บุรีรัมย์ - ชาวนาบ้านกรวด บุรีรัมย์ ที่ทำนาส่งข้าวตัดดอกเบี้ยเงินกู้นายทุนปีละ 12 กระสอบมานานกว่า 30 ปี จากหนี้สินที่แม่กู้ยืมเงินมารักษาพี่ชายพียง 20,000 บาท ได้รับการช่วยเหลือจาก “มูลนิธิชัยสารสุนทร” ผู้ใจบุญแล้ว ท่ามกลางน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มของครอบครัวชาวนาที่ไม่นึกว่าวันนี้จะมาถึง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ว่า พระครูชัยสารสุนทร เจ้าคณะเขตดอนเมือง-หลักสี่ เจ้าอาวาสวัดเวฬุวนาราม ประธานมูลนิธิชัยสารสุนทร พร้อมคณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้เดินทางมาปลดเปลื้องหนี้สินให้กับครอบครัว นางบุญเพ็ง ศรีหานาม อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 5 ต.โนนเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ หญิงชาวนา กตัญญู ที่ทำนาปลูกข้าวนำผลผลิตที่ได้ส่งไปตัดดอกเบี้ยเงินกู้กับนายทุน
หลังจากที่มารดาของนางบุญเพ็ง ได้ไปกู้ยืมเงินจาก นายกวน โคประโคน อายุ 56 ปี บ.ฉันเพล ต.เขาดินเหนือ อ.บ้านกรวด จำนวน 20,000 บาท เพื่อมารักษาพี่ชายที่ป่วยด้วยโรคไต และเสียชีวิตไปเมื่อปี 5 ก่อน แต่ครอบครัวจนปัญญาที่จะหาเงินต้นไปใช้คืนให้กับนายทุนได้ ต้องนำผลผลิตข้าวที่ได้จากการทำนาไปตัดดอกเบี้ยเงินกู้ ปีละ 12 กระสอบ ตลอดระยะเวลายาวนานกว่า 30 ปี ซึ่งแต่ละปีนางบุญเพ็งจะได้ผลผลิตข้าวจากการทำนาเพียง 30 กระสอบเท่านั้น ส่วนที่เหลือเก็บไว้บริโภคในครอบครัว และเลี้ยงบิดามารดาที่แก่ชราที่ไม่สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้
โดยการปลดเปลื้องหนี้สินดังกล่าว พ.ต.ท.นิยม ทรายฉิมพลี พนักงานสอบสวน (สบ.3) ได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และมี พ.ต.ท.เสนอ รัตน์ประโคน รองผู้กำกับสืบสวนสอบสวน สภ.บ้านกรวด เป็นพยานด้วย
พระครูชัยสารสุนทร กล่าวว่า ที่มาให้การสงเคราะห์ปลดหนี้ให้กับครอบครัวนางบุญเพ็ง หลังจากทราบข่าว และไม่เคยคิดเลยว่าชาวนาไทยจะมีเคราะห์กรรมเดือดร้อนถึงขนาดนี้ เพราะทางโลกได้เปลี่ยนแปลงไปมาก หลังได้รับการสงเคราะห์ก็เชื่อว่าครอบครัวนี้จะมีความเป็นอยู่ดีขึ้นเหมือนกับครอบครัวอื่น
ด้าน นางบุญเพ็ง ได้กล่าวทั้งนำตาด้วยความปลาบปลื้มว่า ครอบครัวไม่มีที่นาเป็นของตัวเอง ต้องอาศัยที่นาญาติพี่น้องที่เห็นใจและสงสารทำกิน การหยิบยื่นความเอื้ออาทรของมูลนิธิชัยสารสุนทร ทำให้ครอบครัวของนางบุญเพ็ง ต้องหลั่งน้ำตาแห่งความปราบปลื้มใจ ที่ได้ถูกปลดโซ่ป่วงกรรมที่ต้องประสบมานานกว่า 30 ปี ทั้งที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันนี้จะมาถึง
