เปิดล่อง “แก่งหินเพิง” บนมรดกโลกแล้วพร้อมปรับราคาทัวร์เพิ่มตามพิษเศรษฐกิจ

ปราจีนบุรี – ปรับเพิ่มราคาท่องเที่ยวทริปทัวร์ล่อง “แก่งหินเพิง” ตามเศรษฐกิจปีนี้เริ่มล่องได้แล้ว ชี้ที่ผ่านมาสถิตินักท่องเที่ยวยอดกว่า 200,000 คนรายได้กว่า 30 ล้านบาทปีนี้น้ำมาไวผจญภัยระทึก น้ำมาเร็วกว่าทุกปีบนสายน้ำระดับ 3.5 ประเดิมนักท่องเที่ยวต้นฤดูกาลไปแล้ววันละกว่า 20 ลำ

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (21 พ.ค.51) นายดำริห์ รัตนชินกร รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สะพานหิน และประธานชมรมเรือยางล่องแก่งหินเพิง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เปิดว่า จากที่มีฝนตกติดต่อกันตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย.51 ที่ผ่านมาส่งผลให้ปริมาณน้ำในแก่งหินเพิงบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลกสามารถเปิดล่องแก่งได้แล้วเร็วกว่าปกติ ซึ่งโดยปกติทุกปีจะสามารถล่องแก่งได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ก.ค.ที่มีปริมาณน้ำสูง

ล่าสุดในวันหยุดต่อเนื่องวันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 17 – 19 พ.ค.51 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมาล่องแก่งหินเพิงแล้ววันละกว่า 20 ลำในผู้ประกอบการเรือยาง ทั้งหมด 10 แห่ง โดยระดับความสนุกสนานเร้าใจในการล่องแก่งบนสายน้ำระดับ 3.5 (กระแสน้ำเชี่ยวต้องใช้เทคนิคการพาย)

นายดำริห์ กล่าวต่อว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้นทั้งน้ำมัน ข้าว อาหารนี้ผู้ประกอบการได้เพิ่มอัตราค่าบริการปรับแพกเกจทัวร์ท่องเที่ยวในราคาจากเดิม 1,500 บาท – คน ที่บริการอาหาร – ที่พัก 2 วัน 1 คืนปรับราคาเพิ่มเป็น 1,650 บาท/คน ส่วนนักท่องเที่ยวที่ไม่พักค้างคืนมาเที่ยว 1 – 2 คน ต้องใช้ช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์รอให้ผู้ล่องแก่งครบจำนวนลำละ 8 คนคิดอัตราลำละ 3,500 บาท/ลำ ราคาคนละ 450 บาท/คน

“สำหรับสถิติปริมาณนักท่องเที่ยวปีที่แล้วมีกว่า 200,000 คน สร้างรายได้การท่องเที่ยวแก่ท้องถิ่นกว่า 25 – 30 ล้านบาท ทั้งนี้แรงงานที่เป็นลูกหาบและฝีพายจะเป็นชาวบ้านในแถบพื้นที่ ต.สะพานหิน ต.สำพันตา อ.นาดี จ.ปราจีนบุรีที่ว่างเว้นจากการทำไร่นา” นายดำริห์ กล่าว

สำหรับ “แก่งหินเพิง” เป็นแก่งหินตอนปลายสุดของลำน้ำใสใหญ่ มีลักษณะทางธรณีวิทยาเป็นชั้นหินทราย ในฤดูฝนน้ำจะไหลหลากอย่างรุนแรง มีเกาะแก่งมากมายเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชอบท้าทายสายน้ำอันเชี่ยวในรูปแบบของการล่องเรือผจญแก่ง

สภาพจากจุดปล่อยเรือที่แก่งหินเพิงนี้ลักษณะคล้ายสไลเดอร์ที่เป็นลานหินและมีจุดหักเหจนเกิดกระแสน้ำวนเชี่ยวกราก เป็นแก่งที่อยู่ระดับ 4 – 5 ต้องใช้ความพยายามในการพายเรืออย่างยิ่งจากจุดแก่งหินเพิงดังกล่าวก่อนจะผ่านลงมาถึงแก่งวังบอน ที่จะมีลักษณะโขดหินสองฝั่งขวางกระแสน้ำอยู่และบีบตัวให้น้ำเข้าหากันเป็นตัววีผ่านแก่งวังบอนมาได้กระแสน้ำหลังแก่งจะไหลย้อนทิศทางตรงสามารถพักเรือได้

เรือล่องมาได้สักพักให้หายเหนื่อยจะพบกับแก่งลูกเสือ ซึ่งบรรยากาศสนุกไม่แพ้แก่งหินเพิง แต่ระยะทางสั้นกว่า และผ่านไปยังแก่งงูเห่า จนถึงแก่งวังไทร ซึ่งเป็นการผจญภัยแก่งสุดท้ายของสายน้ำช่วงนี้โดยแก่งวังไทรมีลักษณะเป็นคลื่นใหญ่ม้วนตัวขึ้นเป็นวง ความพิเศษตลอดระยะทางสายน้ำแห่งนี้คือ จะพบแก่งอยู่อย่างต่อเนื่อง การล่องแก่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง อันเป็นช่วงที่ตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา ต่อจากนั้นจะเป็นสายน้ำราบเรียบตลอด และล่องเรือต่อได้ราว 2 ชั่วโมง