่ได้เข้ามาสอบถามที่ดินบริเวณทุ่งลอไม่ใช่กลุ่มทุนจากตะวันออกกลางแต่อย่างใด
ดังนั้น จึงไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วงเพราะตนได้ย้ำประชาชนเสมอว่าเมื่ออาชีพสำคัญของคนไทยคือการเกษตร โดยเฉพาะการทำนาเมื่อเราสามารถผลิตข้าวรับประทานได้เองจะทำให้เราอยู่ได้อย่างไม่ลำบาก
ด้าน นายบุญสินธุ์ มังคลาด อดีต ส.อบจ.เขต 2 อ.เชียงคำ จ.พะเยา กล่าวว่า จากการสำรวจและสอบถามประชาชนในพื้นที่ ต.อ่างทอง และ ต.น้ำแวน เพื่อต้องการทราบว่ามีกลุ่มนายหน้าได้พาทุนจากตะวันออกกลางมาหาซื้อที่นาเพื่อทำนาปลูกข้าวให้กับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางนั้นเท็จจริงเพียงใด
ผลการตรวจสอบปรากฏว่ามีเพียงเจ้าหน้าที่ที่ดินรายหนึ่งได้เข้ามาติดต่อสอบถามเกี่ยวกับที่ดินในทุ่งลอ ตั้งแต่ อ.เทิง จ.เชียงราย มาจนถึง อ.เชียงคำ และ อ.จุน จ.พะเยา ซึ่งสอบถามเกี่ยวกับราคาและมีผู้ต้องการจะขายหรือไม่ ประเด็นนี้ตนคิดว่าอาจจะเป็นการมาสอบถามราคาที่ดินเพื่อจะกว้านซื้อดักหน้ารับโครงการก่อสร้างถนนถนนสายแยก ทล.1021- บ้านกิ่วแก้ว อ.เทิง, จุน จ.เชียงราย, พะเยา ซึ่งผ่านทุ่งลอด้วย
ดังนั้น เรื่องนี้ตนจะต้องออกพื้นที่ให้ข้อมูลกับประชาชนที่มีที่ดินทำกินในทุ่งลอไม่ให้ตัดสินใจขายที่ เพราะปัจจุบันที่ดินทำกินเริ่มน้อยลงทุกที ส่วนการปั่นราคาที่ดินตามที่มีได้มีโครงการถนนผ่านทุ่งลอนั้นก็ยังไม่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน นายสมาน บัวจ้อย เกษตรกรทำนาทุ่งลอ บ้านปางมดแดง หมู่ 9 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ กล่าวว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีกลุ่มนายหน้าบางกลุ่มพยายามเข้ามาสอบถามหาซื้อที่นาบริเวณทุ่งลอ เพื่อนำไปใช้เป็นพื้นที่ปลูกปาล์มผลิตน้ำมัน โดยให้ราคาไร่ละ 25,000 บาท แต่สำหรับกระแสว่านายหน้าคนไทยมาติดต่อขอซื้อที่ให้กับกลุ่มทุนประเทศตะวันออกกลางนั้นไม่มีข้อมูลที่เกิดขึ้นในพื้นที่แต่อย่างใด
