ชัยภูมิ - ตร.ทาสหุ่นเชิดระบอบทักษิณ ระดมกำลังกว่า 30 คน สกัดรถบัสชาวบ้าน “เขื่อนลำปะทาว” ชัยภูมิ 3 คัน ไม่ให้เดินทางเข้ากรุงชุมนุมใหญ่ร่วมกับพันธมิตรฯ ที่กทม. แกนนำแฉตร.ยุคมารครองเมืองสุดเถื่อนบุกค้นรถ ถ่ายรูปชาวบ้านทุกคนพร้อมข่มขู่ “เอาไว้ให้ญาติดูหากมีอะไรเกิดขึ้น” จากนั้นลากคนขับลงไปขู่ซ้ำ “จะไปต่อก็ได้ แต่ต่อไปข้างหน้าเกิดอะไรขึ้นไม่รับรู้” ก่อนให้เด็กรถขนสัมภาระลงทิ้งข้างถนน ด้าน ปชช.ได้แต่กล้ำกลืนต้องกลับมาปักหลักชุมนุมร่วมเวทีคู่ขนานพันธมิตรฯ ชัยภูมิ หน้าศาลากลางจังหวัดฯ แทน
ช่วงค่ำวันนี้ (5 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดชัยภูมิ ว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. ที่ถนนชัยภูมิ-ตาดโตน หน้าศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดชัยภูมิ อ.เมือง จ.ชัภยูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชัยภูมิ กว่า 30 คน ได้ทำการตรวจสกัด กลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับผลระทบจากการสร้างเขื่อนลำปะทาว จาก 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ซับสีทอง, ต.เก่าย่าดี, ต.ท่าหินโงม และ ต.ท่ามะไฟหวาน ประมาณ 150 คนที่ดินทางลงจากสันเขื่อนลำปะทาว ซึ่งได้ปักหลังชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาความเดือดร้อนมานานหลายเดือนแล้ว เพื่อเดินทางไป ทำบุญทอดผ้าป่าที่วัดดาวคะนองกรุงเทพฯ และร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ที่ถนนราชดำเนิน เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ
นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี รองประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จ.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า หลังจากติดต่อประสานกับแกนนำชาวบ้านลำปะทาวทราบว่าเมื่อรถบัสชาวบ้านทั้ง 3 คน เดินทางมาถึงหน้าศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดชัยภูมิ ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 30 คนเข้าสกัดให้หยุดรถอย่างกะทันหัน แล้วเดินขึ้นตรวจค้นและสอบถามชาวบ้าน พร้อมกับบันทึกภาพชาวบ้านที่อยู่บนรถทุกคนด้วย
เมื่อชาวบ้านถามว่า ถ่ายภาพไปทำไม ก็ถูกย้อนกลับว่า “ถ่ายไว้ให้ญาติที่บ้านดู เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น” ทำให้ชาวบ้านที่อยู่บนรถตื่นตกใจกับคำพูดข่มขู่ที่ออกจากปากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ มีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชนและ รักษากฎหมายบ้านเมือง แต่เมื่อชาวบ้านถามอีกว่า เจ้าหน้าที่สกัดให้หยุดรถทำไม ก็ตอบกลับว่า เป็นนโยบายตรวจค้นตามปกติ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกคนขับรถทุกคันให้ลงจากรถ พูดคุยกับคนขับรถสักพัก ก็ให้เด็กรถขนสัมภาระที่อยู่บนรถลงมาวางทิ้งไว้บริเวณข้างถนน แล้วบอกกับชาวบ้านว่า “ไปต่อไม่ได้แล้ว” เมื่อถามกลับว่าทำไม ทั้งๆ ที่ก็ได้ขออนุญาตเดินรถถูกต้อง ทางด้านเจ้าของรถตอบว่า ตำรวจบอกว่า “จะไปต่อก็ได้ แต่ต่อไปข้างหน้าเกิดอะไรขึ้นไม่รับรู้นะ” คำพูดนี้ทำให้คนขับรถ และเจ้าของรถที่เดินทางไปด้วยเสียขวัญ ไม่กล้าที่จะขับต่อไป จึงขอความเห็นใจกับชาวบ้าน และขอร้องให้ยกเลิกการจ้างรถที่จะเดินทางทั้ง 3 คัน
จนกระทั้งเวลาประมาณ 17.30 น. วันเดียวกันนี้ (5 มิ.ย.) ชาวบ้านกลุ่มลำปะทาว ทั้งหมด จึงขอร้องให้ให้รถบัสทั้ง 3 คัน ไปส่งที่ลานคนเมือง สวนกาญจนาภิเษก หน้าศาลากลาง (หลังใหม่) จังหวัดชัยภูมิ เพื่อปักหลักกินนอน เรียกร้องสิทธิ และร่วมชุมนุม กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดชัยภูมิ, สมัชชาประชาชนแห่งประทศไทยจังหวัดชัยภูมิ ,ยามเฝ้าแผ่นดินชัยภูมิ และ ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ที่ได้ร่วมกันเปิดเวทีสาธารณะการเมืองภาคประชาชน “ประชาชนเจ้าของประเทศ สำแดงตน แก้วิกฤตชาติ” ซึ่งเป็นเวทีคู่ขนานที่จัดต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. เป็นต้น เพื่อขยายแนวร่วมและ สนับสนุนการชุมนุมของพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ที่ถนนราชดำเนิน เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ จนถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายเพิ่มเติมว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 21.00 น. ทางกลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากเขื่อนลำปะทาว กว่า 150 คนดังกล่าว พร้อมด้วยประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ จ.ชัยภูมิ และองค์กรเครือข่าย รวมประมาณ 200-300 คน ได้ตกลงที่จะการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถโดยสารประจำทางร่วมกัน พร้อมทั้งได้ยกขบวนมารอซื้อตั๋วและทยอยขึ้นรถโดยสารประจำทางมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดชัยภูมิ อ.เมือง จ.ชันภูมิ ซึ่งคาดว่าจะเดินทางได้ทั้งหมดก่อน 24.00 น. คืนนี้ ( 5 มิ.ย. )