ชัยภูมิ - ตำรวจชัยภูมิ ตั้งด่านสกัดจับรถปิกอัพลักลอบขนกัญชารายใหญ่ จากหนองคายไปส่ง ที่จ.พัทลุง คนร้ายพยายามซิ่งรถหนีแต่ไม่รอดจนมุมรวบได้ 1 หนีรอด 1 ราย พร้อมของกลางกัญชาจำนวนมาก 117 กิโลกรัม มูลค่าหลายล้านบาท เผยขบวนการกลุ่มนี้อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังวัดชัยภูมิ นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.) ชัยภูมิ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมการลักลอบขนกัญชารายใหญ่
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากตำรวจ สภ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ สืบทราบมาว่า จะมีการใช้เส้นทางลักลอบนำยาเสพติดประเภทกัญชาผ่านจังหวัดชัยภูมิ จึงได้มีการร่วมวางแผนสกัดจับกุม โดยหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ สภ.จัตุรัส นำโดย พ.ต.ท.ธรรมชาติ โคกขุนทด และ พ.ต.ต.ปรีชา สมใจ สวป.สภ.จัตุรัส พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกว่า 10 นาย ได้ตั้งจุดตรวจสัมพันธ์ คอยติดตามสถานการณ์ บริเวณหน้าโรงเรียนจัตุรัสวิทยาคาร ถนนชัยภูมิ-สีคิ้ว เห็นรถต้องสงสัยได้เลี้ยวหลบหนีจุดตรวจเข้าไปในซอยข้างโรงเรียน
เจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตามขอเข้าตรวจค้น และรถยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าวพยายามโยนสิ่งของที่บรรทุกมาลงข้างถนน จากการตรวจค้นจึงพบว่าเป็นกัญชา และรีบไล่ล่ารถยนต์ดังกล่าว พร้อมประกาศให้หยุดรถ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น เมื่อเห็นท่าว่าหนีไม่ไปรอดรถยนต์ต้องสงสัยจึงยอมหยุดแต่โดยดี
ทราบชื่อผู้ต้องหาภายหลัง คือ นายสมชัย เขตจัตุรัส อยู่บ้านเลขที่ 687 ม.10 ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นเจ้าของรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน บต 2944 ชัยภูมิ จึงได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางยาเสพติดเป็นกัญชาอัดแท่ง น้ำหนัก 117 กิโลกรัม มูลค่าหลายล้านบาท และรถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 5(กัญชา) มาไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายต่อไป
พล.ต.ต.เดชา ชวยบุญชม ผบก.ภ.จว.ชัยภูมิ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมชัย เขตจัตุรัส ผู้ต้องหาให้การว่า ได้รับจ้างขนกัญชามาจากจังหวัดหนองคาย ร่วมกับนายหน่อย ไม่ทราบชื่อจริง ให้ไปส่งที่จังหวัดพัทลุง แต่ไม่รู้ว่าใครจ้างวาน เพราะใช้วิธีบอกผ่านทางโทรศัพท์ เมื่อถึงจุดหมายก็จะจ่ายเป็นเงินสด ได้รับค่าจ้างขนเที่ยวละครั้งละ 100,000 บาท ครั้งนี้ทำเป็นครั้งที่ 2 แล้ว
ผู้ต้องหากลุ่มนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาตลอด หลังสืบทราบว่าจะมีการขนยาเสพติดผ่านมาที่จังหวัดชัยภูมิ โดยใช้เส้นทางผ่านอำเภอจัตุรัส จึงได้สั่งการตั้งด่านสกัด จนสามารถจับกุม แต่นายหน่อย ผู้ต้องหาอีกคนหลบหนีไปได้ ซึ่งจะเร่งจับกุมมาดำเนินคดี
“ส่วนการขนกัญชาจำนวนนี้มีจุดประสงค์ลงไปยังภาคใต้ อาจจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ไม่หวังดีและก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะได้ขยายผลว่าหาผู้เกี่ยวข้องต่อไป” พล.ต.ต.เดชา กล่าว