สุโขทัย/เชียงราย – ชาวนาสุโขทัยฮือประท้วงไม่หยุด โวยรัฐบาล - “เจ๊มิ่ง” ยื้อเวลารับซื้อข้าว แม้ประกาศรับจำนำแล้ว แต่ยังไม่มีจุดรับซื้อ ขีดเส้น 8 มิ.ย.หากยังไม่มีรับซื้อข้าว-ออกใบประทวนให้ ยกพลปิดถนนเชื่อมพิษณุโลกแน่นอน ย้ำที่ผ่านมาถูกรัฐบาลหลอกซ้ำซาก ด้านกลุ่ม ส.ส.พปช.เมืองพ่อขุนฯ เรียงหน้ายืนยันรัฐบาลไม่เคยทิ้งปัญหาชาวนา แต่ล่าสุดพบเกษตรกรเชียงรายที่แห่ขายข้าวเปลือกเหนียวตามข้อตกลง เมื่อเดือนที่แล้ว วันนี้ยังไม่ได้เงินกันแม้แต่รายเดียว
ที่ จ.สุโขทัย วันนี้ (5 มิ.ย.) ชาวนาในพื้นที่ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย และ อ.บางระกำ กับ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก จำนวนกว่า 500 คน ได้รวมตัวกันที่บริเวณวัดใหม่สุขเกษม ต.บ้านใหม่สุขเกษม อ.กงไกรลาศ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดจุดรับจำนำข้าว หรือหาพ่อค้าคนกลางมาช่วยซื้อเป็นการเร่งด่วน หลังจากรัฐบาลโดยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศรับจำนำข้าวเปลือกความชื้น 15%ในราคา 14,000 บาท/ตันแล้ว โดยมีนายวันชัย สุทิน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อมตัวแทนจาก ธ.ก.ส. โรงสีข้าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมเจรจาหาข้อยุติ
บรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด และเกิดการโต้แย้งระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดกับม็อบชาวนา ต้องใช้เวลาเจรจานานกว่า 1 ชม. จึงได้ข้อยุติในการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย ได้ขอร้องให้โรงสีโชคชัยธัญญกิจ ที่เป็นผู้รับซื้อข้าวเปลือกรายใหญ่ของพื้นที่ อ.กงไกรลาศ รับฝากข้าวและออกตั๋วให้กับชาวนา โดยจะมีการแต่งตั้งตัวแทนแต่ละฝ่ายเป็นกรรมการร่วมตรวจรับข้าว เพราะชาวนาไม่ไว้วางใจโรงสีที่รับซื้อ
นายอรุณ รอดสวัสดิ์ อดีตกำนัน ต.บ้านใหม่สุขเกษม ตัวแทนชาวนาครั้งนี้ กล่าวว่า แม้จะมีโรงสีที่รับฝากและออกตั๋วให้แก่ชาวนา แต่ชาวนาก็ต้องการความมั่นใจ โดยในวันที่ 8 มิ.ย.51 นี้ ธ.ก.ส.สาขากงไกรลาศ จะต้องออกใบประทวนให้กับชาวนาที่ขายข้าวทั้งหมด เพื่อรับประกันว่าจะได้เงินอย่างแน่นอน
“ถ้าวันที่ 8 พวกเราไม่ได้ใบประทวนตามที่ได้ตกลงกันไว้ ก็จะไม่มีการเจรจากันอีกต่อไป และพวกเราทั้งในพื้นที่ อ.กงไกรลาศ และ อ.บางระกำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก กว่า 3,000 คน จะทำการปิดถนน 4 เลน สายพิษณุโลก-สุโขทัย บริเวณหมู่ 5 ต.บ้านใหม่สุขเกษม ทันที”
นายอรุณ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้รับปากว่าจะช่วยเหลือมาตลอด แต่สุดท้ายก็หลอกกันซ้ำซากจนพวกเราไม่ไว้วางใจคำพูดของรัฐบาลอีกแล้ว และเราก็ไม่อยากให้แก้ปัญหาด้วยการซื้อเวลาไปวันๆ เพราะชาวนาจะตายอยู่แล้ว จึงขอวิงวอนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รมว.พาณิชย์ รีบให้การช่วยเหลือชาวนาเร่งด่วน เพราะราคาข้าวเหลือแค่ 8,200 บาท แต่ราคาน้ำมันตอนนี้ถังละ 8,200 บาท ปุ๋ยลูกละ 1,300 บาท แล้วชาวนาจะไม่ตายได้อย่างไร ทั้งนี้ ขอยืนยันอีกครั้งว่า การรวมตัววันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหนุนหลัง อย่าพยายามเบี่ยงประเด็น เพราะนี่คือปัญหาของชาวนาที่กำลังรอวันตายเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้จะได้ข้อยุติเบื้องต้น แต่ชาวนาส่วนใหญ่ก็ยังไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะทำตามสัญญา เพียงแต่ซื้อเวลาไปเท่านั้น ซึ่งชาวนาบางคนก็กล่าวด้วยอารมณ์ว่า “ชาวนานั้นตัวโง่ เขาว่าไงก็ว่าตาม แต่พอถึงเวลาไม่เคยเป็นจริง และวันนี้ก็โดนหลอกอีกแล้ว”
