สกลนคร - ชาวตำบลหนองบัวสิม 16 หมู่บ้าน ร่วมใจจัดงานประเพณี บุญบั้งไฟปีที่ 38 โดยแต่ละชุมชนตกแต่งบั้งไฟและขบวนแห่เข้าประกวดแข่งขันกันอย่างคึกคัก
ที่วัดทุ่งถาวร บ้านหนองบัวสิม ต.หนองบัวสิม อ.คำตากล้า จ.สกลนคร องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวสิม โดยพันอากาศเอก ธีรวุฒิ บูคะธรรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวสิม ร่วมกับประชาชนในตำบล 16 หมู่บ้าน จัดงานประเพณีบุญบั้งไฟตำบลหนองบัวสิมเป็นปีที่ 38 โดยประชาชนทั้ง 16 หมู่บ้านตกแต่งบั้งไฟและขบวนแห่เข้าประกวดแข่งขันกันอย่างคึกคัก
แต่ละขบวนแต่งกายด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ย้อนยุคอย่างสวยงาม ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางความสนใจของผู้ชมซึ่งมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่ละขบวนประดับประดาบั้งไฟกันอย่างสุดฝีมือ พร้อมทั้งมีผู้แต่งกายเป็นท้าวผาแดงและนางไอ่คำนั่งประจำขบวนแห่บั้งไฟทุกขบวน
เมื่อขบวนการแสดงฟ้อนรำประกอบดนตรีพื้นเมืองของท้องถิ่น ของแต่ละหมู่บ้านเคลื่อนผ่านชุมชน ก็ได้รับความสนใจจากประชาชนออกมาร่วมงานตลอดเส้นทางที่ขบวนผ่านจนถึงวัด และร่วมแรงร่วมใจกันจัดเวทีประกวดฟ้อนรำเซิ้งบั้งไฟ โดยได้รับความสนใจจากทุกหมู่บ้านส่งตัวแทนผู้แสดงเข้าร่วมประกวดประชันขันแข่ง ด้วยลีลาท่าทางที่สวยสดงดงาม เป็นที่สนุกสนานต่อผู้มาร่วมงานอย่างคึกคัก
บุญบั้งไฟ นับเป็นประเพณีความเชื่อที่สำคัญในคนอีสาน นิยมทำกันในเดือน 6 ของทุกปี โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือการทำพิธีขอฝน ชาวบ้านในภาคอีสานถือว่าบุญบั้งไฟเป็นพิธีกรรมที่มีความสำคัญมากหากหมู่บ้านใดไม่จัดงานบั้งไฟก็อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติ เช่น โรคภัยไข้เจ็บ หรือทุพภิกขภัยแก่ชุมชนได้
ในขณะที่ช่วงจัดงานนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านมีงานต้องทำมาก เนื่องจากเป็นฤดูของการทำนาปี ฉะนั้นที่ประชุมผู้ใหญ่บ้านจึงต้องปรึกษาหารือกันเพื่อตัดสินใจว่าจะจัดหรือไม่ในปีนั้น หากตัดสินใจว่าจะไม่จัดแล้วก็จำเป็นต้องไปทำพิธีที่ศาลปู่ตาของบ้านเพื่อขออนุญาตเลื่อนงานบุญนี้ไปในปีหน้า
การจัดงานและการละเล่นในประเพณีบุญบั้งไฟในวันสุกดิบชาวบ้านจะจัดขบวนแห่บั้งไฟยังศาลปู่ตาของหมู่บ้าน ทำพิธีเซ่นสรวง มีการจุดบั้งไฟที่ใช้ในการเสี่ยงทายดูความอุดมสมบูรณ์และความสำเร็จในการทำนาปีนั้น จากนั้นก็พากันกินเหล้าฟ้อนรำรอบศาลปู่ตาเป็นที่สนุกสนาน จากนั้นก็พากันแห่บั้งไฟไปยังสถานที่จัดงาน หรือหมู่บ้านที่จัดงานบุญบั้งไฟเพื่อจุดแข่งขันประกวด ประชันกันต่อไป
ในปัจจุบันบั้งไฟที่ใช้จุดแข่งขัน มีหลากหลายที่นิยมเรียกกัน ได้แก่บั้งไฟหมื่น บั้งไฟแสน บั้งไฟล้าน ซึ่งมีขนาดของดินปืนมากน้อย แตกต่างกันไป ในช่วงที่มีการจุดบั้งไฟนั้นนับเป็นช่วงตื่นเต้นและสนุกสนาน โดยเฉพาะช่างบั้งไฟจะต้องลุ้นมากกว่าใคร เพราะหากบั้งไฟไม่ขึ้นก็จะถูกโยนลงบ่อโคลนนัยว่าเพื่อเป็นการลงโทษ แต่ปัจจุบันนั้น ไม่ว่าบั้งไฟจะขึ้นหรือไม่ขึ้นก็จะมีการโยนโคลน เพื่อความสนุกสนานมากกว่า
ว่ากันว่าการทำบั้งไฟนั้นจะต้องมีการศึกษาเรียนรู้ มีครูและมีศิษย์สืบทอดกันมา โดยทั่วไปจะถ่ายทอดต่อกันเป็นคนๆ เท่านั้น ไม่ใช่คนทั่วไปอยากเรียนก็จะเรียนได้หมด ครูจะเลือกถ่ายทอดให้ตัวต่อตัวสำหรับศิษย์ที่ครูเห็นว่ามีไหวพริบและมีพรสวรรค์ด้านการทำบั้งไฟเท่านั้น