ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เครือข่ายพันธมิตรประชาชนภาคเหนือประกาศระดมคนเข้ากรุงเทพฯ ร่วมชุมนุมใหญ่ค้านแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมเดินหน้ารวบรวมเงินบริจาคสนับสนุนการชุมนุมคาดได้อย่างต่ำ 300,000 บาท เผยมีความตั้งใจที่จะเปิดเวทีควบคู่การชุมนุมที่เชียงใหม่แต่ไม่สามารถทำได้เพราะสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย
วันนี้ (28 พ.ค.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ เครือข่ายพันธมิตรประชาชนภาคเหนือ ได้แถลงข่าวแสดงจุดยืนการร่วมเคลื่อนไหวร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ เพื่อคัดค้านความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550
นายเฉลิมพล แซมเพชร ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนภาคเหนือ กล่าวว่า ทางเครือข่ายสนับสนุนการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยในการนัดชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ ในวันศุกร์ (30 พ.ค.) จะมีการระดมสมาชิกเครือข่ายเข้าร่วมการชุมนุมด้วย ซึ่งจะพยายามระดมคนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้
ขณะเดียวกัน จะมีระดมเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนการชุมนุมในครั้งนี้ด้วย โดยตั้งเป้าระดมเงินบริจาคให้ได้ 300,000 บาท ภายในวันศุกร์นี้ ซึ่งเบื้องต้นสามารถระดมเงินได้แล้ว 100,000 บาท และโอนเข้าบัญชีของ ASTV ไปแล้ว
สำหรับการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่กรุงเทพฯ ในเบื้องต้นไม่ขอเปิดเผยว่า จะเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมด้วยวิธีการหรือเส้นทางใด เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเวลานี้ทราบว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการทำหนังสือเวียนให้มีการตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ รวมทั้งประสานผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พยายามหน่วงเหนี่ยวผู้ที่จะเข้าไปร่วมชุมนุมไว้ โดยความละมุนละม่อมภายใต้กฎหมาย ซึ่งเป็นวิธีการที่ทางเครือข่ายไม่เห็นด้วยและเรียกร้องให้มีการยกเลิกความพยายามหน่วงเหนี่ยวดังกล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนภาคเหนือ กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการจัดเวทีชุมนุมที่เชียงใหม่ว่า มีความตั้งใจที่จัดเวทีควบคู่ไปกับการชุมนุมของพันธมิตรฯ เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ไม่สามารถหาสถานที่ที่มีความเหมาะสมได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับสภาพว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการจัดเวทีในลักษณะนี้ แต่ทั้งนี้ยังคงมีความตั้งใจอยู่ที่จะจัดเวทีในลักษณะของการให้ข้อมูล
นอกจากนี้ นายเฉลิมพล ย้ำจุดยืนว่า เครือข่ายฯ ไม่เห็นด้วยหากจะมีการรัฐประหารเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้ เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 อย่างเร่งด่วยในเวลานี้ โดยหวังว่าจากการเคลื่อนไหวของประชาชนที่ไม่เห็นด้วยจำนวนมากเช่นนี้ ในที่สุดแล้วกลุ่ม ส.ส.และ ส.ว.ที่พยายามผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 จะยอมถอนญัตติดังกล่าว
ส่วน นางชมพูนุท โทสินธิติ ผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนภาคเหนือ กล่าวว่า แทนที่รัฐบาลจะพยายามผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเร่งด่วนในเวลานี้ รัฐบาลควรจะหันไปให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชนมากกว่า