ส่วนที่จังหวัดเชียงราย หลังจากนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมกับนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย เขต 1 จ.เชียงราย และ เลขานุการวิปรัฐบาล, นายสฤษฏ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส.เชียงราย เขต 1,นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย,นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการ คณะกรรมการ คุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้เดินทางตรวจห้างสรรพสินค้าชื่อดังในจังหวัดเชียงรายเมื่อ 4 มิ.ย.51 ที่ผ่านมา พบว่า ข้าวสารถุง ขนาด 5 กก.มีวางจำหน่ายอยู่เต็ม และประชาชนสามารถหาซื้อได้ โดยราคาข้าวสารหอมเจ้ามะลิ 5 กก. ราคาตั้งแต่ถุงละ 185-220 บาท หรือเฉลี่ย กก.ละ 37-44 บาท, ข้าวเจ้าขาว ราคาถุงละ 160-169 บาท หรือ เฉลี่ย กก.ละ 32-33.8 บาท
นายสฤษฏ์ อึ้งอภินันท์ ส.ส.เชียงราย เขต 1 ซึ่งครอบครัวมีธุรกิจโรงสีที่ ต.ท่าสาย อ.เมืองเชียงราย เปิดเผยว่า ราคาข้าวที่โรงสีซื้อจากชาวนานั้น หากเป็นข้าวเปลือกเจ้าธรรมดา กก.ละประมาณ 14,000 บาทต่อตัน หรือ กก.ละ 14 บาท ซึ่งหากนำข้าวเปลือกมาสี ข้าวเปลือก 2.5 กก.จะได้ข้าวสาร 1 กก.
ดังนั้น ข้าวเปลือกเจ้าต้องใช้เงินซื้อราว 35,000 บาทต่อตัน จึงจะสีได้เป็นข้าวเจ้า 1 ตัน (1,000 กก.) หรือต้นทุน กก.ละ 35 บาท นอกจากนี้ยังมีรายได้จากข้าวสารหัก และแกลบ ก่อนนำมาบรรจุถุงขาย ส่วนราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคารับซื้อตันละเกือบ 20,000 บาท หรือ กก.ละเกือบ 20 บาท
ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือ โรงสีไม่สามารถส่งออกได้จึงรับซื้อน้อยลง ไม่ได้เอาเปรียบชาวนาอย่างที่คิด เพราะมีต้นทุนที่สูงมาก
ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย เขต 1 และ เลขานุการวิปรัฐบาล กล่าวว่า ช่วงที่ชาวนาเชียงรายปิดถนนเมื่อเดือน พ.ค. ได้มีการประสานงานกับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ และ นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน และทุกฝ่าย ไม่ได้ทิ้งปัญหา และจะติดตามราคาข้าวอย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐบาลมีมาตรการรับจำนำข้าว
ขณะที่ นายศร พิบูลย์ ผู้ใหญ่บ้านไร่อ้อย ม.3 ต.สันติสุข อ.พาน กล่าวว่า หลังจากชาวนาได้ขายข้าวเปลือกเนียวนาปรัง ราคา ตันละ ราว 8,000 บาท ตามแนวทางของ นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ซึ่งได้ประสานกับ นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้จัดตั้งจุดรับซื้อข้าวเปลือกเหนียวนาปรังในจังหวัด ราว 10 จุด เช่น โรงสีสหกรณ์ ต.เมืองงาน อ.พาน, ท่าข้าวเปลือกพิชเยส บ้านสันต้นตอง ม.9 ต.ม่วงคำ อ.พาน, โรงสีโชคชัยพืชไร่ ม.4 ต.ทานตะวัน อ.พาน ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.นี้ และขณะนี้ยังมีการขายข้าวกันต่อเนื่อง
แต่จากการไปตรวจสอบกับ ธ.ก.ส.ยังไม่พบว่าโรงสีได้มาเปิดบัญชี ซึ่งชาวนาหวังว่าภายใน 15 วันหลังจากขายข้าวจะได้รับเงินตามสัญญา โดยอีกราวสัปดาห์จะเริ่มครบกำหนดเวลา 15 วัน หลังการขายข้าว ดังนั้นกลุ่มชาวนาจะติดตามข่าวจากราชการใกล้ชิด
